ทำเนียบ 7 ม.ค.-นายกฯ ย้ำทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมรับมือการแพร่ระบาดโอไมครอน รวมถึงวางแผนฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3-4 และเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุม คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนท์ ที่มี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ว่า นายกรัฐมนตรี ได้ขอบคุณ ศบค. ที่ได้ร่วมกันทำงานอย่างเต็มกำลัง ทำให้ประเทศไทยผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตที่เกิดขึ้นในปี 2564 ได้ จนได้รับการยอมรับและยกย่องให้เป็นประเทศที่มีความแข็งแกร่งของระบบสาธารณสุขอันดับ 5 ของโลก แต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังไม่ยุติลง ปัจจุบันมีการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งหลายประเทศกลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง โดยที่ไทยยังพบการระบาดสายพันธุ์โอไมครอนจากนักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งที่เดินทางเข้าประเทศ
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเปิดประเทศเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2564 และการจัดงานช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่ได้รับความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุข ขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้ดำเนินการอย่างเข้มแข็ง พร้อมขอประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องแก่ประชาชน ไม่ตื่นตระหนก และให้ ศปก.สธ. และ ศปก.ศบค. เตรียมความพร้อมทางด้านสาธารณสุขของไทย ทั้งเรื่องวัคซีน ยา เวชภัณฑ์ การครองเตียงต่างๆ ให้พร้อม ชุดตรวจ ATK ยารักษาที่จำเป็นต้องมีเพียงพอ รวมทั้งเตรียมโรงพยาบาลสนาม ศูนย์พักคอย เพื่อให้สามารถดูแลช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งเร่งรัดแผนการฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด ซึ่งในปี 2564 สามารถฉีดวัคซีนไปได้ประมาณ 105 ล้านโดส ดังนั้น ต้องวางแผนการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เข็ม 3 และเข็ม 4 และการฉีดวัคซีนให้แก่เด็กนักเรียนอายุต่ำกว่า 12 ปี ด้วยวัคซีนที่ได้รับการรับรองแล้ว เพื่อจะช่วยลดความรุนแรงของโรคโควิด-19 ได้ ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์อะไรก็ตาม
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการท่องเที่ยวจากต่างประเทศว่า จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในไทย ยังมีไม่มากนัก เพราะประเทศต่างๆ ยังคงไม่ให้ประชาชนเดินทางออกนอกประเทศ จึงขอเน้นย้ำให้ประชาชน สถานประกอบการ สถานที่ท่องเที่ยว ยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันแบบครอบจักรวาล และ Covid Free Setting รวมถึงการปฏิบัติงานที่บ้าน Work From Home รวมถึงต้องมีการพัฒนาระบบติดตามตัว แอปพลิเคชันหมอพร้อม หมอชนะ ให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องต่อไป อีกทั้งย้ำว่าประเทศไทยต้องเดินหน้าต่อไป โดยต้องระมัดระวังอย่างที่สุดเพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น โดยต้องให้ความสำคัญในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ขอให้หน่วยงานในพื้นที่ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง ร่วมมือการแก้ปัญหาอย่างเข้มแข็งต่อไป.สำนักข่าวไทย