ไทยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 106

สำนักข่าวไทย : 24 มี.ค. 63 – กระทรวงสาธาณสุขแถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 วันนี้ 24 มี.ค. 63 พบผู้ป่วยเพิ่ม 106 ราย ยอดสะสมพุ่ง 827 ราย มีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ 4 ราย


• พบผู้ป่วยรายใหม่ 106 ราย (ลำดับที่ 722-827) รวมผู้ป่วยสะสม 827 ราย


• ผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่ม 5 ราย รวมกลับบ้านแล้ว 57 ราย

• รักษา รพ. 766 ราย

•  อาการหนัก 4 ราย ทุกรายใส่เครื่องช่วยหายใจ มีการเฝ้าระวังใกล้ชิด


• เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย ชายไทย อายุ 70 ปี ผู้ป่วยวัณโรคร่วม, คนไทย 79 ปี เกี่ยวข้องกับสนามมวย อาการหนักตั้งแต่แรกรับ มีโรคประจำตัวเยอะ อีกรายอายุ 45 ปี มีภาวะโรคเบาหวานและโรคอ้วน รวมเสียชีวิตสะสม 4 ราย

ผู้ป่วยรายใหม่ 106 ราย (ลำดับที่ 722-827) สามารถจำแนกได้เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มที่ 1 สัมผัสกับผู้ป่วยและเกี่ยวข้องกับสถานที่ก่อนหน้า 25 ราย

• สนามมวย 5 ราย เป็นสนามมวยลุมพินี, ราชดำเนิน เป็นผู้ชมและเซียนมวย จากจังหวัด กทม. นครปฐม สมุทรสาคร และอุบลราชธานี

• สถานบันเทิง 6 ราย เป็นย่านทองหล่อ, rca, นานา เป็นนักท่องเที่ยว พนง.เสิร์ฟ จากจังหวัดสระบุรี กทม. บุรีรัมย์ และชลบุรี

• สัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้า 12 ราย เป็นพนง.ขายเสื้อผ้า เซียนมวย พนง.บริการ รับราชการ ที่มีประวัติกินข้าวกับผู้ป่วย กินเลี้ยง ดื่มสุรากับผู้ป่วยที่สถานบันเทิง และใกล้ชิดกับผู้มีประวัติสนามมวย

• ร่วมพิธีทางศาสนา 2 ราย พบที่จังหวัดปัตตานี

กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ 34 ราย

• มาจาก ตปท. 20 ราย คนไทย 8 ราย (พนง.ต้นรับบนเครื่องบิน, นศ. และพนง.ที่ปอยเปต) ต่างชาติ 12 ราย (ฝรั่งเศส, สวีเดน, ปากีสถาน, อังกฤษ และนิวซีแลนด์

• ทำงานหรืออาศัยในพท.แออัด 10 ราย เป็นผู้เกี่ยวข้องกับผู้ป่วย, ชาวต่างชาติ (รปภ., พนง.รับรถ, ขับรถรับส่ง นทท., ขับรถแท็กซี่, พนักงานเสิร์ฟ, มัคคุเทศก์, พนง.ในสถานบันเทิง จากจังวัด กทม., จันทบุรี, ชลบุรี, บุรีรัมย์, อุบลราชธานี, ภูเก็ต และโคราช)

• บุคลากรทางการแพทย์ 4 ราย (แพทย์ พยาบาล จนท.สธ. จากภูเก็ต, ยะลา, บุรีรัมย์ และนครปฐม) เป็นกลุ่มก้อนใหม่ สาเหตุเพราะผู้ป่วยไม่แจ้งประวัติเสี่ยง ทำให้บุคลากรไม่สามารถป้องกันตัวเองได้

กลุ่มที่ 3 อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 47 ราย

กระทรวงสาธารณสุขจัดทำข้อมูลสถานที่ ประกาศให้ผู้เกี่ยวข้องเฝ้าระวังตัวเอง

• วันนี้ (24 มี.ค. 63) อัปเดต อุบลราชธานี ขอนแก่น กทม. สงขลา โคราช นนทบุรี และสุรินทร์ ผู้ที่อยู่ในสถานที่และเวลาตามประกาศ ขอให้รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ได้แก่ นพ.สาธารณสุขจังหวัด, ผู้ว่าราชการจังหวัด, ผอ. โรงพยาบาล, นายอำเภอ, สาธารณสุขอำเภอ, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน, อสม และผู้นำชุมชนทันที 

• ให้กักตัวเอง สังเกตอาการ 14 วัน หากมีไข้ อาการของระบบทางเดินหายใจ ให้รีบพบแพทย์ทันที

• ติดตามประกาศสถานที่ที่พบผู้ป่วยได้ที่เว็บไซต์ ไทยรู้สู้โควิด https://www.facebook.com/thaimoph/  และเว็บไซต์ของกรมควบคุมโรค https://ddc.moph.go.th/index.php

วิเคราะห์สถานการณ์ โดย พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผอ.กองระบาดวิทยา

ข้อมูล ณ 24 มี.ค. 63 เวลา 0.00 น.

