กทม. 3 เม.ย.-รอง ผบช.น.พร้อมรับมือ “ม็อบ” กลุ่มอาชีวะฯ และกลุ่มจตุพร เน้นบังคับใช้ กม. หากก่อความไม่สงบ เตือน ปชช. เข้าร่วมมีความผิดตามกฎหมาย เผยสั่ง 2 สน. ตรวจสอบการเปิดให้บริการสถานบันเทิงย่านทองหล่อแล้ว หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด
วันนี้ (3 เม.ย.) ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือ บชน. เมื่อเวลา 13.00 น. พลตำรวจตรี ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) พร้อมด้วย พร้อมด้วย พันตำรวจเอกกฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงถึงมาตราการดูแลความสงบเรียบร้อย และ การอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ในการชุมนุมของกลุ่มเห็นต่างทางการเมือง ทั้งกลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิประไตย ที่มีการนัดหมายชุมนุมบริเวณเรือนจำพิเศากรุงเทพมหานคร ในวันนี้ (3 เม.ย.) เวลา 17.00 น. ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของ สน.ประชาชื่น ทั้งนี้ที่ผ่านมาการนัดหมายการชุมนุมของกลุ่มอาชีวะฯนั้น มักจะมีการก่อความรุนแรงเป็นระยะ ทั้งการปิดการจราจร และนำพาสิ่งที่เป็นอาวุธ มาใช้ในการชุมนุม และนำอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ไปร์ปบอมบ์ ซึ่งกลุ่มนี้ทางตำรวจจะไม่เรียกว่าผู้ชุมนุม แต่จะเรียกว่าผู้ก่อความไม่สงบในบ้านเมือง และพบว่ามีเจตนาที่จะก่อความไม่สงบในบ้านเมือง โดยจากการข่าวทราบว่าอาจจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นจากการชุมนุมของกลุ่มนี้ ซึ่งหากพบว่ามีพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าว ก็จะต้องทำการจับกลุ่มตามกฎหมาย
“ส่วนอีกกลุ่ม คือ กลุ่มจตุพร พรหมพันธุ์ ที่นัดหมายบริเวณสวนสันติพร ในวันพรุ่งนี้ (4 เม.ย.) เวลา 16.00 น. พื้นที่รับผิดชอบของ สน.ชนะสงคราม ก็ยังไม่ได้มีการแจ้งขอชุมนุมกับเขตพระนคร ตามประกาศของกรุงเทพมหานครแต่อย่างใด ทั้งนี้จึงขอแจ้งเตือนว่า การกระทำของสองกลุ่ม เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตำรวจพร้อมบังคับใช้กฎหมาย หากพบก่อความไม่สงบและก่อเหตุอาชญากรรม โดย ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ประชุมชี้แจง มอบหมายให้ พลตำรวจตรีสหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และให้ผู้บังคับตำรวจนครบาล 1 เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบในพื้นที่ ส่วนด้านการจราจรในช่วงเย็นวันนี้แนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้ถนนงามวงศ์วานและในวันพรุ่งนี้ แนะนำให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง เชิงสะพานพระปิ่นเกล้า และใช้ถนนราชดำเนิน เป็นเส้นทางเลี่ยง เพื่อหลีกเลี่ยงจากพื้นที่ชุมนุมแทน” พลตำรวจตรี ปิยะ กล่าว
นอกจากนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ยังกล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าอายัดตัวนายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ แกนนำกลุ่มการ์ดวีโว่ ด้วยว่า อาจจะเกิดการการสอบสวนที่เสร็จสิ้นไม่พร้อมกัน เมื่อพร้อมจึงต้องเข้าทำการอายัดตัว และขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ายังมีคดีในพื้นที่ใดอีก และคาดว่าจะมีการดำเนินคดีอย่างต่อเนื่อง หากมีการกระทำผิด สำหรับในส่วนของกรณี มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสถานบันเทิงใน 4 แห่ง ทั้งในย่านทองหล่อ และคลองตัน ซึ่งขณะนี้ได้สั่งการ ให้ผู้กำกับ สน.ทองหล่อ และผู้กำกับสน. คลองตัน ตรวจสอบไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อร่วมกับกรมควบคุมโรค และได้ปิดล้อมสถานที่ เพื่อทำการตรวจสอบสถานบันเทิง โดยได้นำพนักงานและผู้เกี่ยวข้องของสถานบันเทิงดังกล่าว เข้ารับการกักตัวแล้ว ซึ่งหลังจากนี้จะต้องตรวจสอบว่าทั้ง4แห่งมีการเปิดให้บริการ เป็นไปตามข้อกำหนดของกรุงเทพมหานครหรือไม่ หากพบว่ามีการฝ่าฝืนก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันที พร้อททั้งได้กำชับให้ตำรวจในพื้นที่ให้เพิ่มความเข้มงวดกวดขัดในการดูแลสถานบันเทิงช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่อาจมีคนเข้าไปเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยมีการบังคับใช้กฎหมาย พ.ร.บ. ควบคุมโรค อย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย