สธ.24 ธ.ค.- “อนุทิน” โวฉีดวัคซีนทะลุเป้า 102 ล้านโดส เดินหน้าฉีดต่อเนื่อง ขอความร่วมมือผู้ว่าฯ สสจ.ช่วยหนุนนำคนเข้ารับวัคซีน ห่วงปีใหม่ขอจังหวัดเข้มมาตรการป้องกันโควิด
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบรางวัลแก่พื้นที่ประสบความสำเร็จในการฉีดวัคซีน ทั้งภาพรวมและกลุ่มเสี่ยง 608 โดยการฉีดวัคซีนขณะนี้ทะลุเป้าไปถึง 102 ล้านโดสแล้ว และยังคงเดินหน้าฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง ผู้ที่ยังรับวัคซีนไม่ครบ ขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัด และสาธารณสุขจังหวัดช่วยนำคนเหล่านั้นมารับวัคซีนให้ครบตามแนวทางแพทย์ เนื่องจากมีสายพันธุ์โอไมครอนเข้ามา แต่ช่วง 1 เดือนที่ผ่านก็พิสูจน์แล้ว การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น หรือ บูสเตอร์โดสช่วยลดความรุนแรงของโรคและลดการเสียชีวิต จึงต้องรณรงค์ให้คนมารับวัคซีนกันทั้งเข็ม 3-4 หรือในอนาคต เข็ม 5-6 ก็ตาม
นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้มีวัคซีนเพียงพอที่จะฉีดให้กับประชาชนและทราบข้อมูลจาก บ.แอสตราฯ ที่ออกแถลงการณ์ประสิทธิภาพของวัคซีนเข็มระตุ้น หรือเข็ม 3 ช่วยป้องกันโอไมครอน ทั้งการติดเชื้อ ลดเจ็บป่วยรุนแรง และเสียชีวิต ทั้งนี้จากข้อมูลเบื้องต้นเชื่อว่าโอไมครอนจะไม่แสดงฤทธิ์ มากกว่าสายพันธุ์อื่นที่ไทยผ่านมาแล้ว เชื่อไทยจะสามารถคุมสถานการณ์ได้ เนื่องจากไทยมีวัคซีน และสามารถตรวจหาสารพันธุกรรม และยาที่ผลิตเองและจัดหาต่างประเทศได้ เชื่อด้วยประสบการณ์การทำงานโควิดที่สะสม มา 2 ปี ขอให้ทุกผ่านไปได้ในสิ้นปีนี้
นายอนุทิน ยังย้ำ ฝากไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่ เคาท์ดาวน์ ขอให้เข้มงวด หากมีความเสี่ยงมากกว่าผลที่จะได้รับ ก็ไม่ต้องลังเลที่ขอคำแนะนำด้านการแพทย์กับทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ว่าจะจัดหรือไม่จัด งานนี้ไม่มีญาติโยม มีแต่ความปลอดภัยของประชาชน หากมีสายโทรศัพท์อ้างว่าจากรัฐมนตรี หรือปลัด สธ.เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว อย่าหลงเชื่อไม่ทำเช่นนั้น
ทั้งนี้จากเอกสารแถลงการณ์ของ บ.แอสตราเซเนก้า ประเทศไทย จำกัด อ้างว่าการรับแอสตรา 2 เข็ม คงระดับการลดล้างเชื้อโอไมครอน และยังเพิ่มการตอบสนองต่อเม็ดเลือดขาวชนิดที่ T-Cell ที่หลากหลายและยาวนานต่อไวรัสต่างๆ ที่ยาวนาน เป็นการตอบสนองที่ครอบคลุมมากกว่าแอนติบอดี .-สำนักข่าวไทย