หยุดยิง! ชายแดนไทย-กัมพูชา เงียบสนิทตามเดดไลน์ 24.00 น.

29 ก.ค. – ไทย-กัมพูชา ตกลงหยุดยิงพร้อมกัน 24.00 น.ที่ผ่านมา โดยไม่มีเงื่อนไข ถือเป็นก้าวแรกสำคัญในการคลี่คลายสถานการณ์ รวมถึงฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคง ส่วนเช้าวันนี้ (29 ก.ค.) มีการประชุมระหว่างแม่ทัพของทั้งสองประเทศ และการประชุมระดับรัฐมนตรีกลาโหม 4 ส.ค.


วานนี้ (28 ก.ค.) ที่ประชุมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่มีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เป็นคนกลางในการเจรจา สมเด็จฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี

ที่ประชุมบรรลุข้อตกลง 3 ข้อโดยเฉพาะ “ข้อตกลงหยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข” มีผลตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการคลี่คลายสถานการณ์ และฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคง เช้าวันนี้ (29 ก.ค.) มีการจัดประชุมอย่างไม่เป็นทางการ ระหว่างผู้บัญชาการกองกำลังของ 2 ประเทศ ได้แก่ กองทัพภาคที่ 1 และ 2 ของฝ่ายไทย และกองทัพภาคที่ 4 และ 5 ของฝ่ายกัมพูชา เวลา 07.00 น. จากนั้นจะมีการประชุมกับผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร โดยมีประธานอาเซียนเป็นผู้จัด หากทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน


ส่วนวันที่ 4 ส.ค. 68 จะมีการจัดการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป โดยกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังตกลงฟื้นฟูช่องทางการสื่อสารโดยตรงระหว่างนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของแต่ละประเทศ

นอกจากนี้ นายอันวาร์ ประธานอาเซียน ยังได้จัดตั้งทีมผู้สังเกตการณ์เพื่อตรวจสอบและรับรองการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงนี้ด้วย ทั้งนี้ นายอันวาร์ กล่าวขอบคุณและพอใจในบรรยากาศของการหารือที่เต็มไปด้วยความจริงใจของทั้งสองฝ่าย ที่ได้แสดงความต้องการหยุดยิงทันที เป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการสร้างสันติภาพ การเจรจา และเสถียรภาพในภูมิภาค

ฮุน มาเนต แถลงหยุดยิงทันที
ขณะที่ นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แถลงว่า ทั้งสองฝ่ายหวังที่จะหยุดยิงกันโดยทันที เพื่อหลีกเลี่ยงความสูญเสียที่เกิดจากการสู้รบ รวมทั้งส่งผลให้คนของทั้ง 2 ประเทศ ราว 300,000 คน ต้องอพยพจากที่อยู่อาศัย ขอบคุณนายกฯ อันวาร์ อิบราฮิม ที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม และยังขอบคุณประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รัฐบาลจีน ที่ร่วมดำเนินความพยายามในการช่วยหาทางออก และขอบคุณนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ร่วมหารือกันอย่างสร้างสรรค์


“ภูมิธรรม” ยันเจรจาหยุดยิง มอบผู้นำทหาร 2 ฝ่ายหาข้อยุติร่วมกัน
ขณะที่ฝ่ายไทย นายภูมิธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเจรจาหยุดยิงกับทางกัมพูชา ว่าการคุยกันวันนี้ไม่ได้คุยถึงเรื่องการเปิดด่าน แต่คุยเรื่องการหยุดยิงเพื่อลดความเสียหายของพลเมือง และจากนี้จะเข้าสู่กลไกของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC)

ส่วนผลสรุปการหารือโดยรวม ฝ่ายคนกลาง คือ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ได้แจ้งให้ทางอาเซียนทราบและทุกฝ่ายดีใจกับข้อสรุป ขณะที่จีนและสหรัฐอเมริกา รู้สึกพึงพอใจ ส่วนไทยก็รู้สึกว่าได้ยุติปัญหาเรื่องการสูญเสียชีวิตของพลเมือง

