กรุงเทพฯ 8 พ.ค. – จับตา! วันพรุ่งนี้ กระทรวงพลังงานแถลงราคาดีเซล ตามแผนทยอยขึ้นอีก หลังปรับขึ้นงวดแรก 1 พ.ค. 2 บาทต่อลิตร ไปแล้ว
การแถลงของกระทรวงพลังงาน พรุ่งนี้ จะเดินหน้าตามแผนงานเดิมหรือไม่ เพราะขณะนี้ประชาชนต่างประสบปัญหาค่าครองชีพพุ่งสูงมาก และหากยังขึ้นราคาดีเซลซึ่งเป็นต้นทุนหลักของการขนส่งสินค้าจะทำให้ต้นทุนสินค้าขยับขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงก็ประสบปัญหาอย่างหนัก จากการดูแลราคาดีเซลและก๊าซหุงต้ม ที่ราคาปัจจุบันไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง โดยกองทุนน้ำมันอุดหนุนดีเซลที่ 11.22 บาต่อลิตร ส่งผลให้ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 1 พฤษภาคม ติดลบแล้วกว่า 60,000 ล้านบาท และต้องทำแผนกู้เงินมาเสริมสภาพคล่อง ซึ่งเงินส่วนนี้มาจากผู้ใช้น้ำมัน ขณะที่สถาบันการเงินไม่มั่นใจในการปล่อยกู้ เพราะหากรัฐบาลยังเดินหน้าอุดหนุนราคาพลังงานในระดับที่สูงต่อเนื่องจะทำให้กองทุนฯ มีปัญหาการชำระเงินคืนในอนาคต
ด้านกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้ลดการอุดหนุนดีเซลพรีเมียมต่อเนื่อง วันพรุ่งนี้ (9 พ.ค.) ลดการอุดหนุนอีก 2 บาทต่อลิตร เหลือ 5.59 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซลทั่วไป หรือบี 5 เพิ่มอุดหนุนอีก 27 สตางค์ เป็น 11.22 บาทต่อลิตร
ทั้งนี้ ราคาดีเซลของไทยในขณะนี้เป็นดีเซลผสมไบโอดีเซลร้อยละ 5 หรือบี 5 มีราคาสูงมาก เกิดจากหลายสาเหตุ ล่าสุดดีเซลตลาดโลกสูงขึ้น ราคาสิงคโปร์แตะกว่า 156 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เป็นผลพวงจากทั้งการใช้ที่โลกฟื้นตัวจากโควิด-19 และผลกระทบที่ยุโรปเตรียมคว่ำบาตรการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ขณะที่ค่าเงินบาทไทยอ่อนค่าอยู่ที่ระดับ 34.35 บาทต่อดอลลาร์ และราคาปาล์มทำสถิติสูงสุด ส่งผลราคาไบโอดีเซลบี 100 อยู่ที่ 58.95 บาทต่อลิตร
ลุ้นขยายเวลาลดภาษีดีเซลจากสิ้นสุด 20 พ.ค.นี้
ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อวันศุกร์มีการหารือเรื่องราคาพลังงานแพง แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดแต่อย่างใด ขณะที่มีข้อเรียกร้องจากประชาชน ผู้ประกอบการ ให้รัฐบาลดูแลราคาดีเซล และลดภาษีดีเซลต่อเนื่องด้วย จากที่จะถึงกำหนดการลดภาษีดีเซล 3 บาทต่อลิตร ในวันที่ 20 พฤษภาคมนี้
ล่าสุดราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 31.94 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 41.85 บาท แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 41.58 บาท อี 20 ลิตรละ 40.74 บาท อี 85 ลิตรละ 34.74 บาท
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก เวสต์เท็กซัส ของสหรัฐ เมื่อวันศุกร์เพิ่มขึ้นอีก 1.51 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 109.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็นการปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน เนื่องสหภาพยุโรป หรือ EU เตรียมคว่ำบาตรน้ำมันของรัสเซียได้เพิ่มแนวโน้มที่ปริมาณน้ำมันจะตึงตัว และบรรดาเทรดเดอร์ได้มองข้ามความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมัน ท่ามกลางแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ขณะที่น้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ฝั่งยุโรป เพิ่มขึ้น 1.49 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 112.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันสำเร็จรูปและราคาขายปลีกของไทยด้วย.-สำนักข่าวไทย