ตร.กำหนด 5 เงื่อนไข ชุมนุมนักเรียนเลว

กทม. 21 พ.ย. – ตร.กำหนด 5 เงื่อนไขชุมนุมนักเรียนเลว ยัน ม.112 ยังใช้ได้หากเข้าองค์ประกอบ


เมื่อเวลา 11.18 น. วันนี้ (21 พ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พร้อม พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. แถลงแนวทางการดูแลและการจัดจราจรกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมนักเรียนเลวนัดรวมตัวทำกิจกรรมที่แยกราชประสงค์ตั้งแต่เวลา 13.00 น.วันนี้ไปจนถึงช่วงค่ำ

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า มาตรการจัดวางกำลังและการบริหารจัดการรักษาความสงบเรียบร้อยของตำรวจนครบาลต่อม็อบนักเรียนเลววันนี้ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. มีตัวแทนแจ้งจัดการชุมนุมต่อ สน.ลุมพินี ด้านถนนเกสร ถึงห้างบิ๊กซีราชดำริ เพื่อเรียกร้องการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำของเด็กและสตรีในสังคม ตำรวจได้รับทราบและกำหนดเงื่อนไขชุมนุมตามนี้
1.ควบคุมผู้ชุมนุมให้อยู่ในสี่แยกราชประสงค์ตามที่แจ้ง ไม่ให้ไปที่อื่น
2.ห้ามใช้ป้ายข้อความหมิ่นประมาทยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวาย
3.ห้ามเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมไปพื้นที่อื่น
4.ใช้เครื่องขยายเสียงตามที่กำหนดระดับเสียงสูงสุดไม่เกิน 115 เดซิเบล และไม่เกิน 70 เดซิเบลตลอดการชุมนุม
5.การชุมนุมต้องเป็นไปอย่างสงบ ปราศจากอาวุธ ไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดีและละเมิดสิทธิผู้อื่น


โดย บช.น.แบ่ง 2 จุดควบคุม คือ ช่วงแยกราชประสงค์ถึงราชดำริ เป็นพื้นที่ตำรวจนครบาล 5 ส่วนถนนพระรามที่ 1 มาถึงฝั่งห้างเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นพื้นที่ตำรวจนครบาล 6

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า แม้จะแจ้งการชุมนุมต่อตำรวจก็ขอให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการห้ามเคลื่อนตัวไปจุดอื่น และการใช้ข้อความในลักษณะดูหมื่นสร้างความเกลียดชังแตกแยก รวมถึงการใช้โซเชียลมีเดียสร้างเฟคนิวส์ให้สังคมเกิดความแตกแยก

เมื่อถามว่ามีผู้เรียกร้องให้ตำรวจชี้แจงต่อ กมธ.กฎหมาย พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า สื่อมวลชนเป็นประจักษ์พยานสังเกตการณ์อยู่แล้ว ก็ดูตามความเหมาะสม ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ใจตามหลักกฎหมายทั่วไปแล้ว พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ที่ผ่านมาก็ชี้แจงไปแล้วหลายเวที ต้องดูเป็นกรณีไป เรายึดหลักรัฐศาสตร์และการเจรจาควบคู่กัน ขอให้ทุกคนได้เปรียบเทียบตำรวจไทยกับต่างประเทศในการเข้าควบคุมจัดการการชุมนุม ไม่ว่าระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือโรงพักท้องที่ก็มีขั้นตอนอยู่แล้ว


พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวถึงการเตรียมดำเนินการต่อผู้ชุมนุมที่แยกเกียกกายว่า เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้ไปสำรวจความเสียหายของรถยนต์ในราชการตำรวจที่ถูกทำลาย และแจ้งความต่อตำรวจท้องที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งกำลังสืบสอบและพิสูจน์ทราบตัวบุคคล ตอนนี้รู้ตัวแล้ว กำลังจะออกหมายเรียก รวมถึงหมายจับ

เมื่อถามถึงข่าวลือการออกหมายจับผู้ชุมนุมวันที่ 17-18 พ.ย. ในข้อหาตาม ม.112 พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า หากมีการกระทำผิดเข้าข่ายข้อใด พนักงานสอบสวนก็จะออกหมายเรียก หากมีพฤติกรรมหลบหนี จะขอหมายจับ ยืนยัน ม.112 ยังคงบังคับใช้ได้อยู่ เพราะเป็นสถาบันที่ทุกคนเคารพรัก ตำรวจคงไม่หนักใจ แต่ยืนยันว่าเป็นการปฏิบัติตามกรอบกฎหมาย ยึดหลักนิติรัฐ นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ควบคู่กันไป อะไรที่จะลุกลามบานปลาย เราจะถอย 1 ก้าว ใครทำผิดต้องถูกดำเนินคดี แม้ไม่จำเป็นต้องเข้าจับกุมในที่เกิดเหตุทันที่ แต่จะออกหมายเรียกหรือหมายจับภายหลังได้ ซึ่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เน้นย้ำเสมอให้อดทนและยึดหลักกฎหมาย อะไรเกิดกับเราก็ต้องยอมรับ

