กรุงเทพฯ 16 มี.ค.- นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่แจง ขอขึ้นราคาหน้าฟาร์มอีก 20 สตางค์จากปัจจุบัน 3.20 บาท เนื่องจากต้นทุนอาหารสัตว์พุ่งสูงต่อเนื่อง วันนี้จะหารือ ก.พาณิชย์ ว่า จะปรับขึ้นเป็นเท่าไร ชี้มติ Egg Board ให้กำหนดราคาได้ถึง 20% ของต้นทุนการผลิต
นายมาโนช ชูทับทิม นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่กล่าวว่า เตรียมเข้าหารือกับกรมการค้าภายในเกี่ยวกับการปรับขึ้นราคาไข่ไก่ โดยเมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา สมาคมยื่นขอปรับขึ้นราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มจากฟองละ 3.20 บาทเป็น 3.40 บาท โดยปรับอีก 20 สตางค์
สำหรับราคาไข่คละฟองละ 3.20 บาทเป็นราคาตามประกาศของสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่และสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้าและส่งออกไข่ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. แต่ขายจริงไม่เกินฟองละ 3.10 บาทเนื่องจากตรึงราคาเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อผู้บริโภค จึงขอความร่วมมือผู้เลี้ยงให้แบกรับภาระต้นทุนไว้ ส่วนเหตุผลในการขอปรับขึ้นครั้งนี้ แจ้งต่อกระทรวงพาณิชย์ว่า ให้สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นซึ่งมีสาเหตุหลักจากต้นทุนอาหารสัตว์ที่สูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญของอาหารไก่ ราคาขึ้นไปถึง 13 บาท/กิโลกรัม ทั้งยังหาซื้อได้ยาก
ทั้งนี้ต้นทุนการผลิตปัจจุบันอยู่ที่ 2.94 บาท/ฟอง สูงกว่าที่คณะกรรมการนโยบายพัฒนาไก่ไข่และผลิตภัณฑ์ (Egg Board) คำนวณไว้ที่ 2.90 บาท/ฟองและสูงขึ้นกว่าช่วงต้นปีเพราะอาหารสัตว์ปรับขึ้นรายวัน หากรัฐยังตรึงราคาไว้ ไม่ยอมให้ปรับขึ้น เกษตรกรรายย่อยและรายเล็กอยู่ไม่ได้ ขอให้เข้าใจว่า ผู้เลี้ยงไม่ใช่มีแต่รายกลางและรายใหญ่ ที่ผ่านมาแนะนำให้เกษตรกรปลดแม่ไก่ยืนกรงเร็วขึ้น
นอกจากนี้ Egg Board เคยมีมติให้กำหนดราคาขายไข่ไก่คละหน้าฟาร์มได้ 20% ของต้นทุน หากคำนวณจากต้นทุนฟองละ 2.94 บาท ราคาขายจะปรับได้อีก 58 สตางค์หรือฟองละ 3.52 บาท แต่ขอปรับขึ้นจากอีกเพียง 20 สตางค์เป็น 3.40 บาทต่อฟอง แต่จะปรับจริงเป็นเท่าไรขึ้นกับผลการหารือกับกรมการค้าภายในช่วงบ่ายวันนี้ (16 มี.ค.) โดยหวังว่า ภาครัฐจะเข้าใจเกษตรกรด้วย.- สำนักข่าวไทย