ไทยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 106

สำนักข่าวไทย : 24 มี.ค. 63 – กระทรวงสาธาณสุขแถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 วันนี้ 24 มี.ค. 63 พบผู้ป่วยเพิ่ม 106 ราย ยอดสะสมพุ่ง 827 ราย มีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ 4 ราย


• พบผู้ป่วยรายใหม่ 106 ราย (ลำดับที่ 722-827) รวมผู้ป่วยสะสม 827 ราย


• ผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่ม 5 ราย รวมกลับบ้านแล้ว 57 ราย

• รักษา รพ. 766 ราย

•  อาการหนัก 4 ราย ทุกรายใส่เครื่องช่วยหายใจ มีการเฝ้าระวังใกล้ชิด


• เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย ชายไทย อายุ 70 ปี ผู้ป่วยวัณโรคร่วม, คนไทย 79 ปี เกี่ยวข้องกับสนามมวย อาการหนักตั้งแต่แรกรับ มีโรคประจำตัวเยอะ อีกรายอายุ 45 ปี มีภาวะโรคเบาหวานและโรคอ้วน รวมเสียชีวิตสะสม 4 ราย

ผู้ป่วยรายใหม่ 106 ราย (ลำดับที่ 722-827) สามารถจำแนกได้เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มที่ 1 สัมผัสกับผู้ป่วยและเกี่ยวข้องกับสถานที่ก่อนหน้า 25 ราย

• สนามมวย 5 ราย เป็นสนามมวยลุมพินี, ราชดำเนิน เป็นผู้ชมและเซียนมวย จากจังหวัด กทม. นครปฐม สมุทรสาคร และอุบลราชธานี

• สถานบันเทิง 6 ราย เป็นย่านทองหล่อ, rca, นานา เป็นนักท่องเที่ยว พนง.เสิร์ฟ จากจังหวัดสระบุรี กทม. บุรีรัมย์ และชลบุรี

• สัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้า 12 ราย เป็นพนง.ขายเสื้อผ้า เซียนมวย พนง.บริการ รับราชการ ที่มีประวัติกินข้าวกับผู้ป่วย กินเลี้ยง ดื่มสุรากับผู้ป่วยที่สถานบันเทิง และใกล้ชิดกับผู้มีประวัติสนามมวย

• ร่วมพิธีทางศาสนา 2 ราย พบที่จังหวัดปัตตานี

กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ 34 ราย

• มาจาก ตปท. 20 ราย คนไทย 8 ราย (พนง.ต้นรับบนเครื่องบิน, นศ. และพนง.ที่ปอยเปต) ต่างชาติ 12 ราย (ฝรั่งเศส, สวีเดน, ปากีสถาน, อังกฤษ และนิวซีแลนด์

• ทำงานหรืออาศัยในพท.แออัด 10 ราย เป็นผู้เกี่ยวข้องกับผู้ป่วย, ชาวต่างชาติ (รปภ., พนง.รับรถ, ขับรถรับส่ง นทท., ขับรถแท็กซี่, พนักงานเสิร์ฟ, มัคคุเทศก์, พนง.ในสถานบันเทิง จากจังวัด กทม., จันทบุรี, ชลบุรี, บุรีรัมย์, อุบลราชธานี, ภูเก็ต และโคราช)

• บุคลากรทางการแพทย์ 4 ราย (แพทย์ พยาบาล จนท.สธ. จากภูเก็ต, ยะลา, บุรีรัมย์ และนครปฐม) เป็นกลุ่มก้อนใหม่ สาเหตุเพราะผู้ป่วยไม่แจ้งประวัติเสี่ยง ทำให้บุคลากรไม่สามารถป้องกันตัวเองได้

