บวงสรวงใหญ่รับ “ทับหลังหนองหงส์-เขาโล้น” คืนแผ่นดินไทย

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – กระทรวงวัฒนธรรม จัดพิธีบวงสรวงต้อนรับทับหลังปราสาทหนองหงส์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น หลังสูญหายจากประเทศไทยร่วม 50 ปี กลับคืนสู่แผ่นดินไทย ก่อนเปิดให้ชม 3 เดือน ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระนคร


ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีบวงสรวงต้อนรับทับหลังปราสาทหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น จังหวัดสระแก้ว กลับคืนสู่แผ่นดินไทย โดยมีนายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร และคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย เข้าร่วม

รมว.วัฒนธรรม ย้ำการได้ทับหลังปราสาทหนองหงส์และเขาโล้น คืนมาในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือของสหรัฐกับประเทศไทย การส่งมอบเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม ที่นครลอสแอนเจลิส และทับหลังเดินทางมาถึงไทยในวันที่ 28 พฤษภาคม ก่อนเคลื่อนย้ายออกจากสนามบินสุวรรณภูมิมาที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ผ่านมา และทำพิธีเปิดห่อบรรจุภัณฑ์ตามหลักเกณฑ์การรับและมอบโบราณวัตถุ โดยมีภัณฑารักษ์และผู้เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบสภาพและบันทึกข้อมูล


ภายหลังเสร็จพิธีบวงสรวงในวันนี้ กรมศิลปากรจะเชิญนายกรัฐมนตรีมาเป็นประธานในพิธีรับมอบโบราณวัตถุอย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดให้ประชาชนเข้าชมผ่านนิทรรศการ “ทับหลังปราสาทหนองหงส์ และปราสาทเขาโล้น กลับคืนสู่ประเทศไทย” ที่พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เป็นเวลา 3 เดือน

สำหรับทับหลังปราสาทหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น จังหวัดสระแก้ว สูญหายไปจากที่ตั้งเมื่อปี 2509-2511 แต่ไม่ปรากฏรายงานหรือบันทึกเกี่ยวกับการสูญหาย ต่อมาได้ปรากฏทับหลัง 2 รายการนี้อยู่ในฐานข้อมูลโบราณวัตถุของพิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชีย เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งหลายคนเชื่อว่าถูกโจรกรรมจากกลุ่มนักค้าวัตถุโบราณ ไปในช่วงเดียวกับทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์ ปราสาทพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์

ขณะที่การติดตามทับหลังทั้ง 2 รายการ เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2560 เมื่อนายกรัฐมนตรีลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศ สืบเนื่องมาจากการสืบค้นข้อมูลโบราณวัตถุของไทยที่อยู่ในต่างประเทศของกรมศิลปากร รวมทั้งกระแสเรียกร้องของนักวิชาการและประชาชน ให้ติดตามโบราณวัตถุของไทยในพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ทั่วโลกกลับคืนมา ซึ่งมีมาก่อนหน้านั้นเป็นระยะ


จากนั้นที่ประชุมคณะกรรมการฯ มีมติให้ติดตามทับหลังทั้ง 2 รายการ โดยมอบหมายให้กรมศิลปากรเป็นผู้จัดทำข้อมูล กระทั่งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 กรมศิลปากรได้ส่งข้อมูลให้กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ประสานกับหน่วยงานในสหรัฐอเมริกา ผ่านสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ซึ่งหน่วยงานสหรัฐที่รับผิดชอบในคดี คือสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ จากนั้นมีการนำขึ้นพิจารณาในชั้นศาล ในที่สุดพิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชียยอมรับว่าทับหลังเป็นกรรมสิทธิ์ของไทย และยอมให้ยึดทับหลังส่งคืนประเทศไทย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

จับเรือประมงเมียนมา

จับเรือประมงเมียนมา รุกล้ำน่านน้ำไทย

ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงเมียนมาพร้อมลูกเรือ 13 คน ขณะลักลอบนำเรือประมงจอดลอยลำในทะเลอาณาเขตของไทย บริเวณ จ.ระนอง ใกล้เกาะค้างคาว