กรุงเทพฯ 30 ก.ย. – ปภ.ประสาน 8 จังหวัด และ กทม. เฝ้าระวังระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสักเพิ่มสูงขึ้น ช่วงวันที่ 1-5 ต.ค.นี้
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เผยจากการติดตามสถานการณ์น้ำท่าและการระบายน้ำของเขื่อนต่าง ๆ ประกอบกับกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้ประเมินปริมาณฝนที่ตกหนักสะสมในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนบนและลุ่มน้ำป่าสัก คาดว่ามีน้ำไหลลงเหนือเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราเพิ่มมากขึ้น ซึ่งกรมชลประทานได้ตัดยอดน้ำเข้าระบบคลองชลประทานทั้งสองฝั่ง ทำให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตรา 2,700 ลูกบาศก์เมตร/วินาที และจำเป็นต้องระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ในอัตรา 900-1,200 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (C29A) ในอัตรา 3,000-3,200 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย และท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1.20-2.40 เมตร และท้ายเขื่อนพระรามหกเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 2.30-2.80 เมตร ในช่วงระหว่างวันที่ 1-5 ตุลาคม 2564
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสาน 8 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี ปทุมธานี และนนทบุรี รวมถึงกรุงเทพมหานคร ตลอดจนศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์และการระบายน้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก จุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ รวมถึงแม่น้ำและคลองเชื่อมต่อ ให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงเตรียมพร้อมในการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงให้พ้นจากแนวน้ำท่วม และระมัดระวังอันตรายจากการสัญจรทางน้ำ ตลอดจนประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย เพื่อเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับประชาชนหากพบเห็นหรือได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และแอปพลิเคชัน “พ้นภัย” รวมถึงสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป. – สำนักข่าวไทย