แซคราเมนโต 6 ม.ค.- พายุขนาดใหญ่ด้านมหาสมุทรแปซิฟิกพัดกระหน่ำรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน เมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน
พายุดังกล่าวเกิดจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ 2 อย่างเกิดขึ้นทับซ้อนกันคือ แม่น้ำในชั้นบรรยากาศ (atmospheric river) ซึ่งเป็นกระแสของไอน้ำที่ไหลเวียนและพัดพาเอาความชุ่มชื้นไปทำให้เกิดพายุฝน กับระเบิดไซโคลน (bomb cyclone) ซึ่งเป็นสภาพอากาศที่ศูนย์กลางพายุมีความกดอากาศลดต่ำลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง ทำให้อากาศที่อยู่รอบด้านไหลเข้าไปแทนที่ในจุดศูนย์กลาง เกิดเป็นลมพายุที่มีความเร็วและกำลังแรง
พายุกำลังแรงทำให้เกิดลมแรง ฝนตกหนัก และหิมะตกหนักทั่วรัฐแคลิฟอร์เนีย ตั้งแต่วันพุธต่อเนื่องมาถึงวันพฤหัสบดี ครัวเรือนและธุรกิจมากถึง 180,000 แห่งไม่มีไฟฟ้าใช้ การจราจรบนถนนติดขัดจากน้ำท่วม หินถล่ม และต้นไม้ล้ม มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน เป็นทารกชายที่ถูกต้นไม้ล้มทับรถบ้าน และสตรีวัยรุ่นที่รถลื่นไหลไปชนเสาไฟฟ้า พายุลูกล่าสุดนี้ทำให้นครซานฟรานซิสโกมีฝนตกวัดปริมาณน้ำฝนได้ 2 นิ้ว พื้นที่เทือกเขาตามชายฝั่งและทางใต้ของเมืองมีฝนตกวัดปริมาณน้ำฝนได้ 5-7 นิ้ว ส่วนเทือกเขาเซียร์รา เนวาดา มีหิมะตกสะสม 12-18 นิ้ว
สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของสหรัฐพยากรณ์ว่า จะมีพายุอย่างน้อย 2 ลูกเกิดขึ้นติด ๆ กันในช่วง 1-2 วันนี้ ลูกแรกน่าจะเกิดขึ้นในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น เสี่ยงทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มครั้งใหม่ในพื้นที่ที่มีฝนตกหนักต่อเนื่องอยู่แล้ว รัฐแคลิฟอร์เนียประสบภาวะภัยแล้งมายาวนานกว่า 2 ทศวรรษ สภาพภูมิประเทศที่แห้งแล้งเพราะไฟป่าเผาต้นไม้จนเป็นภูเขาหัวโล้น เสี่ยงทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มฉับพลัน เนื่องจากหน้าดินไม่มีสิ่งปกคลุม.-สำนักข่าวไทย