พบ ตร.ซุกหมายจับ “เสี่ยโจ้ ปัตตานี”

ยะลา 19 พ.ย.- ผบช.ภ.9 เผยพบตำรวจนำหมายจับคดี “เสี่ยโจ้ ปัตตานี” มาเก็บไว้ ไม่ส่งเข้าระบบ เป็นตำรวจที่มาช่วยราชการ ปัจจุบันย้ายกลับไปแล้ว เร่งตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย


จากกรณี นายสหชัย เจียมเสริมสิน อายุ 53 ปี หรือ “เสี่ยโจ้ ปัตตานี” ผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน ค้าน้ำมันเถื่อน ที่ถูกจับกุมได้ที่ย่านห้วยขวาง โดยตอนนี้อยู่ระหว่างหลบหนีคดี นอกจากนี้ นายสหชัย ยังมีคดีที่ศาลปัตตานีพิพากษาจำคุก 1 ปี 9 เดือน ในข้อหาปลอมแปลงเอกสาร ซึ่งศาลออกหมายจำคุกถึงที่สุดเเละให้ออกหมายจับ โดยเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้ออกเอกสารข่าวชี้เเจงสำหรับเหตุที่ไม่ได้ส่งตัว นายสหชัย ไปยังศาลจังหวัดปัตตานีนั้น เนื่องจากตำรวจได้ตรวจสอบในสารบบ พบว่า นายสหชัย มีหมายจับของศาลจังหวัดสงขลาเพียงแค่หมายจับเดียว ไม่พบมีหมายจับของศาลจังหวัดปัตตานี

หลังจากถูกนำตัวไปส่งจังหวัดสงขลา ตามหมายจับคดีร่วมกันฟอกเงิน พนักงานอัยการได้มีคำสั่งไม่ฟ้อง ทำให้จำเป็นต้องปล่อยตัวไป โดยก่อนปล่อยตัวได้สอบถามว่ามีหมายจับค้างเก่าอื่นหรือไม่ เมื่อตำรวจบอกว่าไม่มี ทางอัยการไม่มีอำนาจควบคุมตัวจึงปล่อยไป จากนั้นวันที่ 6 พฤศจิกายน 2564 เจ้าหน้าที่เพิ่งจะค้นเจอหมายจับศาลปัตตานี เช้าวันที่ 7 พฤศจิกายน 2564 จึงรีบขอหมายค้น และตามไปหาตัวที่บ้านพักก็ไร้วี่แววของเสี่ยโจ้ คาดว่าเดินหน้าหลบหนีออกไปนอกประเทศเรียบร้อยแล้ว


ด้าน พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า หลังจากมีกรณีดังกล่าวเกิดขึ้น ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และพบว่าทางศาลได้ส่งหมายจับมาให้ที่ตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานีจริง โดยส่งผ่านพนักงานสอบสวนท่านหนึ่ง ซึ่งไปที่ศาลพอดี รับหมายมาแล้วก็เอาหมายมาเก็บไม่ได้เข้ากระบวนการตามระเบียบที่กำหนดไว้ แต่หมายก็ไม่ได้หายไปไหน

เบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงถือเป็นความบกพร่อง จึงมีการเสนอให้ตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย และปัจจุบันพนักงานสอบสวนท่านนี้ก็ได้ย้ายไปแล้ว เนื่องจากเป็นตำรวจที่มาช่วยราชการ หลังจากกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ได้ส่งสำนวนตรวจสอบข้อเท็จจริงไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อที่จะตั้งกรรมการทางวินัยในส่วนที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นหน้าที่ของตำรวจภูธรภาค 3 ที่ตำรวจท่านนี้กลับไปสังกัดอยู่ ในเบื้องต้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้จำนวน 1 นาย แต่หากสอบสวนถึงผู้ใด ก็จะต้องถูกดำเนินการทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นวินัย หรือถ้าผิดอาญา ก็ต้องดำเนินคดี.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

เขากระโดง

“อนุทิน” ยัน เพื่อไทย-ภูมิใจไทย ไม่เคยขัดแย้งปมเขากระโดง

“อนุทิน” ย้ำพรรคร่วมรัฐบาลมีเป้าหมายเหมือนกัน ทำประโยชน์ให้ประชาชน-ประเทศ หลัง “ทักษิณ” ชมพรรคร่วมสามัคคีกันดี ยันเพื่อไทย-ภูมิใจไทย ไม่เคยขัดแย้งปมเขากระโดง ขอคนไม่อยู่ในวงอย่าคาดคะเน ชี้ไม่มีเหตุผลต้องปกป้องผลประโยชน์ใคร โอดกว่าจะนั่งคุม มท. แทบตาย ไม่ให้ใครมาด่าสาดเสียเทเสีย

สนามบินสุวรรณภูมิ

ยูเนสโก ยกย่อง “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” 1 ใน 6 สนามบินสวยสุดในโลก

“สุริยะ” รมว.คมนาคม ปลื้ม ยูเนสโก ยกย่อง “ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” ติดอันดับ 1 ใน 6 สนามบินสวยที่สุดในโลก ประจำปี 2567 ด้าน “อาคาร SAT-1” สุดปัง! หลังถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสนามบินที่มีสถาปัตยกรรมสวยที่สุดของโลก โชว์ความโดดเด่นด้านความงาม-ความคิดสร้างสรรค์ ชูอัตลักษณ์ความเป็นไทย จ่อประกาศผล 2 ธ.ค.นี้

รฟท. คัดค้านคำสั่งไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินทับซ้อนเขากระโดง

การรถไฟฯ ลุยยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมที่ดิน คัดค้านคำสั่งไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ ที่ดินทับซ้อนเขากระโดง ย้ำปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โปร่งใสและเป็นธรรม