กทม.-ปริมณฑล ห้ามนั่งกินในร้าน เข้มแรงงานเดินทาง เริ่มจันทร์นี้

กทม.27 มิ.ย.-ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศ กทม.-ปริมณฑล ห้ามนั่งกินในร้าน คุมเข้มแรงงานเดินทาง เริ่มจันทร์นี้ หวังใช้สกัดโควิดแพร่ระบาดหนัก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 25) ลงนาม โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี


โดยมีสาระสำคัญสรุปคือ มีมาตรการเร่งด่วน เพื่อสกัดกั้นการระบาดในพื้นที่เป้าหมายเฉพาะ ในพื้นที่สถานการณ์ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดในกรุงเทพมหานคร-ปริมณฑล จังหวัดนครปฐม จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดสมุทรสาคร และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดสงขลา โดยให้ดำเนินการต่อไปอย่างน้อย 30 วัน เพื่อชะลอโควิดและการกระจายไปยังหลายพื้นที่ รวมถึงสกัดกั้นการเคลื่อนย้ายของกลุ่มเสี่ยง

นอกจากนี้ยังควบคุมการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงานก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพมหานคร-ปริมณฑล โดยให้มีคำสั่งปิดที่พักอาศัยชั่วคราวสำหรับคนงาน และมีคำสั่งให้หยุดงานก่อสร้าง ห้ามเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงาน อย่างน้อย 30 วัน


รวมทั้งยังมีมาตรการควบคุมเฉพาะในกรุงเทพมหานคร-ปริมณฑล ในเรื่องการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ทั้งในห้าง ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม โรงแรม ท่าอากาศยาน สถานีรถไฟ สถานีขนส่ง ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต รถเข็น แผงลอย ตลาด ตลาดนัด หรือที่ประกอบบลักษณะคบ้านกัน ที่จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ให้เปิดดำเนินการเฉพาะนำกลับไปบริโภคที่อื่นเท่านั้น

นอกจากนี้ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดดำเนินการได้ถึงเวลา 21.00 น. โดยให้งดการให้บริการเพิ่มเติมในพื้นที่โรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ สวนน้ำ พื้นที่นั่งรับประทานในศูนย์อาหาร และเพิ่มระยะห่างระหว่างบุคคลในพื้นที่พักคอย เพิ่มประสิทธิภาพของระบบหมุนเวียนอากาศ

ส่วนโรงแรม ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุมหรือสถานที่จัดนิทรรศการ ให้เปิดดำเนินการได้ตามเวลาปกติ โดยให้งดกิจกรรมจัดการประชุม การสัมมนา และการจัดเลี้ยง และห้ามการจัดกิจกรรมซึ่งมีกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่ายี่สิบคน เว้นแต่กรณีได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่


นอกจากนี้กำหนดเงื่อนไขเดินทางและการตรวจคัดกรอง ให้เจ้าหน้าที่คัดกรองตั้งจุดตรวจการเข้าออกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดสงขลา) รวมถึงในพื้นที่สถานการณ์ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดในกรุงเทพมหานคร-ปริมณฑล จังหวัดนครปฐม จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อควบคุมการเคลื่อนย้ายแรงงาน โดยจะให้ผ่านเข้าออกเฉพาะแรงงานที่ได้รับอนุญาตเดินทาง .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระบะชนต้นไม้

สังเวย 7 ศพ กระบะหักหลบรถรับ-ส่งนักเรียน พุ่งชนต้นไม้

รถกระบะเสียหลักจะชนรถตู้รับ-ส่งนักเรียน คนขับตัดสินใจหักหลบ ทำให้รถพุ่งชนต้นไม้ เสียชีวิต 7 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 4 คน

สลด! รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยวเบตง ชนต้นไม้ ดับ 8 ราย

รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยว อ.เบตง จ.ยะลา เสียหลักไถลลงร่องกลางถนนชนต้นไม้บนถนนสาย 41 อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นเสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก

ตักบาตรปีใหม่

ปชช.ร่วมตักบาตรวันปีใหม่ 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคล

ประชาชนร่วมกิจกรรมตักบาตร​ รับปีใหม่ 2568 เนืองแน่น​ “สุดาวรรณ” เผยตัวเลขสวดมนต์ข้ามปี กว่า 12 ล้านคน พร้อมเชิญชวนสักการะพระเขี้ยวแก้ว ถึง 14 ก.พ.นี้

ข่าวแนะนำ

ไทยตอนบนอุณหภูมิลด ภาคเหนือ-อีสาน เย็นถึงหนาว

กรมอุตุฯ มวลอากาศเย็นค่อนข้างแรงอีกระลอกหนึ่งจากจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมไทยแล้ว ทำให้ไทยตอนบนมีอุณหภูมิลดลง ภาคเหนือและอีสานอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ตอนล่างฝนเพิ่มขึ้น

ผบก.น.3 เผยมี 26 คนจีนเข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง

ผบก.น.3 เผยมีคนจีน 26 คน เข้าคอร์สตำรวจอาสา กว่าครึ่งจ่ายเงินจริง กำลังไล่สอบเส้นเงินเข้ากระเป๋าใคร ส่วนตำรวจที่ไปอบรมน่าจะได้เงินค่าจ้างจริง

ดีเอสไอประชุมนัดแรกร่วม ตร.นครบาล 1 คดี “นพ.บุญ”

ดีเอสไอรับคดี “นพ.บุญ” กับพวกเป็นคดีพิเศษ เปิดประชุมนัดแรกร่วมตำรวจนครบาล 1 แย้มรู้พิกัด “หมอบุญ” ที่หลบหนีแต่ยังไม่ขอเปิดเผย