นครปฐม 13 ธ.ค. – เร่งล่าอีก 2 นักโทษแหกคุกเรือนจำชั่วคราว มณฑลทหารบกที่ 11 หลังตามจับกลับมาได้แล้ว 7 คน พบ 1 ใน 2 คนที่ยังหลบหนี เป็นหัวโจกวางแผนแหกคุกครั้งนี้ และเป็นคนที่ติดต่อนำใบเลื่อยเข้ามาใช้ก่อเหตุ
ความคืบหน้าเหตุ 9 นักโทษ แหกข้องขัง ใช้ใบมีดโกนเลื่อยตัดเหล็กลูกกรงเรือนนอน เรือนจำชั่วคราว มณฑลทหารบกที่ 11 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ก่อนไปขโมยเสื้อผ้าในแคมป์คนงานก่อสร้าง หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ระดมกำลังออกไล่ล่า วันแรกตามจับกลับมาได้ 5 คน และเมื่อคืนนี้คุมตัวได้อีก 2 คน
นักโทษกลุ่มนี้ใช้ใบมีดโกนเลื่อยตัดเหล็กลูกกรงเรือนนอนและปีนรั้วคอนกรีตหนีออกไปด้านนอก เรือนจำชั่วคราว มณฑลทหารบกที่ 11 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ก่อนไปขโมยเสื้อผ้าในแคมป์คนงานก่อสร้าง บางคนขโมยรถจักรยานของชาวบ้านปั่นหลบหนีไป หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ระดมกำลังออกไล่ล่า วันแรกสามารถตามจับตัวกลับมาได้ 5 คน และเมื่อคืนนี้สามารถคุมตัวมาได้อีก 2 คน
พ.ต.อ.นฤพันธ์ วานิชนุเคราะห์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสามควาบเผือก อ.เมือง จ.นครปฐม เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ประมาณ 20.00 น. ชุดสืบสวนภาค 7 สามารถจับตัวนักโทษแหกเรือนจำกลับมาได้อีก 2 คน คือ นายพานิช บัวศร อายุ 35ปี ผู้ต้องขังความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด โดยจับตัวได้ในพื้นที่อำเภอบางเลน หลังนำกลังไปเฝ้าที่บ้านบ้านญาติผู้ต้องขังในอำเภอเมืองนครปฐม และที่อำเภอสองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี และจับกุมตัวนายจำรูญ คล้ายสุบรรณ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด
ส่วนที่เหลืออีก 2 คน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตาม คือ นายพัชรวุฒิ มูลทองสงค์ อายุ 38 ปี ความผิดฐานตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด และนายบำรุง วงศ์สว่าง อายุ 43 ปี ความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด
มีการเปิดเผยข้อมูลจากตำรวจว่า 1 ใน 2 คน ที่หลบหนีเป็นหัวโจกในการวางแผนแหกเรือนจำครั้งนี้ และเป็นคนที่ติดต่อนำใบเลื่อยเข้ามาใช้ในการก่อเหตุ ส่วนใบเลื่อยเข้าไปในเรือนจำได้อย่างไร หรือใบเลื่อยมีราคาสูงถึงใบละ 1 แสนบาท จริงหรือไม่นั้น ขณะนี้ผู้บัญชาการเรือนจำอยู่ระหว่างการสอบสวนผู้เกี่ยวข้อง ยังไม่มีการเปิดเผยผลการสอบสวน
สำหรับนักโทษทั้ง 9 คนที่หลบหนี เป็นผู้ต้องขังเข้าใหม่ มีความผิดฐานลักทรัพย์ และ พ.ร.บ.ยาเสพติด เป็นผู้ต้องหาที่ศาลตัดสินแล้ว ซึ่งถูกแยกกักตัวตามมาตรการการป้องกันโควิด-19 เพื่อรอผลตรวจโควิด . – สำนักข่าวไทย