กรุงเทพฯ 9 พ.ย.- ธ.ก.ส. เริ่มจ่ายเงินประกันรายได้ข้าวนาปี 2564/65 วันแรก (9 พ.ย.) ชาวนาภาคกลาง ยิ้มกว้างรับเงินวันแรก เพื่อใช้จ่ายในครอบครัว คนละ 3-4 หมื่นบาท
นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ลงพื้นที่ร่วมจ่ายเงินให้ชาวนาวันแรก ในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 วงเงิน 13,225 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ลดภาระค่าใช้จ่าย ราคาผลผลิตตกต่ำจากปัญหาเศรษฐกิจ การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และอุทกภัย สำหรับเกษตรกรได้รับโอนเงินประกันรายได้ข้าว วันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 เป็นเกษตรกรแจ้งเก็บเกี่ยวในงวดแรกก่อน 15 ตุลาคม 64 ส่วนงวดที่ 2 เก็บเกี่ยวตั้งแต่ 15-21 ตุลาคม 64 จำนวน 533,743 ราย วงเงิน 11,287 ล้านบาท
นายพรชัย งามสินจำรัส ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการสาขาภาคกลาง กล่าวว่า ธ.ก.ส. พร้อมโอนเงินให้เกษตรกรในภาคกลาง 8 จังหวัด จำนวนผู้รับสิทธิ์ 12,000 ราย วงเงิน 2,000 ล้านบาท วันนี้ได้กำหนดจุดนำร่อง เพื่อโอนเงินและพบปะเกษตร ณ ธ.ก.ส. สาขาอินทร์บุรี ผู้มีสิทธิ์รับเงิน 10,313 ราย วงเงิน 200 ล้านบาท เมื่อคณะอนุกรรมการจะทยอยประกาศราคารับซื้อทุก 15 วัน ตามช่วงเวลากำหนด เช่น ข้าวหอมปทุมธานี ราคาประกันรายได้ 11,000 บาทต่อตัน รัฐบาลประกาศรับซื้อ 9,947 บาทต่อตัน จะทำให้เกษตรกรได้รับเงินส่วนเกิน 1,052 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน เป็นเงินได้รับโอนเฉลี่ยน 3 หมื่นบาท
ส่วนข้าวเปลือกเจ้า ราคาประกัน 10,000 บาทต่อตัน ประกาศราคารับซื้อ 8,065 บาทต่อตัน ทำให้ชาวนาได้รับส่วนต่าง 1,933 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน ประมาณ 3 หมื่นบาทต่อครัวเรือน ธ.ก.ส. แจ้งผู้เก็บเกี่ยวข้าวที่ลงทะเบียนไปแล้ว ในรอบแรก โดยจะใช้ระบบส่ง SMS ไปแจ้งเตือนเกษตรกร ส่วนใหญ่ในพื้นที่ภาคกลางปลูกข้าวหอมปทุมธานี และข้าวเปลือกเจ้า
สำหรับการประกันรายได้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกเขต ตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน
เมื่อกรมส่งเสริมการเกษตรจัดส่งข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว จำแนกตามช่วงเวลาที่เก็บเกี่ยว ส่งให้ ธ.ก.ส. ใช้เป็นข้อมูลจ่ายเงิน จากนั้น ธ.ก.ส. จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ภายใน 3 วัน นับจากวันที่ได้รับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงในแต่ละรอบจากคณะอนุกรรมการฯ จึงแนะนำให้ เกษตรกร ตรวจสอบผลการโอนเงินได้ทางแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile ตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังเตรียมมาตรการคู่ขนาน เพื่อชะลอการขายข้าวในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก ประกอบด้วย โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ความชื้นไม่เกิน 15% สิ่งเจือปนไม่เกิน 2% เป้าหมาย 2 ล้านตัน วงเงิน 20,402 ล้านบาท โดยกำหนดราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 11,000 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกเขต ตันละ 9,500 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 5,400 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 7,300 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 8,600 บาท
นายกษาปณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อกรมส่งเสริมการเกษตรจัดส่งข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว จำแนกตามช่วงเวลาที่เก็บเกี่ยว ส่งให้ ธ.ก.ส. ใช้เป็นข้อมูลจ่ายเงิน จากนั้น ธ.ก.ส. จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ภายใน 3 วัน นับจากวันที่ได้รับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงในแต่ละรอบจากคณะอนุกรรมการฯ ประกาศทุก 15 วัน จึงแนะนำให้ เกษตรกร ตรวจสอบผลการโอนเงินได้ทางแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile ตลอด 24 ชั่วโมง
นายอดิศักดิ์ หนูพรหม ชาวนา อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี บอกว่า ขายข้าวเจ้าในตลาด ราคาเพียง 6,300 บาทต่อ นับว่าต่ำมาก เพราะยังมีปัญหาความชื้นสูง จากราคาประกัน 1 หมื่นต่อตัน ดีใจเมื่อรัฐบาลประกันราคา ทำให้มีเงินใช้หนี้และนำมาใช้จ่ายในช่วงนี้
นายสมศักดิ์ โตลิ ชาวนา อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี บอกว่า ดีใจที่ได้รับเงินประกันรายได้ครั้งนี้ เพื่อนำไปใช้หนี้ ซื้อปุ๋ย เพื่อเตรียมปลูกข้าวรอบใหม่ จึงอยากขอให้รัฐบาล ช่วยดูแลพยุงราคาข้าวไม่ให้ตกต่ำไปมากกว่านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธ.ก.ส. ยังเตรียมมาตรการคู่ขนาน เพื่อชะลอการขายข้าวในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก ประกอบด้วย โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ความชื้นไม่เกิน 15% สิ่งเจือปนไม่เกิน 2% เป้าหมาย 2 ล้านตัน วงเงิน 20,402 ล้านบาท โดยกำหนดราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 11,000 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกเขต ตันละ 9,500 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 5,400 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 7,300 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 8,600 บาท
พร้อมมาตรการช่วยเหลือค่าฝากเก็บตันละ 1,500 บาท โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร เป้าหมาย 1.5 ล้านตัน วงเงินสินเชื่อ 15,000 ล้านบาท เพื่อให้สหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชนและศูนย์ข้าวชุมชนรวบรวมข้าวเปลือกสำหรับการจำหน่ายหรือเพื่อการแปรรูป.-สำนักข่าวไทย