กลุ่มที่ 3 อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 47 ราย

กระทรวงสาธารณสุขจัดทำข้อมูลสถานที่ ประกาศให้ผู้เกี่ยวข้องเฝ้าระวังตัวเอง

• วันนี้ (24 มี.ค. 63) อัปเดต อุบลราชธานี ขอนแก่น กทม. สงขลา โคราช นนทบุรี และสุรินทร์ ผู้ที่อยู่ในสถานที่และเวลาตามประกาศ ขอให้รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ได้แก่ นพ.สาธารณสุขจังหวัด, ผู้ว่าราชการจังหวัด, ผอ. โรงพยาบาล, นายอำเภอ, สาธารณสุขอำเภอ, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน, อสม และผู้นำชุมชนทันที 

• ให้กักตัวเอง สังเกตอาการ 14 วัน หากมีไข้ อาการของระบบทางเดินหายใจ ให้รีบพบแพทย์ทันที

• ติดตามประกาศสถานที่ที่พบผู้ป่วยได้ที่เว็บไซต์ ไทยรู้สู้โควิด https://www.facebook.com/thaimoph/  และเว็บไซต์ของกรมควบคุมโรค https://ddc.moph.go.th/index.php

วิเคราะห์สถานการณ์ โดย พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผอ.กองระบาดวิทยา

ข้อมูล ณ 24 มี.ค. 63 เวลา 0.00 น.

• สถานการณ์ทั่วโลก

– มีผู้ป่วยทั้งหมด 192 ประเทศ เพิ่ม 5 ประเทศ

– ผู้ป่วยยืนยัน 366,866 (เพิ่ม 37,242)

– ผู้ป่วยวิกฤต 11,856 (เพิ่ม 1,558)

– รักษาหาย 101,065 (เพิ่ม 4,107)

– เสียชีวิต 16,098 (เพิ่ม 1,665)

• แนวโน้มประเทศไทย

– มีประเทศเฝ้าระวัง 2 ส่วน ได้แก่ ประเทศเขตโรคติดต่ออันตราย และพื้นที่ที่มีการระบาดต่อเนื่อง (มีผู้ป่วยมากกว่า 500 ราย)

ภาพจาก :  https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/index.php

• ปรับเปลี่ยนมาตรฐานในการตรวจ จาก 2 ห้องปฏิบัติการ เป็น 1 ห้องปฏิบัติการ ถือว่าติดเชื้อ

• ลักษณะผู้ป่วยในภาพรวม ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย มากกว่าผู้หญิง กลุ่มอายุ 30-39 ปี รองลงมาคือ 20-29 ปี

• การกระจายในประเทศ ช่วงแรก 9-15 มี.ค. 63 กระจุกอยู่ กทม. ต่อมาช่วง 16-24 มี.ค. พบการกระจาย ไป 47 จังหวัด ศูนย์กลางอยู่ที่ กทม. ส่วนที่กระจายไป ตจว. เริ่มจากเคสสนามมวย มีคนเดินทางไป ตจว.

• อัตราการแพร่เชื้อ กทม.-ปริมณฑล 1:3.4 คน / สงขลา, ปัตตานี, ยะลา และภูเก็ต 1:2.2 คน / อื่น ๆ 1:1.8 คน

• จากอัตราการแพร่เชื้อ พบว่า 1 คน ใน กทม. สามารถแพร่เชื้อได้ 3-4 คน ซึ่งสูงกว่าอัตราการแพร่เชื้อทั่วไป หากปล่อยทิ้งไว้ จะยิ่งเพิ่มสูง ต้องระมัดระวังมากขึ้น

• ตอนนี้ใช้เรื่องของจังหวัดที่รับการรักษาเป็นหลักเนื่องจากข้อมูลยังไม่ครบถ้วน ในทางระบาดวิทยา อยากจะสืบสวนไปถึงจังหวัดที่เขาป่วย

• Social Distancing เป็นมาตรการที่พยายามจะลดโรค หากเราสามารถลดการกระจายได้ ผู้ป่วยจะลดลง ร้อยละ 50-80