• สถานการณ์ทั่วโลก

– มีผู้ป่วยทั้งหมด 192 ประเทศ เพิ่ม 5 ประเทศ

– ผู้ป่วยยืนยัน 366,866 (เพิ่ม 37,242)

– ผู้ป่วยวิกฤต 11,856 (เพิ่ม 1,558)

– รักษาหาย 101,065 (เพิ่ม 4,107)

– เสียชีวิต 16,098 (เพิ่ม 1,665)

• แนวโน้มประเทศไทย

– มีประเทศเฝ้าระวัง 2 ส่วน ได้แก่ ประเทศเขตโรคติดต่ออันตราย และพื้นที่ที่มีการระบาดต่อเนื่อง (มีผู้ป่วยมากกว่า 500 ราย)

ภาพจาก :  https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/index.php

• ปรับเปลี่ยนมาตรฐานในการตรวจ จาก 2 ห้องปฏิบัติการ เป็น 1 ห้องปฏิบัติการ ถือว่าติดเชื้อ

• ลักษณะผู้ป่วยในภาพรวม ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย มากกว่าผู้หญิง กลุ่มอายุ 30-39 ปี รองลงมาคือ 20-29 ปี

• การกระจายในประเทศ ช่วงแรก 9-15 มี.ค. 63 กระจุกอยู่ กทม. ต่อมาช่วง 16-24 มี.ค. พบการกระจาย ไป 47 จังหวัด ศูนย์กลางอยู่ที่ กทม. ส่วนที่กระจายไป ตจว. เริ่มจากเคสสนามมวย มีคนเดินทางไป ตจว.

• อัตราการแพร่เชื้อ กทม.-ปริมณฑล 1:3.4 คน / สงขลา, ปัตตานี, ยะลา และภูเก็ต 1:2.2 คน / อื่น ๆ 1:1.8 คน

• จากอัตราการแพร่เชื้อ พบว่า 1 คน ใน กทม. สามารถแพร่เชื้อได้ 3-4 คน ซึ่งสูงกว่าอัตราการแพร่เชื้อทั่วไป หากปล่อยทิ้งไว้ จะยิ่งเพิ่มสูง ต้องระมัดระวังมากขึ้น

• ตอนนี้ใช้เรื่องของจังหวัดที่รับการรักษาเป็นหลักเนื่องจากข้อมูลยังไม่ครบถ้วน ในทางระบาดวิทยา อยากจะสืบสวนไปถึงจังหวัดที่เขาป่วย

• Social Distancing เป็นมาตรการที่พยายามจะลดโรค หากเราสามารถลดการกระจายได้ ผู้ป่วยจะลดลง ร้อยละ 50-80

การเตรียมความพร้อมและการรับมือ

– สำรับ Worst Case Scenario (กรณีเลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้) ต้องแยกผู้แ่วยอาการน้อยไปอยู่ รพ. หรือ รร. ส่วนเครื่องช่วยหายใจ ณ ปัจจุบันถ้าอัตราการเกิดโรคใหม่และหนักยังไม่มาก ทรัพยากรที่เป็นเครื่องมือช่วยเรื่องทางเดินหายใจยังเพียงพอ

– หากผู้ป่วยเพิ่มเป็นหลักหลายพันขึ้นไปก็อาจไม่พอ จะมีการจัดครุภัณฑ์ รับบริจาค สถานการณ์นี้ ปชช. เป็นผู้กำหนดว่าจะเพิ่มขึ้นหรือไม่

– ลดระยะเวลาของการคาดการณ์จาก 2 ปี เหลือแค่สิ้นเดือน เพื่อรับมือและหามาตรการใหม่ในการรับมือ

– คนใน กทม. พยายามเดินทางออก ตจว. ทำให้มีผู้ป่วยเพิ่ม หากในวันหยุด คนใน กทม. ไม่ได้เดินทางไปไหน ก็จะมีโอกาสน้อยที่จะนำเชื้อไปแพร่ให้กับผู้สูงอายุที่ ตจว.