นายภูมิธรรม ยังเล่าว่า ในที่ประชุมเจรจา ไทยได้พูดถึงอะไรบ้าง นายภูมิธรรมได้เล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่าไทยอยู่มาอย่างสงบ แต่เมื่อเกิดความขัดแย้งทำให้ลุกลามบานปลาย และพยายามหาข้อยุติ ซึ่งพูดคุยได้ข้อยุติร่วมกันว่าจะไม่พูดเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้า แต่ตอนนี้จะพูดถึงเรื่องความเร่งด่วนคือการหยุดยิง เพื่อไม่ให้พลเรือนไทยเกิดความสูญเสีย เชื่อว่าประชาคมโลกเข้าใจเรา และรู้ว่าไทยเป็นฝ่ายถูกกระทำ ผลการพูดคุยวันนี้ถือว่าบรรลุข้อตกลง ไม่สูญเสียเอกราชของประเทศ และไม่มีอะไรกระทบกระเทือนเรื่องเขตแดนหรืออธิปไตย

ด้าน พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า ในส่วนของกองทัพพร้อมดำเนินการตามผลการเจรจา และพร้อมปกป้องประชาชนและอธิปไตยของชาติอย่างเต็มความสามารถ และขณะนี้ไม่พบการรุกล้ำอธิปไตย

“มาริษ” ชี้นิมิตหมายดี “กัมพูชา” ยอมกลับมาพูดคุยทวิภาคี
ขณะที่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาชาวโลกมีภาพลักษณ์ที่ดีมาโดยตลอดว่าเราเป็นประเทศที่สนับสนุนความสันติ และเราสามารถทำให้กัมพูชากลับมาพูดคุยผ่านกลไกแบบทวิภาคี

“ทรัมป์” ต่อสาย “ภูมิธรรม” ชื่นชมไทยเป็ยตัวอย่าง ส่งผลดีเจรจาภาษี
เวลา 21.03 น. ที่ บน.6 กระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งว่านายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะโทรหานายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ทำให้นายภูมิธรรมที่เพิ่งกลับจากการเจรจาชายแดนไทย-กัมพูชา ใช้เวลาที่ห้องรับรองพูดคุยนานประมาณครึ่งชั่วโมง

จากนั้นนายภูมิธรรม เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้โทรมาแสดงความชื่นชมยินดีว่าประเทศไทยเราได้เต็มใจที่จะรักษาสันติภาพให้เกิดขึ้นใน 2 ประเทศ และชื่นชมในสิ่งที่เราทำว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งตนเองได้ตอบไปว่ายืนยันถึงความร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาที่เป็นหุ้นส่วนด้วยกัน และชื่นชมประธานาธิบดีทรัมป์ ที่มีบทบาทในการเจรจาบทบาทระหว่างประเทศทำให้เกิดความร่วมมือนำไปสู่สันติสุข และเป็นการแก้ไขปัญหาที่มุ่งเน้นสันติสุข นายโดนัลด์ ทรัมป์ ถือเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเรื่องนี้ ขณะเดียวกันประชาคมโลกทั้งหมดชื่นชมประเทศไทย ที่ก้าวไปสู่การไม่ทำความรุนแรง และทำให้ประชาชนประเทศไทยไม่สูญเสียไปมากกว่านี้ ทำให้การดำเนินการต่างๆ ไปได้

“หลังจากนี้จะเริ่มเจรจาภาษี ซึ่งจะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ และเป็นสิ่งที่เราจะได้รับอย่างดียิ่ง โดยเขาจะทำให้ดีที่สุดและเท่าที่มากและมากได้ เขาก็อยากมาเห็นเมืองไทย ในฐานะที่เราเองเป็นประเทศที่น่าชื่นชม และมีสิ่งดีๆ หลายอย่าง ทางวัฒนธรรมความรู้สึกนึกคิดต่างๆ ซึ่งเขาชื่นชมเรื่องนี้และผมก็ชื่นชมเขาด้วยใจ และสิ่งที่ผมได้รับจากเขาครั้งนี้ที่มีส่วนช่วยให้ประเทศไทยพ้นจากวิกฤต เป็นความรู้สึกในใจที่มีต่อกัน”

