กรุงเทพฯ 25 ส.ค. – เปิดประวัติ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ตำรวจหนุ่มไฮโซ ฉายา “โจ้ เฟอร์รารี่”
ผู้กำกับโจ้ มีชื่อจริงว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล ตำแหน่ง ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ปัจจุบันอายุ 41 ปี ตำแหน่งเดิมก่อนถูกให้ออกจากราชการคือ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ อัตราเงินเดือน 43,330 บาท
ประวัติการทำงานพบว่าเมื่อเข้าสู่อาชีพตำรวจก็มีผลงานต่อเนื่อง ปี 2557 ตำแหน่งสารวัตรกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 1 ตำแหน่งก็ไล่ขยับขึ้นมาต่อเนื่อง ปี 2562 เป็นรอง ผกก.สืบเมืองพิษณุโลก และปี 2563 ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์

ผู้กำกับโจ้ มีชื่อเสียงว่าเป็นตำรวจในแวดวงไฮโซ มีฐานะร่ำรวย และยังมีฉายาว่า โจ้ เฟอร์รารี่ เพราะมีชื่อเป็นเจ้าของรถสปอร์ตยี่ห้อหรูหลายคัน หากไปดูข้อมูลพบว่ามีการครอบครองรถซึ่งเป็นชื่อของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ทั้งหมดกว่า 29 คัน ส่วนใหญ่เป็นรถหรูจากค่ายดัง อาทิ เฟอร์รารี่, PORCHE, Bentley, เบนซ์ หลายคัน, มินิ คูเปอร์ รวมถึงมีรถลัมโบร์กินี ที่มีรุ่นที่เป็นลิมิเต็ด ราคาหลายสิบล้านบาท
ส่วนคืบหน้าทางคดีช่วงเช้าวันนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมชุดสืบสวนจากส่วนกลาง เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 79/898 หมู่บ้านปัญญาอินรา 1 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. บ้านของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล (ผกก.โจ้) อดีต ผกก.เมืองนครสวรรค์ เพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครสวรรค์
จากการสอบถามลูกจ้างทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล (ผกก.โจ้) โดยพบเพียงลูกจ้างที่ดูแลบ้าน ชาวเมียนมา 2 คน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนำตรวจค้นบ้าน แต่ผลการตรวจค้นไม่พบตัว พ.ต.อ.ธิติสรรค์ แต่อย่างใด

จากการตรวจสอบบ้านหรูดังกล่าวมีเนื้อที่กว่า 5 ไร่ ภายในมีบ้าน 2 หลัง ภายในบ้านมีเนื้อที่กว้างขวางใหญ่โต มีสระน้ำอยู่ข้างบ้าน เมื่อตรวจสอบภายในบ้านพบตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สุดหรู แถมด้านนอกบริเวณโรงรถยังพบรถหรูจอดอยู่รวม 13 คัน
เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจค้นเสร็จสิ้นก็ได้ลงบันทึกประวันเป็นหลักฐานที่ สน.บางชัน และจะดำเนินการสืบสวนติดตามตัวต่อไป.-สำนักข่าวไทย