เปิดเส้นทางขนแรงงานเถื่อนสู่การแพร่ระบาดโควิดระลอกใหม่

กาญจนบุรี 15 ม.ค.-ตำรวจยอมรับการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ มาจากแรงงานต่างด้าว ที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย ผ่านขบวนการลักลอบขนแรงงานเถื่อน ผ่านเส้นทางธรรมชาติ โดยเข้ามาทาง จ.กาญจนบุรี มีแก๊งพลเรือนคนไทย 8 คน และตำรวจเกี่ยวข้อง 25 นาย


พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าวไทย อสมท โดยเปิดข้อมูลใหม่แรงงานป่วยโควิด-19 สมุทรสาคร ลอบเข้าทางจังหวัดกาญจนบุรีมีตำรวจและพลเรือน รับจ้างนำพา เสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และออกหมายจับเรือน 8 คน สัปดาห์หน้า

โดยวันนี้จะสรุปรายงานการสืบสวนข้อเท็จจริงขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการทางวินัยและอาญากับตำรวจที่ร่วมขบวนการ โดยใช้กรรมการตรวจสอบจากส่วนกลาง คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นหลัก เช่น จเรตำรวจ มีผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าคณะกรรมการฯ มีตนเองกำกับดูแล ซึ่งคณะทำงานที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะตั้งขึ้น มีหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบซ้ำ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง และการกระทำผิดให้ได้มากที่สุด


รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า คณะกรรมการที่ ผบ.ตร. จะตั้งขึ้น ซึ่งเป็นกรรมการชุดของตำรวจ ยังมีหน้าที่สนับสนุนข้อมูลการทำผิดของตำรวจ และผู้เกี่ยวข้องทุกคน ต่อคณะกรรมการชุดที่นายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง ซึ่งมีอำนาจเรียกดูข้อมูลทั้งหมดอยู่แล้ว ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีกำชับตรงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา ห้ามปกปิด หรือช่วยเหลือกันอย่างเด็ดขาด

พลตำรวจเอกดำรงศักดิ์ ยังให้ข้อมูลใหม่ที่เป็นประเด็นสำคัญ คือ การพิสูจน์หาต้นตอการแพร่ระบาดของโควิดรอบใหม่ที่เกิดจากแรงงานเมียนมาในตลาดกลางกุ้งว่า จากการสืบสวนย้อนรอยจากกลุ่มแรงงานที่ป่วยโควิดในจังหวัดสมุทรสาคร พบว่า แรงงานผิดกฎหมายเกือบทั้งหมดนั้น มีขบวนการขนแรงงานเถื่อนกลุ่มที่มีตำรวจ 25 นาย และพลเรือน 8 คน อยู่ในนี้ เป็นคนนำพาเข้ามาจากทางด้านจังหวัดกาญจนบุรี สัปดาห์หน้า จะเสนอศาลขอออกหมายจับพลเรือน 8 คนที่อยู่ในขบวนการขนแรงงานเถื่อน ในความผิด ฐานหลบหนีเข้าเมือง ทั้งช่วยเหลือ ซ่อนเร้น อำพราง

ส่วนตำรวจ 25 นาย บางส่วนถูกพักราชการ และสั่งให้ช่วยราชการพ้นพื้นที่มาแล้ว แต่ระดับรองผู้บังคับการยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ คาดว่า หลังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบฯ จะมีความชัดเจนที่จะดำเนินการกับตำรวจทำผิดกลุ่มนี้


โดยไทยมีพื้นที่ติดกับเมียนมา 10 จังหวัด โดยข้อมูลที่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสรุปเส้นทางขนแรงงานเถื่อนที่เข้ามาจนเป็นสาเหตุให้เกิดการระบาดของโควิดระลอกใหม่ ใช้เส้นทางจากเมาะลำเลิง หรือ มะละแหม่ง เมืองใหญ่เป็นอันดับที่สี่ของประเทศพม่าประเทศเมียนมา ผ่านทาง เมืองพญาตองซู อำเภอที่มีพื้นที่อำเภอ สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

โดยจังหวัดกาญจนบุรี มีชายแดนติดต่อกับประเทศเมียนมา ระยะทางประมาณ 370 กิโลเมตร โดยอำเภอสังขละบุรีมีพื้นที่ติดกับเมียนมา 100 กว่ากิโลเมตร มีด่านข้ามแดนระหว่างทั้ง 2 ประเทศที่อำเภอนี้อยู่ 1 ด่าน คือ ด่านเจดีย์สามองค์ ซึ่งเป็นด่านผ่อนปรน แต่ด่านนี้ปิดตัวตามคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ตั้งแต่ 17 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา

แต่ข้อมูลที่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สรุปในรายงานการสืบสวนข้อเท็จจริงขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศไทยว่า มีการลักลอกขนแรงงานต่างด้าวผ่านทางเส้นทางธรรมชาติที่มีระยะทางกว่า 100 กิโลเมตร เมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบจะพบว่าพื้นที่ช่องทางธรรมชาติที่แรงงานต่างด้าวจะลักลอบเข้ามาฝั่งไทยมีมากกว่า 20 ช่องทาง ในอำเภอสังขละบุรี ซึ่งอยู่ข้างด่านเจดีย์สามองค์ ที่มีพื้นที่กว้างมาก สามารถลักลอบเข้ามาได้หลายทางทั้ง 1. แม่น้ำซองกาเรียโดยใช้เรือเป็นพาหนะในการลักลอบขนแรงงาน 2.เดินเท้าผ่านทางเส้นทางธรรมชาติ

พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรบุณยสิริ ผู้บังคับบัญชากองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 บอกกับสำนักข่าวไทยว่าหลังจากพบว่าแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาเป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งทำให้ทุกฝ่ายตื่นตัวในเรื่องของแนวชายแดนที่เป็นจุดที่แรงงานดังกล่าวลักลอบเข้ามา ข้อมูลสรุปผลการปฏิบัติงานจับกลุ่มแรงงานต่างด้าวในส่วนของอำเภอสังขละบุรี ซึ่งในปี 2563 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ 509 คน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม