สธ.แจงยกเลิกรักษาโควิด-19 ฉุกเฉิน ประชาชนยังมีสิทธิรักษาฟรี

สธ. 14 ก.พ.- สธ.แจง ยกเลิกรักษาโควิด-19 ฉุกเฉิน กลับมารักษาตามสิทธิ์ให้ฟรีทั้งหลักประกันสุขภาพ, ประกันสังคม และสวัสดิการราชการ เพื่อเปิดช่องให้ผู้ป่วยโรคอื่นเข้ารักษาสิทธิฉุกเฉิน ยกเว้นมีอาการเข้าเกณฑ์ฉุกเฉิน พร้อมทำหนังสือถึง คปภ.แจงคนซื้อประกันนอน HI, CI และ Hospitel เบิกจ่ายได้ และได้รับค่าชดเชย เพราะเป็นสถานพยาบาล


นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงการรักษาโรคโควิด-19 ตามสิทธิรักษาว่า ผ่านมาแล้ว 2 ปี คนไทยอยู่กับโควิด-19 โดยขณะนี้ 90% พบเป็นเชื้อโอไมครอน และมีอาการน้อยกว่าเดลตา แบ่งเป็น มีอาการรุนแรงน้อยกว่าเดลตา 7 เท่า, ในผู้ป่วยอาการหนักที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ น้อยกว่าเดลตาถึง 7 เท่า และอัตราการเสียชีวิตก็น้อยกว่า เดลตาถึง 10 เท่า ส่วนใหญ่การรักษาขณะนี้ใช้ระบบ HI และ CI โดยเตียงฉุกเฉินขณะนี้มีสำรองไว้ 30,000 เตียง และมีเตียงผู้ป่วยสีเขียว 130,000 เตียง ซึ่งเดิมเตียงเหล่านี้ เป็นการนำเตียงผู้ป่วยในระบบอื่นมารวมเพื่อใช้ในการดูแลผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยมีอาการหนักโรคอื่น ๆ ต้องเลื่อนการผ่าตัดรักษา

นพ.ธเรศ กล่าวว่า ต้องยอมรับช่วงแรกไม่มีใครรู้จักโควิดมากขึ้น ทำให้ต้องนำเอาผู้ป่วยทุกคนเข้ามาอยู่ในระบบ หรือ รพ.เพื่อรับการรักษา จึงทำให้เกิดการรักษาแบบ UCEP ในโควิด และส่วนใหญ่ของผู้ป่วยเมื่อมีอาการ จึงเลือกการรักษาใน รพ.สังกัดโรงเรียนแพทย์ ทำให้โรงพยาบาลเหล่านั้นไม่สามารถไปให้บริการผู้ป่วยแบบอื่นได้ ทั้งการปรับการสิทธิรักษานี้ ทำให้ผู้ป่วยโควิดกลับไปรักษาตามสิทธิตาม ทั้งระบบประกันสังคม (สปส.) ระบบหลักประกันสุขภาพ (สปสช.) และระบบสวัสดิการราชการ รวมถึงสิทธิของต่างด้าว ตามกองทุนต่าง ๆ ซึ่งเป็นการรักษาฟรีตามสิทธิ์ แต่หากมีอาการเข้าข่ายฉุกเฉินตามระบบ UCEP คือ 1.หมดสติ ไม่รู้สึกตัว ไม่หายใจ 2.หายใจเร็ว หอบ เหนื่อยรุนแรงหายใจติดขัดมีเสียงดัง 3.ซึมลง เหงื่อแตก ตัวเย็น 4. เจ็บหน้าอกเฉียบพลัน รุนแรง 5.แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีกพูดไม่ชัดแบบปัจจุบันทันด่วนหรือชักต่อเนื่องไม่หยุด 6.มีอาการอื่นที่มีผลต่อการหายใจ ระบบการไหลเวียนโลหิต และระบบสมองที่เป็นอันตรายต่อชีวิต หากพบอาการที่เข้าข่าย ก็สามารถใช้สิทธิ์ได้ โดยในส่วนของ สปสช.จะมีการหารือเรื่องสิทธิการรักษานี้ในวันที่ 15 ก.พ.นี้


นพ.ธเรศ กล่าวว่า เพื่อเป็นการสร้างความชัดเจนกับผู้ป่วยที่ซื้อกรมธรรมน์ประกันโควิดกับ บริษัทประกันภัย ทางกรม สบส. และกรมการแพทย์ ได้มีการทำหนังสือถึง คปภ.ภายในสัปดาห์นี้ โดยยืนยันชัดเจนว่า ทั้งระบบการรักษาแบบ HI, CI และ Hospitel ถือเป็นสถานพยาบาลตามที่ทางกรม สบส.ประกาศ มีผลให้ผู้ป่วยที่มารับการรักษาในระบบนี้สามารถเบิกจ่ายได้ตามสิทธิของกรมธรรมน์ รวมถึงค่าชดเชยต่าง ๆ แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ด้วย โดยการประกาศนั้น เกิดขึ้นในช่วงที่เกิดภาวะการขาดแคลนเตียงรักษา ทำให้ต้องประกาศให้สถานที่เหล่านี้ เป็นสถานพยาบาลชั่วคราว

นพ.ธเรศ ยังกล่าวย้ำว่าการกลับมารักษาโควิดตามสิทธิ์ ไม่มีผลกับอัตราการผู้ป่วยติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะขณะนี้โควิดสายพันธุ์โอไมครอน ไม่ได้รุนแรงเท่ากับเดลตา และส่วนใหญ่ของผู้ป่วยก็ไม่มีอาการ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก

ญาติเชื่อพระมรณภาพก่อนถูก “เจ้าจอร์จ” กัดแทะ

ญาติมั่นใจหลวงพี่มรณภาพด้วยโรคประจำตัว ก่อนถูกสุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ที่เลี้ยงไว้ในกุฏิกัดแทะร่างเพราะความหิว วอนอย่าโยนบาปให้สุนัข