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวถึงกรณีการใช้เคมีฉีดใส่กลุ่มผู้ชุมนุมด้วยว่า อุปกรณ์ที่ใช้ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีและยึดตามมาตรฐานสากล การผสมสารเคมีเป็นด้วยระบบเทคโนโลยี เจ้าหน้าที่เป็นผู้นำไปใส่ไม่สามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้ ต้องผสมตามสัดส่วน เปรียบเทียบเช่นแทงก์สีปริ้นเตอร์ ยืนยันว่าทั้งตำรวจซึ่งเป็นต้นทางและนักข่าวรวมถึงผู้ชุมนุมที่เป็นปลายทางก็ได้รับอันตรายเท่าๆ กัน

เมื่อถามว่าทำไมถึงยืนยันได้ว่าชายชุดชมพูเป็นสมาชิกกลุ่มการ์ดคณะราษฎร พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่าตอนนี้กำลังสืบสวน เพราะภาพปรากฏเช่นนั้นว่าชายคนดังกล่าวอยู่ในกลุ่มการ์ดคณะราษฎร ยืนยันว่าไม่ได้ชี้นำ ขณะนี้รวบรวมเข้าสำนวนการสอบสวนแล้ว ยืนยันว่าเรามีการตรวจพิสูจน์และหลักฐานตามขั้นตอน

สำหรับการชุมนุมวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ กำลังรวบรวมข้อมูลและรอการประชุมอีกครั้ง ทั้งนี้ จากสถานการณ์การชุมนุมในปัจจุบัน มีการแจ้งจัดการชุมนุมมากขึ้น ประเมินว่าหากการชุมนุมในประเทศจะสามารถยกระดับให้เทียบเท่าอารยประเทศ โดยตั้งจุดคัดกรอง จุดพิสูจน์บุคคล จัดเจ้าหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยและทำความสะอาด เช่น ยุโรป หรือเกาหลีได้ จะเป็นการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญโดยแท้จริง อาจจะใช้สนามราชมังคลากีฬาสถาน ที่จุคนได้เยอะ หรือแม้แต่สนามกีฬาธูปะเตมีย์ ไม่ต้องมานั่งที่อยู่ที่แยกราชประสงค์ก็ได้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ขอหมายจับสามีภรรยาแจ้งความเท็จไฟไหม้บ้านเผาเงิน 10 ล้าน

ตำรวจขอศาลออกหมายจับสามีภรรยา แจ้งความบ้านถูกไฟไหม้เผาเงิน 10 ล้านบาท ด้าน พฐ. ตรวจบ้านไฟไหม้ไม่พบไฟฟ้าลัดวงจร ยืนยันน่าจะเป็นการจงใจวางเพลิง พบเงิน 10 ล้าน ไม่มีจริง พร้อมตรวจสอบเส้นเงินอีก 6.5 ล้าน ที่ยึดได้ในรถ ส่อฟอกเงิน-บัญชีม้า

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน

พายุฤดูร้อนถล่มอีสาน ลมแรง ต้นไม้ล้ม

ไทยเข้าสู่ฤดูร้อนไปเมื่อวันศุกร์ ที่ 28 ก.พ.68 หลายพื้นที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่ม โดยเฉพาะเมื่อวานฝนกระหน่ำ ลมแรง ต้นไม้ล้ม ต้นทุเรียนโค่น อุตุฯ เตือนช่วง 6-8 มีนาคมนี้ ระวังพายุฤดูร้อน

ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าคนร้ายชิงทอง 102 บาท

ตำรวจภูธรภาค 6 ระดมชุดสืบสวนเร่งไล่ล่าโจรชิงทองกลางห้างดังแม่สอด พร้อมจำลองเหตุการณ์ถอดแผนประทุษกรรมคนร้าย คาดมีข่าวดีเร็วๆ นี้ ขณะที่ 5 อำเภอชายแดน ยังเข้มตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด ป้องกันคนร้ายหนีข้ามแดน

นายกฯ พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน

นายกฯ หารือภาคเอกชน พบผู้บริหารบริษัท DKSH ณ นครซูริก ก่อนบินต่อเบอร์ลิน เยอรมนี พูดคุยข้อจำกัดการขออนุญาตจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์พัฒนาการรักษาโรคในไทย สานต่องานอดีตนายกฯ เศรษฐา พร้อมขอให้เป็นตัวกลางส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปต่างประเทศ