fbpx

แห่กลับภูมิลำเนาทำยอดติดเชื้อโควิดในเพชรบูรณ์พุ่ง

ภูมิภาค 1 ก.ค. – สถานการณ์โควิด-19 ยังน่าห่วง หลังกลุ่มแรงงานเดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมาก โดย จ.เพชรบูรณ์ พบข้อมูลเดินทางกลับบ้านกว่า 300 คน ทำให้ยอดติดเชื้อพุ่งสูงมากกว่าทุกวัน ส่วน จ.กาฬสินธุ์ พบผู้ติดเชื้อเป็นแรงงานจาก กทม.-ปริมณฑล 26 คน


ศูนย์ปฏิบัติการ COVID-19 จ.เพชรบูรณ์ เปิดเผยไทม์ไลน์และผู้ป่วย หลังแรงงานจากแคมป์ในกรุงเทพฯ แห่กลับภูมิลำเนากว่า 300 คน ทำให้ยอดผู้ป่วยยืนยันเพิ่มสูงขึ้นเป็น 15 คน ถือว่ามากที่สุดกว่าทุกวัน โดยกระจายอยู่ตาม อ.วิเชียรบุรี 6 คน, ชนแดน 5 คน, หล่มสัก 2 คน, ศรีเทพ 1 คน และ อ.เมือง 1 คน

ส่วนคลัสเตอร์งานศพใน ต.ท่าโรง อ.วิเชียรบุรี ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13-14 มิถุนายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ตรวจเชิงรุกรวมทั้งสิ้น 420 คน ผลการตรวจพบผู้ติดเชื้อยืนยัน 17 คน ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวิเชียรบุรี นอกจากนี้ยังมีการตรวจคัดกรองเชิงรุกเพิ่มเติมอีก 59 คน คาดว่าผลคัดกรองจะออกในช่วงเที่ยงวันนี้ (1 ก.ค.)


นอกจากนี้ยังพบข้อมูลผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์อินเดีย ใน อ.บึงสามพัน เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่รักษาหายกลับไปอยู่บ้านแล้ว จากการตรวจสอบบุคคลใกล้ชิดไม่พบการติดเชื้อเพิ่มเติมแต่อย่างใด

ทั้งนี้ จ.เพชรบูรณ์ เปิดสายด่วน “เราจะไม่ทิ้งกัน” สำหรับผู้ป่วยชาวเพชรบูรณ์ที่อยู่ในพื้นที่อื่น และประสงค์จะมารักษาตัวที่ภูมิลำเนา ซึ่งมีผู้ป่วยเข้ารักษาในจังหวัดแล้ว 6 คน

จ.กาฬสินธุ์ พบผู้ติดเชื้อเป็นแรงงานจาก กทม.-ปริมณฑล 26 คน
ส่วนที่กาฬสินธุ์พบผู้ติดเชื้อวันเดียว 27 คน ทุบสถิติมากที่สุดตั้งแต่ที่มีการระบาด โดยเป็นผู้ติดเชื้อจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่เดินทางกลับภูมิลำเนา 26 คน กระจายอยู่ใน อ.กุฉินารายณ์, เขาวง และคำม่วง


ด้านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯ เตรียมความพร้อมเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วย โดยเพิ่มเตียงที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ และโรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง เป็น 120 เตียง และในสัปดาห์หน้าจะขยายเพิ่มอีก 48 เตียง แต่หากไม่พอจะขยายเพิ่มเติมอีก ภาพรวมทั้งจังหวัดมีเตียงรักษาผู้ป่วยกว่า 300 เตียงเพื่อรองรับกลุ่มแรงงานที่แห่กลับภูมิลำเนา

นอกจากนี้ยังเปิดสายด่วนให้ชาวกาฬสินธุ์ที่ติดเชื้อโควิด-19 ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล แต่ไม่มีเตียงรักษา สามารถปรึกษาได้ที่สายด่วน “คนกาฬสินธุ์ร่วมใจสู้ภัยโควิด” เพื่อเข้ารักษาตัวเช่นกัน