– หากไม่มีอาการอย่าเพิ่งไปตรวจ จะทำให้ผู้ที่มีอาการ, มีโอกาสติดเชื้อไม่ได้ตรวจ

– กรณีผู้เสียชีวิต สามารถจัดงาน, ฌาปณกิจได้ และผู้เสียชีวิตบางรายก็ไม่มีเชื้อแล้ว ผู้ร่วมงานควรมี Social Distancing กับผู้ร่วมงานคนอื่น ๆ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อมากกว่า

ฟังเพิ่มเติม : https://bit.ly/2WzG6Rs

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” นำคณะทูตดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ

ศรีสะเกษ 16 ส.ค. – รมว.ต่างประเทศ นำคณะทูต 33 ประเทศ ดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ เตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง ให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ หลังจากฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในภาพรวมที่โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะทูตประเทศภาคีอนุสัญญาออตตาวา และตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ รวม 33 ประเทศ ขึ้นไปสำรวจพื้นที่และดูการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบนภูมะเขือ ที่อยู่ใกล้แนวปราสาทพระวิหาร เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือสื่อมวลชนที่ขึ้นภูมะเขือ งดถ่ายภาพติดพื้นที่ทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ระหว่างทางขึ้น ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมพื้นที่บ้านภูมิซรอล หมู่ 13 ที่ถูกกระสุนจรวด BM-21 เสียหายหนัก 2 หลัง และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ถูกสะเก็ดเสียหายอีก 2 หลัง โดยจุดนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 รายด้วย เพื่อให้คณะทูตแวะตรวจสอบหลังเสร็จสิ้นภารกิจบนภูมะเขือ.-สำนักข่าวไทย

เก๋งแต่งซิ่ง เสียหลักพุ่งชนยับ 10 คันรวดบนทางด่วน

กทม. 16 ส.ค.-เก๋งแต่งซิ่งประลองความเร็ว เสียหลักพุ่งชนกันยับ 10 คันรวดบนทางด่วนมุ่งหน้าบางปะอิน เจ้าของรถบีเอ็ม เล่านาทีถูกชน เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันจำนวนหลายคัน บนทางด่วนช่วงทางขึ้นเมืองทองธานี มุ่งหน้าบางปะอิน โดยภาพจากกล้องหน้ารถยนต์คันหนึ่งบันทึกภาพเวลา 00.59 น.วันนี้ (16 ส.ค.68) รถเก๋งสีขาวจำนวน 3 คัน ขับตามกันมาด้วยความเร็วก่อนเกิดการชนกัน ทำให้รถเสียหลักหมุน ก่อนจะถูกรถเก๋งที่ขับตามมาพุ่งชนซ้ำอีกหลายคัน บางคันเกือบตกทางด่วน หลังตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุ จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษ เร่งตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถเก๋งแต่งซิ่งประมาณ 10 คัน บางคันเป็นรถหรูราคาแพง ได้รับความเสียหายยับเยิน กีดขวางทั้ง 2 ช่องจราจร มีเศษชิ้นส่วนของรถยนต์ที่แตกและหลุดกระจายเต็มพื้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรปากเกร็ดและเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษได้ประสานรถยกเร่งเคลื่อนย้ายรถที่เสียหายออกพร้อมทำความสะอาดคราบน้ำมันและชิ้นส่วนรถยนต์ เพื่อเปิดการจราจรใช้เวลากว่า 3 ชม. จากการสอบถาม นายอชิตพล อายุ 29 ปี เจ้าของรถยนต์บีเอ็ม ที่ถูกชนกล่าวว่า ตนขับรถไปรับแฟนมาจากที่ทำงาน เพื่อจะเดินทางกลับบ้านย่านธรรมศาสตร์รังสิต ขณะที่ขับรถอยู่ในช่องทางขวา เห็นรถเก๋งสีขาวที่ขับตามมาด้วยความเร็ว ตนจะเปลี่ยนเลนหลบไปในช่องทางซ้าย แต่ก็ถูกรถเก๋งคันดังกล่าวพุ่งชนท้ายก่อนที่รถจะเสียหลักหมุน เป็นจังหวะเดียวกันกับรถอีกคันที่ขับตามกันมาด้วยความเร็วพุ่งชนซ้ำอีกครั้ง […]