ส่วนการเจรจาภาษีจะเป็นบวกกับประเทศไทยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เท่าที่ฟังคิดว่าน่าจะเป็นบวกเยอะ เพราะเขาปรารถนาอยากให้เราสร้างสันติภาพในอาเซียนไปด้วยกัน และการพูดคุยกับอาเซียนทั้งหมดก็มีความรู้สึกดีต่อกัน ดังนั้น นายทรัมป์ เห็นว่าเป็นประโยชน์ เขาชื่นชมสิ่งที่เรากล้าตัดสิน ใจหาทางออก และเป็น สิ่งที่ดีกับประชาชน ทั้งนี้ เชื่อว่าเขาน่าจะเริ่มต้นจากความรู้สึกที่ดีที่จะสร้างสันติภาด้วยกัน และประชาชนคนไทย ก็จะได้ผลประโยชน์สูงสุด อีกอย่างประธานาธิบดีมาคง ก็ชื่นชมยินดีด้วยเช่นกัน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์ข้อความระบุว่า ได้พูดคุยกับรักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย และนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา

“ผมรู้สึกยินดีที่จะประกาศว่า หลังจากที่ผมได้เข้ามามีบทบาท ทั้งสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงและสันติภาพ ขอแสดงความยินดีกับทุกฝ่าย การยุติสงครามครั้งนี้ช่วยชีวิตผู้คนไปนับพันราย ผมได้สั่งการให้ทีมการค้าของผมเริ่มต้นการเจรจาการค้าอีกครั้ง และในช่วงเวลาเพียง 6 เดือน ผมสามารถยุติสงครามได้หลายแห่ง ผมภูมิใจที่ได้เป็นประธานาธิบดีแห่งสันติภาพ”.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กระเช้าหลุด ช่างทาสีร่วงตึก 5 ชั้น ตาย 1 สาหัส 1

พัทลุง 2 ส.ค. – เกิดเหตุสลด กระเช้าปลายบูมหลุดจากเครน ช่างทาสีร่วงจากตึก 5 ชั้น เสียชีวิต 1 เจ็บสาหัส 1 ที่ไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียน จ.พัทลุง เกิดเหตุสลดกลางไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลควนมะพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เมื่อกระเช้าที่ผูกติดกับหัวเครนเกิดหัก หลุดจากตึกสูง 5 ชั้น ส่งผลให้ช่างทาสี 2 คน ที่อยู่บนกระเช้าร่วงตกลงกระแทกพื้น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 คน คือ นายธวัชชัย อายุ 36 ปี และนายชุติเดช อายุ 43 ปี บาดเจ็บสาหัส ขาทั้งสองข้างหักละเอียด แขนซ้ายหักผิดรูป เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลพัทลุงอย่างเร่งด่วน ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า คนงานทั้ง 2 เป็นช่างทาสี ได้ขึ้นกระเช้าเหล็กเพื่อขึ้นไปทาสีบริเวณชั้น 5 ของอาคาร ซึ่งมีความสูงประมาณ 26 เมตร แต่ด้วยน้ำหนักของคนงานทั้งสองคน […]

รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง

ทำเนียบ 2 ส.ค.-รัฐบาลรุกหนักในทุกเวทีระดับโลก..เดินหน้าสื่อสารข้อเท็จจริง ด้วยพยานหลักฐานทุกมิติ ต่อประชาคมโลกผ่าน OSCE-เวทีระดับสูงด้านความมั่นคงของยุโรป ยืนยันหลักสันติวิธี ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ และตอกย้ำว่าการปกป้องประชาชนจากการโจมตีของฝ่ายกัมพูชาเป็นสิทธิโดยชอบตามกฎหมายสากล พร้อมใช้โอกาสนี้ขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงในระดับภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าบทบาทของประเทศไทย ในเวทีระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสื่อสารข้อเท็จจริงและแสดงท่าทีอย่างตรงไปตรงมาต่อสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ถึงวานนี้ (1 สิงหาคม 2568) ที่ผ่านมา ไทยได้เข้าร่วมการประชุม Helsinki+50 ในกรอบองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (Organization for Security and Co-operation in Europe: OSCE) ณ กรุงเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ โดยมี นางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ อธิบดีกรมยุโรป เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม โดยในช่วงของการกล่าวถ้อยแถลง หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ได้ย้ำท่าทีของไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า “ไทยยึดมั่นในกฎบัตรสหประชาชาติ หลักมนุษยธรรมสากล และหลักการของ Helsinki Final […]