แม่ปกปิดไทม์ไลน์ลูกชายกลับจาก กทม. จนติดเชื้อ
สถานการณ์ที่มุกดาหารน่าเป็นห่วงเช่นกัน แม้ว่าจะมีผู้ป่วยรายใหม่เพียง 3 คน แต่ปรากฏว่ามีผู้ป่วยอายุ 54 ปีคนหนึ่ง ซึ่งเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล ระหว่างวันที่ 24-28 มิถุนายน ปกปิดไทม์ไลน์ว่าไปใกล้ชิดกับผู้เสี่ยงสูง เนื่องจากก่อนหน้านี้ลูกชายอายุ 20 ปี เป็นแรงงานก่อสร้างในปทุมธานี เดินทางกลับภูมิลำเนา และพักในห้องพักหลังตลาดเทศบาลหนองสูง แต่ไม่แจ้ง อสม. และไม่ได้กักตัว เจ้าหน้าที่จึงสันนิษฐานว่าหญิงวัย 54 ปีรายนี้ติดจากลูกชาย จากนั้นจึงนำตัวลูกชายไปตรวจคัดกรอง พบว่าติดเชื้อในวันที่ 30 มิถุนายน ส่วนผู้ติดเชื้ออีก 1 คน พบว่าเป็นบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลที่ตรวจหญิงวัย 54 ปีรายนี้ ภาพรวมทั้้ง 3 คน เกี่ยวข้องกันชัดเจน ขณะนี้ได้รวบรวมบุคคลที่เกี่ยวข้องมาตรวจหาเชื้อแล้วกว่า 100 คน

แม่ค้าโอดปิดหาดในระยองสูญรายได้จุนเจือครอบครัว
ที่ จ.ระยอง หลังออกประกาศปิดชายหาดทุกแห่งตั้งแต่เวลา 20.00-05.00 น. ยกเว้นผู้ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน เนื่องจากยอดติดเชื้อยังไม่มีแนวโน้มว่าจะลดลง ทำให้แม่ค้าเร่ตามชายหาดยอมรับว่าหากปิดหาดเป็นเวลานานจะกระทบกับรายได้ของครอบครัว โดยภาพรวมทั้งจังหวัดเมื่อวาน (30 มิ.ย.) พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 41 คน ยอดรวม 3 เดือน ระลอกเดือนเมษายน พบผู้ป่วยสะสม 1,618 คน และเสียชีวิต 10 คน

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบแคมป์คนงานของบริษัทรับเหมาก่อสร้างแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บ้านฉาง หลังมีแรงงานติดเชื้อ 6 คน แต่ทั้้งหมดเพิ่งเดินทางมาจากต่างพื้นที่ และอยู่ระหว่างกักตัว ไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับแรงงานคนอื่น

จ.พระนครศรีอยุธยา พบคลัสเตอร์โรงงานไม้พาเลท ติดเชื้อเพิ่มอีก 23 คน
ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ประชุมผู้บริหารระดับจังหวัด เพื่อหาแนวทางควบคุมคลัสเตอร์ “ตลาดใหญ่วังน้อย” หลังพบผู้ติดเชื้อ 108 คน ซึ่งจุดเริ่มต้นพบแม่ค้าที่มีภูมิลำเนาในปทุมธานีเดินทางมาขายผัก แต่พบว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงตรวจคัดกรองเชิงรุก 473 คน กระทั่งมีการสั่งปิดตลาด 7 วัน นอกจากนี้ยังหารือกรณีคลัสเตอร์โรงงานผลิตไม้พาเลท ใน อ.วังน้อย ที่ล่าสุดพบแรงงานต่างด้าวติดเชื้อ 23 คน จึงต้องปิดโรงงาน 7 วัน พร้อมให้แรงงาน 215 คนกักตัวทันที.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ร่างศึกษา พ.ร.บ.นิรโทษฯ เข้าสภา 26 ก.ย.นี้

“นิกร” เผยร่างศึกษา พ.ร.บ.นิรโทษฯ เข้าสภา 26 ก.ย.นี้ ชง ครม. เป็นเจ้าภาพ ยกร่าง-เคาะปม ม.112 จะรวมหรือไม่ หวั่นคําวินิจฉัยศาลฟันก้าวไกล พ่นพิษ

คนร้ายฆ่าสาวโบลท์ เครียด ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ

เครียด! “ไอ้แม็ก” มือฆ่าชิงทรัพย์สาวโบลท์ ใช้หัวโขกลูกกรง สน.มีนบุรี จนตำรวจต้องเข้าระงับเหตุ ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ ล่าสุดคุมตัวไปฝากขังแล้ว