คู่กรณี “จารุชาติ” พยานปากเอกคดี “บอส” ยันไม่ได้รับงานใคร

เชียงใหม่ 30 ก.ค.-ตำรวจคุมตัวคู่กรณีขับรถเฉี่ยว จยย. “จารุชาติ” พยานปากเอกคดี “บอส” มาสอบปากคำ ลั่นเป็นฝ่ายถูกชน ไม่เคยรู้จักผู้ตาย และไม่ได้รับงานใครมา ด้าน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ขอเวลาตรวจสอบเพื่อคลายทุกข้อสงสัย


ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทุกเหตุการณ์ที่นายจารุชาติ มาดทอง อายุ 40 ปี พยานปากสำคัญในคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา กำลังขี่รถจักรยานยนต์ จากนั้นได้มีคู่กรณีเฉี่ยวชนท้าย เหตุเกิดบนถนนห้วยแก้ว มุ่งหน้าไปยังคูเมือง อำเภอเมืองเชียงใหม่ เวลาประมาณ 01.00 น.ที่ผ่านมา จากนั้นรถจักรยานยนต์ของนายจารุชาติ เสียหลักล้มกลางถนน จนศีรษะได้รับการกระทบกระเทือน ส่วนคู่กรณีได้เสียหลักไปชนกับขอบเกาะกลางถนน หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่มูลนิธิ ได้นำตัวทั้งนายจารุชาติ และนายสมชาย ตาวิโน คู่กรณีส่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ พบอาการของนายสมชาย บาดเจ็บเล็กน้อย แต่นายจารุชาติ บาดเจ็บที่ศีรษะและเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล

พ.ต.อ.รณชัย รอดลอย ผู้กำกับการ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ผู้กำกับการ เผยจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดและจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พบว่านายจารุชาติ ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ ส่วนนายสมชาย คู่กรณี ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ดรีม เบื้องต้นทราบว่านายจารุชาติไปดื่มสุรา และทั้งคู่ขี่รถมาตามถนนนิมมานเหมินทร์ ก่อนเลี้ยวเข้าถนนห้วยแก้ว ซึ่งระหว่างทางได้ขี่ตีคู่กันมาและพูดคุยในลักษณะคล้ายคนรู้จัก กระทั่งก่อนถึงสามแยกฟ้าธานี บริเวณทางเข้าหน้าร้านสุคนธาหมูกระทะ ปรากฏว่ารถคู่กรณีได้เฉี่ยวชนท้ายรถนายจารุชาติ จากนั้นรถของนายจารุชาติ ล้มลง อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้เตรียมเดินทางไปสอบปากคำคู่กรณีที่บ้านพักในตัวเมืองเชียงใหม่ หลังมีข้อมูลว่าได้หลบหนีออกจากโรงพยาบาลแล้ว


ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.ไพศาล นันตา รองผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมทีมพนักงานสอบสวนสภ.ภูพิงค์ ได้นำตัว นายสมชาย ตาวิโน อายุ 50 ปี ชาวเชียงใหม่ ผู้ขี่รถจักรยานยนต์คู่กรณีชนกับนายจารุชาติ มาสอบสวนปากคำ โดยใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง เบื้องต้นนายสมชาย ให้การปฎิเสธ ไม่ได้เฉี่ยวชน แต่อ้างว่าผู้เสียชีวิต มาเฉี่ยวชนตนเอง จนรถจักรยานยนต์ตนเองเสียหลัก ไปชนเกาะกลางถนน วันเกิดเหตุ คือ เมื่อคืนเลิกงานได้เงินเดือนก็ไปเดินตลาดซื้อเหล้ากินจนเมา จากนั้นพอดึกจะออกไปหาสาวๆ ในย่านชุมชนสันติธรรม ในตัวเมืองเชียงใหม่ จึงขี่รถมาตามถนนจนมาถึงที่เกิดเหตุ ตนซึ่งขี่รถนำหน้าก็พบเห็นรถผู้ตายขี่ตามมาและพยายามเร่งแซงก่อนจะชนรถตนเอง ทำให้รถตนเองเสียหลักพุ่งไถลไปเกาะกลางถนนจนตนได้รับบาดเจ็บที่หน้าและลำตัว ส่วนนายจารุชาติเสียหลักไถลไปชนริมทางเท้ามารู้อีกทีว่าเสียชีวิตแล้ว ส่วนที่คู่กรณีเป็นพยานคดีกระทิงแดง ตนไม่เคยรู้มาก่อน ไม่เคยรู้จัก และยืนยันเรื่องนี้ไม่ได้รับงานใครมา

ด้าน พล.ต.ต.พิเชษฐ เปิดเผยว่าจากการรวบรวมพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิดทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุทั้งหมดก็พบว่าเป็นอุบัติเหตุเฉี่ยวชน ส่วนใครผิดใครถูกทางพนักงานสอบสวนจะดำเนินการตรวจสอบวิเคราะห์อย่างถูกต้องที่สุด ซึ่งคนที่เฉี่ยวชนกันนี้อาจจะแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย คดีนี้ทาง ตร. และ ผบช.5 กำชับให้ตรวจสอบดำเนินการอย่างละเอียดว่าคดีที่เกิดขึ้นมีนัยอะไรหรือไม่ ซึ่งตำรวจจะตรวจสอบปูมหลังของคู่กรณีทั้งหมดแล้วจะชี้แจ้งให้ประชาชนได้ทราบว่าเป็นอย่างไร ส่วนผู้ตายเป็นพยานในคดีสำคัญหรือไม่ หรืออาจจะชื่อตรงกันตรงนี้ตนตอบอะไรยังไม่ได้ เพราะไม่มีข้อมูลเรื่องนี้ แต่จะตรวจเช็กให้ละเอียด

สำหรับผู้ตายตอนนี้ตำรวจก็รอผลชันสูตรจากแพทย์ว่าเสียชีวิตเพราะอะไรกันแน่ แต่จากผลที่ออกมาเบื้องต้นนอกจากบาดแผลที่ศีรษะกระแทกกับพื้นถนนก็ไม่มีบาดแผลอื่นใดนอกจากรถชน แต่จากหลักฐานที่เรามีทั้งจากภาพวงจรปิดก็พบว่าผู้ตายขี่รถมาแล้วเฉี่ยวชนกับรถนายสมชาย จนรถของนายสมชายและตัวนายสมชายไปอยู่บริเวณกลางถนน ส่วนนายจารุชาติล้มตรงจุดชนและบาดเจ็บสาหัส ทางเจ้าหน้าที่รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลแต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งขอเวลาการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่อีกซักระยะหนึ่งทุกอย่างจะกระจ่างทุกปม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]