ไทยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 ราย ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 106

สำนักข่าวไทย : 24 มี.ค. 63 – กระทรวงสาธาณสุขแถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 วันนี้ 24 มี.ค. 63 พบผู้ป่วยเพิ่ม 106 ราย ยอดสะสมพุ่ง 827 ราย มีบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ 4 ราย


• พบผู้ป่วยรายใหม่ 106 ราย (ลำดับที่ 722-827) รวมผู้ป่วยสะสม 827 ราย


• ผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่ม 5 ราย รวมกลับบ้านแล้ว 57 ราย

• รักษา รพ. 766 ราย

•  อาการหนัก 4 ราย ทุกรายใส่เครื่องช่วยหายใจ มีการเฝ้าระวังใกล้ชิด


• เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย ชายไทย อายุ 70 ปี ผู้ป่วยวัณโรคร่วม, คนไทย 79 ปี เกี่ยวข้องกับสนามมวย อาการหนักตั้งแต่แรกรับ มีโรคประจำตัวเยอะ อีกรายอายุ 45 ปี มีภาวะโรคเบาหวานและโรคอ้วน รวมเสียชีวิตสะสม 4 ราย

ผู้ป่วยรายใหม่ 106 ราย (ลำดับที่ 722-827) สามารถจำแนกได้เป็น 3 กลุ่ม ดังนี้

กลุ่มที่ 1 สัมผัสกับผู้ป่วยและเกี่ยวข้องกับสถานที่ก่อนหน้า 25 ราย

• สนามมวย 5 ราย เป็นสนามมวยลุมพินี, ราชดำเนิน เป็นผู้ชมและเซียนมวย จากจังหวัด กทม. นครปฐม สมุทรสาคร และอุบลราชธานี

• สถานบันเทิง 6 ราย เป็นย่านทองหล่อ, rca, นานา เป็นนักท่องเที่ยว พนง.เสิร์ฟ จากจังหวัดสระบุรี กทม. บุรีรัมย์ และชลบุรี

• สัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้า 12 ราย เป็นพนง.ขายเสื้อผ้า เซียนมวย พนง.บริการ รับราชการ ที่มีประวัติกินข้าวกับผู้ป่วย กินเลี้ยง ดื่มสุรากับผู้ป่วยที่สถานบันเทิง และใกล้ชิดกับผู้มีประวัติสนามมวย

• ร่วมพิธีทางศาสนา 2 ราย พบที่จังหวัดปัตตานี

กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ 34 ราย

• มาจาก ตปท. 20 ราย คนไทย 8 ราย (พนง.ต้นรับบนเครื่องบิน, นศ. และพนง.ที่ปอยเปต) ต่างชาติ 12 ราย (ฝรั่งเศส, สวีเดน, ปากีสถาน, อังกฤษ และนิวซีแลนด์

• ทำงานหรืออาศัยในพท.แออัด 10 ราย เป็นผู้เกี่ยวข้องกับผู้ป่วย, ชาวต่างชาติ (รปภ., พนง.รับรถ, ขับรถรับส่ง นทท., ขับรถแท็กซี่, พนักงานเสิร์ฟ, มัคคุเทศก์, พนง.ในสถานบันเทิง จากจังวัด กทม., จันทบุรี, ชลบุรี, บุรีรัมย์, อุบลราชธานี, ภูเก็ต และโคราช)

• บุคลากรทางการแพทย์ 4 ราย (แพทย์ พยาบาล จนท.สธ. จากภูเก็ต, ยะลา, บุรีรัมย์ และนครปฐม) เป็นกลุ่มก้อนใหม่ สาเหตุเพราะผู้ป่วยไม่แจ้งประวัติเสี่ยง ทำให้บุคลากรไม่สามารถป้องกันตัวเองได้

กลุ่มที่ 3 อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 47 ราย

กระทรวงสาธารณสุขจัดทำข้อมูลสถานที่ ประกาศให้ผู้เกี่ยวข้องเฝ้าระวังตัวเอง

• วันนี้ (24 มี.ค. 63) อัปเดต อุบลราชธานี ขอนแก่น กทม. สงขลา โคราช นนทบุรี และสุรินทร์ ผู้ที่อยู่ในสถานที่และเวลาตามประกาศ ขอให้รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ได้แก่ นพ.สาธารณสุขจังหวัด, ผู้ว่าราชการจังหวัด, ผอ. โรงพยาบาล, นายอำเภอ, สาธารณสุขอำเภอ, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน, อสม และผู้นำชุมชนทันที 

• ให้กักตัวเอง สังเกตอาการ 14 วัน หากมีไข้ อาการของระบบทางเดินหายใจ ให้รีบพบแพทย์ทันที

• ติดตามประกาศสถานที่ที่พบผู้ป่วยได้ที่เว็บไซต์ ไทยรู้สู้โควิด https://www.facebook.com/thaimoph/  และเว็บไซต์ของกรมควบคุมโรค https://ddc.moph.go.th/index.php

วิเคราะห์สถานการณ์ โดย พญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผอ.กองระบาดวิทยา

ข้อมูล ณ 24 มี.ค. 63 เวลา 0.00 น.

• สถานการณ์ทั่วโลก

– มีผู้ป่วยทั้งหมด 192 ประเทศ เพิ่ม 5 ประเทศ

– ผู้ป่วยยืนยัน 366,866 (เพิ่ม 37,242)

– ผู้ป่วยวิกฤต 11,856 (เพิ่ม 1,558)

– รักษาหาย 101,065 (เพิ่ม 4,107)

– เสียชีวิต 16,098 (เพิ่ม 1,665)

• แนวโน้มประเทศไทย

– มีประเทศเฝ้าระวัง 2 ส่วน ได้แก่ ประเทศเขตโรคติดต่ออันตราย และพื้นที่ที่มีการระบาดต่อเนื่อง (มีผู้ป่วยมากกว่า 500 ราย)

ภาพจาก :  https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/index.php

• ปรับเปลี่ยนมาตรฐานในการตรวจ จาก 2 ห้องปฏิบัติการ เป็น 1 ห้องปฏิบัติการ ถือว่าติดเชื้อ

• ลักษณะผู้ป่วยในภาพรวม ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย มากกว่าผู้หญิง กลุ่มอายุ 30-39 ปี รองลงมาคือ 20-29 ปี

• การกระจายในประเทศ ช่วงแรก 9-15 มี.ค. 63 กระจุกอยู่ กทม. ต่อมาช่วง 16-24 มี.ค. พบการกระจาย ไป 47 จังหวัด ศูนย์กลางอยู่ที่ กทม. ส่วนที่กระจายไป ตจว. เริ่มจากเคสสนามมวย มีคนเดินทางไป ตจว.

• อัตราการแพร่เชื้อ กทม.-ปริมณฑล 1:3.4 คน / สงขลา, ปัตตานี, ยะลา และภูเก็ต 1:2.2 คน / อื่น ๆ 1:1.8 คน

• จากอัตราการแพร่เชื้อ พบว่า 1 คน ใน กทม. สามารถแพร่เชื้อได้ 3-4 คน ซึ่งสูงกว่าอัตราการแพร่เชื้อทั่วไป หากปล่อยทิ้งไว้ จะยิ่งเพิ่มสูง ต้องระมัดระวังมากขึ้น

• ตอนนี้ใช้เรื่องของจังหวัดที่รับการรักษาเป็นหลักเนื่องจากข้อมูลยังไม่ครบถ้วน ในทางระบาดวิทยา อยากจะสืบสวนไปถึงจังหวัดที่เขาป่วย

• Social Distancing เป็นมาตรการที่พยายามจะลดโรค หากเราสามารถลดการกระจายได้ ผู้ป่วยจะลดลง ร้อยละ 50-80

การเตรียมความพร้อมและการรับมือ

– สำรับ Worst Case Scenario (กรณีเลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้) ต้องแยกผู้แ่วยอาการน้อยไปอยู่ รพ. หรือ รร. ส่วนเครื่องช่วยหายใจ ณ ปัจจุบันถ้าอัตราการเกิดโรคใหม่และหนักยังไม่มาก ทรัพยากรที่เป็นเครื่องมือช่วยเรื่องทางเดินหายใจยังเพียงพอ

– หากผู้ป่วยเพิ่มเป็นหลักหลายพันขึ้นไปก็อาจไม่พอ จะมีการจัดครุภัณฑ์ รับบริจาค สถานการณ์นี้ ปชช. เป็นผู้กำหนดว่าจะเพิ่มขึ้นหรือไม่

– ลดระยะเวลาของการคาดการณ์จาก 2 ปี เหลือแค่สิ้นเดือน เพื่อรับมือและหามาตรการใหม่ในการรับมือ

– คนใน กทม. พยายามเดินทางออก ตจว. ทำให้มีผู้ป่วยเพิ่ม หากในวันหยุด คนใน กทม. ไม่ได้เดินทางไปไหน ก็จะมีโอกาสน้อยที่จะนำเชื้อไปแพร่ให้กับผู้สูงอายุที่ ตจว.

– หากไม่มีอาการอย่าเพิ่งไปตรวจ จะทำให้ผู้ที่มีอาการ, มีโอกาสติดเชื้อไม่ได้ตรวจ

– กรณีผู้เสียชีวิต สามารถจัดงาน, ฌาปณกิจได้ และผู้เสียชีวิตบางรายก็ไม่มีเชื้อแล้ว ผู้ร่วมงานควรมี Social Distancing กับผู้ร่วมงานคนอื่น ๆ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อมากกว่า

ฟังเพิ่มเติม : https://bit.ly/2WzG6Rs

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

มือฆ่า 3 ศพ ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป ยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่น

มือฆ่า 3 ศพ เปิดปากครั้งแรก ขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป รู้ว่าไม่สมควร ยืนยันไม่ได้ยิงเด็ก แต่ปืนลั่นเพราะแม่เด็กยื้อแย่งปืน

จับแล้วหนุ่มใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่เสียชีวิต

ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา รวบตัว “นายก๊อง” ได้แล้ว หลังก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวเพื่อนรุ่นพี่จนเสียชีวิต เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา

ตร.ออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ ดับปริศนา

ตำรวจออกหมายจับชายชาวจีน คดีสาวเอ็นฯ เสียชีวิตปริศนาในโรงแรม พบเข้าไทยถูกกฎหมาย ชุดสืบฯ เตรียมรวบตัวเร็วๆ นี้ หลังพบพิกัดยังอยู่ในพื้นที่ กทม. เบื้องต้นทราบว่าเจ้าตัวไม่พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ผู้ช่วย รมต.จีน บินลงพื้นที่แม่สอด เตรียมรับคนจีนกลับประเทศ

นายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน บินลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เตรียมข้ามฝั่งพบ รมต.มหาดไทยของเมียนมา รับคนจีนกลับประเทศจีน