กาญจนบุรี 2 ก.ย.-อย่าตื่นข่าวปิดโรงเรียนในกาญจนบุรี หลังมีชาวเมียนมา 2 คนหนีเข้าเมืองผ่านช่องทางธรรมชาติ พักอาศัยในพื้นที่ ด้าน สสจ.กาญจนบุรี ยันผลตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19
นายนิล โชคสงวนทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกุยแหย่ พร้อมด้วยครู ร่วมกับเทศบาลตำบลลิ่นถิ่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านกุยแหย่ อสม. ผู้นำชุมชน และผู้ปกครองนักเรียน ได้ร่วมกัน Big Cleaning ฉีดพ่นทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทั่วทั้งโรงเรียน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังมีชาวเมียนมา 2 คนหนีเข้าเมืองผ่านช่องทางธรรมชาติ เข้าไปพักอาศัยในพื้นที่บ้านพุล่อ ตำบลลิ่นถิ่น อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี และพบมีไข้ขึ้นสูงเข้าข่ายสงสัยป่วย “โควิด-19” อีกทั้งพบเด็กชายอายุ 1 ปีในบ้านที่ทั้ง 2 คนไปพักอาศัยเข้าข่ายต้องสงสัย โดยมีผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยเป็นเด็กนักเรียนบ้านกุยแหย่ จำนวน 3 คน จึงมีการปิดเรียน 3 วันทันที สำหรับผลการตรวจยืนยันว่าผู้เข้าข่ายต้องสงสัยจะมีเชื้อ “โควิด-19” หรือไม่นั้น ต้องรอยืนยันวันนี้
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังเข้าไปฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อทำความสะอาด ในชุมชนบ้านพุล่อ โดยเฉพาะบ้านพักของผู้ป่วยและเพื่อนบ้านใกล้เคียง 15 หลัง พร้อมตรวจวัดไข้คนในชุมชน 70 คน และกำชับให้อยู่แต่ในบ้านเป็นระยะเวลา 14 วัน
ล่าสุด นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ชี้แจงหลังมีการปิดโรงเรียนจนสร้างความหวั่นวิตกกับพี่น้องประชาชนว่าจะเกิดการระบาดแพร่เชื้อในกาญจนบุรีหรือไม่นั้น โดยระบุว่า
1.ได้ส่งผู้ที่มีอาการไข้ 3 รายเป็นชายอายุ 20 ปี 1 ราย อายุ 17 ปี 1 ราย เด็กอายุ 1 ขวบ 1 ราย ขณะนี้ผลการตรวจออกแล้ว 2 ราย ไม่พบเชื้อ ยังคงเหลือ 1 ราย รอผลตรวจ(คนอายุ17ปี)
2.ได้ตรวจสอบแล้วชายทั้ง 2 คน เป็นผู้อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนและอยู่ในเขตหมู่บ้านและเขตใกล้เคียงเป็นเวลานานเกินกว่า 2 สัปดาห์แล้วและไม่ได้เดินทางไปในที่ใดที่เสี่ยงต่อการรับเชื้อเลย
3.การประเมินเบื้องต้นของแพทย์ อาการของไข้ไม่น่ามาจากเชื้อโควิด
4.การสั่งปิดโรงเรียนเป็นเพียงมาตรการป้องกันที่ไม่ประมาทต่อสถานการณ์เท่านั้นหากมีรายงานการตรวจเชื้อรายสุดท้ายถูกส่งมา จะชี้แจงให้ประชาชนทราบ และอย่าวิตกเกินไป
โดยล่าสุดมีผลยืนยันออกมาจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดว่า ทุกราย ตอนนี้ไม่พบเชื้อโควิดแน่นอนแล้ว.-สำนักข่าวไทย