‘ทรัมป์’ – ‘ปูติน’ หารือไร้ข้อสรุปเรื่องยุติสงครามในยูเครน

แองเคอเรจ, อะแลสกา 15 ส.ค. – การประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ซึ่งทั่วโลกต่างเฝ้ารอคอย ได้สิ้นสุดลงโดยไม่มีข้อตกลงใด ๆ เพื่อยุติหรือพักรบสงครามในยูเครน แม้ว่าผู้นำทั้งสองจะกล่าวว่าการพูดคุยเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ก็ตาม หลังจากการประชุมยาวนานเกือบ 3 ชั่วโมง ในอะแลสกา ผู้นำทั้งสองได้ปรากฏตัวต่อหน้าสื่อเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ โดยระบุว่ามีความคืบหน้าในประเด็นต่าง ๆ ที่ไม่ได้ระบุรายละเอียด แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมใด ๆ และไม่เปิดโอกาสให้ตั้งคำถาม นายทรัมป์ซึ่งปกติเป็นคนช่างพูด กลับเพิกเฉยต่อคำถามที่นักข่าวตะโกนถาม นายทรัมป์กล่าวว่า มีความคืบหน้าบ้าง แต่จะยังไม่มีข้อตกลงใด ๆ จนกว่าจะมีการทำข้อตกลง ดูเหมือนว่าการพูดคุยครั้งนี้จะไม่ได้นำไปสู่การดำเนินการที่มีความหมายเพื่อหยุดยิงในความขัดแย้งที่นองเลือดที่สุดในยุโรปในรอบ 80 ปี ซึ่งเป็นเป้าหมายที่นายทรัมป์ได้ตั้งไว้ก่อนการประชุม แต่เพียงแค่การได้นั่งพูดคุยแบบตัวต่อตัวกับประธานาธิบดีสหรัฐ ก็ถือเป็นชัยชนะสำหรับนายปูตินแล้ว หลังจากเขาถูกผู้นำชาติตะวันตกกีดกันมาโดยตลอดนับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเต็มรูปแบบในปี 2022 หลังการประชุมสุดยอด นายทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์นิวส์ ว่าเขาจะชะลอการกำหนดภาษีนำเข้ากับจีนสำหรับการซื้อน้ำมันรัสเซีย หลังจากที่การเจรจากับนายปูตินมีความคืบหน้า นายทรัมป์ยังเคยขู่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย แต่จนถึงขณะนี้เขายังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ แม้ว่านายปูตินจะเพิกเฉยต่อเส้นตายหยุดยิงที่นายทรัมป์กำหนดไว้เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ในการให้สัมภาษณ์กับฟอกซ์ นิวส์ นายทรัมป์ยังได้เสนอแนะว่าจะมีการจัดการประชุมระหว่างนายปูตินและประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี […]

กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ

กทม. 16 ส.ค.-กต. นำคณะทูตรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา 33 ประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ สำรวจความเสียหายการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ลงพื้นที่จ.ศรีษะเกษ เพื่อชี้แจงข้อมูลและเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทย โดยมีคณะทูตและผู้แทน จำนวน 36 คน แบ่งเป็น 33 ประเทศ 1 องค์กร 2 องค์การระหว่างประเทศ สื่อมวลชนไทยและสื่อต่างประเทศ เข้าร่วม ทั้งนี้ ก่อนออกเดินทางกระทรวการต่างประเทศได้บรรยายข้อมูลเบื้องต้นให้คณะได้รับทราบ โดยนายมาริษ กล่าวกับคณะทูต ว่า ขอบคุณที่ร่วมเดินทาง และหวังว่าทุกท่านจะได้รับข้อมูลด้วยตาตัวเองถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่จะเดินทางออกไปยัง จ.ศรีสะเกษ โดยจุดแรกจะนำคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียนรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาเดินทางไปโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษณ์ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปจากกองทัพบก กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย จากนั้นจะนำคณะทูตและสื่อมวลชนขึ้นไปภูมะเขือ และฐานปฏิบัติการ เพื่อดูภูมิประเทศ เยี่ยมชมการเก็บกู้ทุนระเบิดของหน่วยปฏิบัติการด้านทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมในพื้นที่ภูมะเขือ สำรวจความเสียหายที่เกิดจากการใช้ทุ่นระเบิดของฝั่งกัมพูชา.-316.-สำนักข่าวไทย