การเตรียมความพร้อมและการรับมือ

– สำรับ Worst Case Scenario (กรณีเลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้) ต้องแยกผู้แ่วยอาการน้อยไปอยู่ รพ. หรือ รร. ส่วนเครื่องช่วยหายใจ ณ ปัจจุบันถ้าอัตราการเกิดโรคใหม่และหนักยังไม่มาก ทรัพยากรที่เป็นเครื่องมือช่วยเรื่องทางเดินหายใจยังเพียงพอ

– หากผู้ป่วยเพิ่มเป็นหลักหลายพันขึ้นไปก็อาจไม่พอ จะมีการจัดครุภัณฑ์ รับบริจาค สถานการณ์นี้ ปชช. เป็นผู้กำหนดว่าจะเพิ่มขึ้นหรือไม่

– ลดระยะเวลาของการคาดการณ์จาก 2 ปี เหลือแค่สิ้นเดือน เพื่อรับมือและหามาตรการใหม่ในการรับมือ

– คนใน กทม. พยายามเดินทางออก ตจว. ทำให้มีผู้ป่วยเพิ่ม หากในวันหยุด คนใน กทม. ไม่ได้เดินทางไปไหน ก็จะมีโอกาสน้อยที่จะนำเชื้อไปแพร่ให้กับผู้สูงอายุที่ ตจว.

– หากไม่มีอาการอย่าเพิ่งไปตรวจ จะทำให้ผู้ที่มีอาการ, มีโอกาสติดเชื้อไม่ได้ตรวจ

– กรณีผู้เสียชีวิต สามารถจัดงาน, ฌาปณกิจได้ และผู้เสียชีวิตบางรายก็ไม่มีเชื้อแล้ว ผู้ร่วมงานควรมี Social Distancing กับผู้ร่วมงานคนอื่น ๆ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อมากกว่า

ฟังเพิ่มเติม : https://bit.ly/2WzG6Rs

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

น้ำปิงล้นตลิ่ง

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน เตรียมรับมือน้ำ หลังน้ำปิงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

เชียงใหม่ 27 ก.ย. – ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เรียกประชุมทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัย หลังระดับน้ำปิงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คาดสูงถึง 4.15 เมตร ในคืนนี้ ประเมินเบื้องต้นยังสามารถบริหารจัดการได้ และสั่งทุกหน่วยเตรียมพร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ค่ำวันนี้ (27 ก.ย. 68) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ สำนักงานชลประทานที่ 1 (SWOC1) อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ นายทศพล เผื่อนอุดม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายศิวะ ธมิกานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เรียกประชุมด่วนทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมรับมือระดับน้ำในแม่น้ำปิงหลังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของจังหวัด ส่งผลให้ให้มวลน้ำจำนวนมากจะไหลลงมาผ่านตัวเมืองที่เป็นย่านเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเวลา 22.00-24.00 น. คืนนี้ ชลประทานเชียงใหม่คาดการณ์ว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นจากเดิม 3.9 เมตร เป็น 4.0-4.15 เมตร และจะส่งผลให้น้ำปริ่มและเอ่อล้นตลิ่งเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการสถานการณ์ได้ เนื่องจากมีการเสริมคันกันน้ำทั้งสองฝั่งแม่น้ำปิง ซึ่งสามารถรองรับน้ำได้สูงถึง 4.2 เมตร สำหรับสถานการณ์ฝนในพื้นที่อำเภอต่างๆ โดยเฉพาะที่อำเภอแม่แตง ทางอำเภอได้รายงานว่าตลอดทั้งวันยังมีฝนตกในพื้นที่ […]

