ทำเนียบ 4 ก.พ.- ศบค. เผยผู้ติดเชื้อรายใหม่ 809 ราย เล็งปรับวิธีการตรวจเชิงรุก จ.สมุทรสาคร จัดสมดุลระบบควบคุมโรคกับงบประมาณ
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวัน ว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 809 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 796 ราย และติดเชื้อจากต่างประเทศ 13 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 44 ราย จากการค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 751 ราย และผู้เดินทางจากต่างประเทศเข้าสถานที่กักกันจากรัฐจัดให้ 13 ราย ทำให้ประเทศไทยมีผู้ป่วยยืนยันสะสม 22,058 ราย หายป่วยแล้ว 14,798 ราย รักษาตัวอยู่ 7,181 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 79 คน
สำหรับผู้ติดเชื้อในประเทศตามพื้นที่เสี่ยงระหว่างวันที่ 15 ธ.ค. 63-5 ก.พ. 64 พบว่าจังหวัดสมุทรสาครมีผู้ติดเชื้อ คิดเป็นร้อยละ 98.62 กรุงเทพมหานคร ร้อยละ 0.50 จังหวัดอื่นๆร้อยละ 0.88
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ที่ จ.สมุทรสาคร การค้นหาเชิงรุกยังพบผู้ติดเชื้อจำนวนมาก แต่ถ้าค้นหาวันละหมื่นราย จะใช้งบประมาณวันละ 20 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นงบประมาณที่มาก จึงต้องมาดูว่าจะทำให้ทุกอย่างสมดุลกันอย่างไรทั้งการควบคุมโรคและงบประมาณ โดยในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก มีการพูดคุยกันว่า ถ้าไม่ไปค้นหาเชิงรุก มีช่วงเว้นว่าง ก็ต้องหาคำตอบมาบอกกับประชาชนว่าตัวเลขจะทรงตัวหรือลดลง ทีมสมุทรสาครกับกรมควบคุมโรคพยายามนำหลักวิชาการมาศึกษา ที่โดยทั่วไปถ้ามีคนหนึ่งแสน ไม่ใช่ต้องค้นหาทั้งหนึ่งแสน เพราะค่าใช้จ่ายจะสูงมาก ดังนั้นจะใช้ระบบควบคุมโรคและไปสุ่มหา เพราะรู้ระยะเวลาฟักตัวของโรคคือ 14 วัน จึงมีคำถามว่าการไปค้นหาทุกวันจะมีประโยชน์อย่างไร นี่เป็นสิ่งที่ต้องมาคุยกัน
นอกจากนี้ มีชุดข้อมูลของ กทม. ที่ไปทำการค้นหาเชิงรุกในเขตที่มีพื้นที่ติดกับ จ.สมุทรสาคร พบว่าเขตที่มีอัตราป่วยสะสมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ บางขุนเทียน ภาษีเจริญ บางพลัด บางรัก และธนบุรี สำหรับการค้นหาเชิงรุกในโรงงานที่อยู่ในเขตติดต่อกับ จ.สมุทรสาคร จะใช้วิธีใกล้เคียงกับการค้นหาเชิงรุกในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร อาทิ เขตภาษีเจริญ มีโรงงาน 11 แห่ง มีแรงงาน 5,635 ราย สุ่มตรวจในโรงงานและชุมชนรอบๆ 1,721 ราย พบผู้ติดเชื้อ 26 ราย หรือที่เขตบางขุนเทียน มีโรงงาน 25 แห่ง มีแรงงาน 11,228 ราย สุ่มตรวจโรงงานและชุมชนรอบๆ 6,772 ราย พบผู้ติดเชื้อ 2 ราย.-สำนักข่าวไทย