EOD เก็บกู้ระเบิดฝังอยู่ใกล้ปั๊มที่ถูกกัมพูชายิงใส่

ศรีสะเกษ 2 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ EOD ทำลายหัวระเบิด HE ของจรวด BM 21 ที่ฝังอยู่บนถนนกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ใกล้กับปั๊มน้ำมันที่ถูกกัมพูชายิงใส่ร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD เริ่มเตรียมความพร้อมเพื่อทำลายระเบิดที่ฝังอยู่ในถนน บ้านน้ำเย็น-บ้านผือ ฝั่งมุ่งหน้าเขาพระวิหาร ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นระเบิดที่ฝั่งกัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือน โดยจุดที่ระเบิดถูกฝังบนถนนอยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. บ้านผือ ไม่ถึง 1 กิโลเมตร เป็นระเบิดที่ถูกยิงมาในวันที่ 24 กรกฎาคม พร้อมกับเหตุการณ์ยิงกัมพูชายิงจรวดใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม จนมีผู้เสียชีวิต 8 ราย เจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายมาทำเป็นบังเกอร์ล้อมรอบจุดที่ระเบิดฝังอยู่ในถนน เจ้าหน้าที่ชุดจากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด.ที่ 22 อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC โดยมีการปิดถนนรัศมี 1 กิโลเมตร […]

กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธไฮเทคสำหรับยิงโดรน

นครราชสีมา 2 ส.ค.-กองทัพภาคที่ 2 แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้ทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เรียบร้อยแล้ว ด้านชาวอุดรธานี แห่บริจาคหนังสติ๊กพร้อมลูกแก้ว ตามที่ทหารขอมาจำนวนมาก หลังทหารกัมพูชายังก่อกวน ยั่วยุ ทั้งขว้างก้อนหินใส่ และมีโดรนปริศนามาบินอีก จากกรณีที่ช่วงนี้ มีการตรวจพบโดรนไม่ทราบฝ่าย เข้ามาบินตรวจการณ์ในพื้นที่ที่ตั้งทางทหาร ทำให้หลายฝ่ายมีความกังวล และสงสัยว่าอาจเป็นภัยคุกคามร้ายแรงจากประเทศเพื่อบ้าน ที่กำลังมีปัญหาระหว่างประเทศกับประเทศไทย ทำให้เมื่อวานเพจกองทัพภาคที่ 2 ได้แชร์ข้อมูลอาวุธสำหรับกำจัดโดรนโดยเฉพาะ ซึ่งล่าสุดได้มีการทดสอบระบบ ณ กองบิน 1 ศูนย์ทดสอบอาวุธทางอากาศ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวานนี้ (1 ส.ค.68) เฟซบุ๊กเพจ กองทัพภาคที่2 ได้แชร์ข้อมูลเพจ SMART Soldiers Strong ARMY พร้อมระบุข้อความว่า “หากศัตรูซ่อนตัวในเงามืด เราจะเป็นแสงที่มองเห็นมันก่อนใคร”เลเซอร์พร้อมยิง — ทหารไทยพร้อมรบโดยอาวุธชนิดนี้ คือ Directed Energy Weapon หรือ (DEW) เป็นอาวุธยุคใหม่ที่กองทัพอากาศไทยพัฒนาขีดความสามารถอย่างต่อเนื่อง […]