การรถไฟฯ แจ้งน้ำท่วมทำ “ทางรถไฟขาด” สั่งปรับแผนเดินรถ

27 ก.ย. – การรถไฟแห่งประเทศไทย ประกาศแจ้งเหตุน้ำท่วมหนัก “ทางรถไฟขาด” ที่บ้านเหลื่อม จ.นครราชสีมา สั่งปรับแผนเดินรถ ขณะนี้ได้สั่งการและดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ พร้อมปรับแผนการเดินรถเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร ดังนี้ 1.ขบวนรถด่วนที่ 75/76 กรุงเทพอภิวัฒน์ – หนองคาย – กรุงเทพอภิวัฒน์2.ขบวนรถสินค้าที่ 553 มาบตาพุด – บัวใหญ่3.ขบวนรถสินค้าที่ 532 สำราญ – บางละมุงให้เปลี่ยนการเดินขบวนรถในเส้นทางชุมทางแก่งคอย – นครราชสีมา – ชุมทางบัวใหญ่ – หนองคาย 4.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 439 ชุมทางแก่งคอย – ชุมทางบัวใหญ่ เดินถึงสถานีบ้านเหลื่อม5.ขบวนรถท้องถิ่นที่ 434 ชุมทางบัวใหญ่ – ชุมทางแก่งคอยรอสถานการณ์น้ำที่สถานีชุมทางบัวใหญ่ จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่สามารถประมาณการเวลาในการเปิดทางได้ เนื่องจากระดับน้ำยังคงท่วมสูงและยังไม่มีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ การรถไฟฯ จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมให้ทราบ เมื่อมีความคืบหน้าในการเปิดเส้นทางเดินรถ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้.-513-สำนักข่าวไทย

กองทัพภาคที่ 2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อุบลราชธานี 27 ก.ย.-กองทัพภาคที่2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า ย้ำรู้ทันแผนโฆษณาชวนเชื่อต่อนานาชาติ เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 27 ก.ย. 68 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 27 ก.ย. ณ เวลา 14.00 น. ว่าสถานการณ์โดยรวมเมื่อเวลา 12.02 น. ฝ่ายกัมพูชาได้พยายามสร้างสถานการณ์ความตึงเครียด ขึ้นอีกครั้งบริเวณพื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยใช้อาวุธสงครามยิงเข้ามายังพื้นที่ ของฝ่ายไทยจากบริเวณเนิน 677 มายังเนิน 600 และ เนิน 527 พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนเล็กยิงปะทะเป็นระยะ ก่อนที่สถานการณ์จะยุติลง ทั้งนี้ การปะทะจำกัดวงอยู่เฉพาะบริเวณดังกล่าว แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังควบคุมพื้นที่อย่างใกล้ชิด ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ฝ่ายไทยได้รับแจ้งจากกัมพูชา ว่า คณะสังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) ของกัมพูชา จะเดินทางเข้าพื้นที่ช่องอานม้า กองทัพภาคที่ 2 ประเมินว่าเป็นความพยายามของกัมพูชา ในการสร้างเงื่อนไขและยั่วยุให้เกิดสถานการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่คณะ IOT […]

นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมอยุธยาฯ

พระนครศรีอยุธยา 27 ก.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ตรวจน้ำท่วม เร่งเยียวยาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เดินหน้าบูรณาการหน่วยงานใช้งบแสนล้านบาท พัฒนาระบบชลประทานและการจัดการน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.ของพรรค ให้การต้อนรับ และในโอกาสนี้ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พรรคประชาชน เขต1 ที่มาร่วมงานด้วย ทันทีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงบริเวณวัดโคกหิรัญ มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พร้อมร้องเพลง มาร์ช อสม.ต้อนรับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ อย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะรับฟังการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ไม่ใช่พื้นที่ทุ่งรับน้ำ พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะ หรือแก้มลิง พร้อมขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มาในสถานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าสามารถที่จะมาตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกๆ มิติ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน กับพรรคร่วมรัฐบาล เป้าหมายคือประโยชน์สูงสุดของประชาชน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ มีน้ำท่วมทุกปี น้ำท่วมซ้ำซาก […]