DSI รับเรื่อง “ฮั้วเลือก สว.” เป็นคดีพิเศษ

ฮั้วเลือก สว.

6 มี.ค. – คณะกรรมการคดีพิเศษมีมติรับการฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 (1) คือเข้าข่ายการฟอกเงิน ด้วยมติเห็นชอบ 11 เสียง


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ร่วมประชุมพิจารณาคดีเรื่องสืบสวนที่ 151/2567 กรณีการคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่มีกระบวนการหรือพฤติการณ์ที่ไม่ได้เป็นไปด้วยสุจริตหรือเที่ยงธรรม เป็นคดีพิเศษหรือไม่ ซึ่งเป็นการนัดประชุมครั้งที่ 2 ภายหลังส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองด้านอาชญากรรมระหว่างประเทศและอาชญากรรมพิเศษ เป็นพิจารณาให้ได้ข้อยุติก่อนเสนอคณะกรรมการคดีพิเศษในวันนี้

โดยในช่วงการเปิดประชุม พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการ ได้รายงานว่า วันนี้มีผู้เข้าร่วมประชุม 19 คน ลาประชุม 3 คน ประกอบด้วย คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 2 คน คือ พล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสอบสวนคดีอาญา และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน


ขณะที่คณะกรรมการโดยตำแหน่ง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ผู้แทนโดยตำแหน่ง ได้ส่งผู้แทน คือ พล.ต.ท.อภิชาติ สุริบุญญา ผู้บัญชาการกฎหมายและคดี ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้เข้าร่วมการประชุม แต่ถือว่าครบองค์ประชุมแล้ว จึงสามารถดำเนินการประชุมต่อไปได้ตามระเบียบวาระ

ทั้งนี้ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ในฐานะคณะกรรมการโดยตำแหน่ง ได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมการประชุม ซึ่งต่างจากครั้งก่อนที่เดินทางมาร่วมประชุมด้วยตัวเอง ซึ่งผู้สื่อรายงานว่า จากการประชุมครั้งก่อน (25 ก.พ.68) ก็มีองค์ประชุมเท่ากับวันนี้ โดยคนที่ลาประชุมครั้งก่อน คือนายตำรวจทั้ง 3 คน ที่ลาประชุมในวันนี้เช่นกัน

นอกจากนี้นอกจากนี้ ยังมีกลุ่ม คณะ สว. สำรอง นำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. เดินทางมาที่กระทรวงยุติธรรมพร้อมป้ายไวนิล เพื่อส่งกำลังใจให้การประชุมโหวตรับคดีฮั้ว สว.67 เป็นคดีพิเศษของคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ทั้งยังรอลุ้นฟังผลการรับเป็นคดีพิเศษอีกด้วย


ภายหลังการประชุม นายภูมิธรรม เวชยชัย แถลงข่าวร่วมกับ นายทวี สอดส่อง ระบุว่า คณะกรรมการคดีพิเศษมีมติรับการเลือก สว. เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 (1) คือเข้าข่ายการฟอกเงินด้วยมติเห็นชอบ 11 เสียง งดออกเสียง 3 ไม่เห็นชอบ 4 โดยยืนยันว่าไม่ใช่การแย่งงาน กกต. ทำเพราะต้องยอมรับความจริงว่ามีประชาชนมาร้องเรียนเรื่องดังกล่าวกับกรมสอบสวนคดีพิเศษดีเอสไอและหากไม่ดำเนินการก็อาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่ทั้งนี้ยอมรับหนักใจกับการดำเนินการเรื่องดังกล่าวจึงย้ำในคณะกรรมการว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ กล่าวภายหลังประชุมพิจารณาคดีฮั้วเลือก สว.เป็นคดีพิเศษ หรือไม่ ว่า วันนี้พิจารณาคดีคณะกรรมการคดีพิเศษ ได้พิจารณาคดีตกค้าง เป็นคดีพิเศษหรือไม่ โดยในที่ประชุมมีการถกเถียงกันในหลายความเห็นโดยพิจารณาตามหลักการของกฎหมายอย่างครบถ้วน ซึ่งคดีนี้ เป็นคดีที่เกี่ยวพันกับสถาบันนิติบัญญัติ ที่สำคัญของประเทศ และเป็นคดีที่พี่น้องประชาชนให้ความสำคัญสนใจติดตาม

โดยเราได้พูดคุยกันและได้ข้อสรุปดังนี้ คือ การประชุมวันนี้บอร์ด กคพ.ได้พิจารณาข้อเท็จจริงกรณีที่มีผู้เสียหายมาร้องทุกข์กล่าวหาทางดีเอสไอ มีการกระทำความผิด การกระทำเข้าข่ายผิดกฎหมายตามคดีพิเศษหรือไม่ ดังนั้น วันนี้ที่ประชุม กคพ.ไม่ได้มีการประชุมในวาระ ได้มาซึ่งสว.แต่อย่างใด ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าการกระทำความผิดที่มีผู้มาร้องทุกข์มีลักษณะการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ที่มีลักษณะเป็นคดีพิเศษตามกฏหมายซึ่งสอดคล้องกับการได้มาซึ่ง สว. ในการใช้ทรัพย์สินเพื่อจูงใจว่าให้เลือกหรือไม่เลือกเป็นความผิดฐานฟอกเงินด้วย

นายภูมิธรรม ระบุว่า บอร์ด กคพ. ขอย้ำว่าการพิจารณาเป็นคดีพิเศษในครั้งนี้ ผ่านความเห็นชอบของผู้ทรงคุณวุฒิที่มาจากหลากหลายที่ไม่ใช่เป็นการตัดสินใจ แทนคนใดคนหนึ่ง สะท้อนให้เห็นถึงความโปร่งใส ตรวจสอบได้ตามกฎหมายทั้งหมด และบอร์ด กคพ.ขอย้ำว่าการพิจารณาในวันนี้ไม่ใช่การเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของ กกต. กกต. ก็ทำงานของตนเองในการดูแลการจัดการการเลือกตั้ง เราก็มีหน้าที่ดูแลการดำเนินคดีอาญากับกลุ่มบุคคลที่กระทำความผิดตามกฏหมาย ในคดีพิเศษเท่านั้น ดังนั้นเป็นการประสานงานการทำงานความร่วมมือกัน แลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายของตนเองที่แตกต่างกันมีเป้าหมายเดียวกัน คือ ประชาชน เราจะละเลยไม่ได้ เพราะจะเข้าข่ายความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และส่งผลเสียต่อประชาชน

รวมถึง ดีเอสไอ รับเรื่องนี้ ไม่ได้หมายความว่าถูกกล่าวหาเป็นผู้กระทำความผิดทางกฎหมายแล้วแต่ต้องมีกระบวนการทางกฎหมายอีกมากมายในการที่จะบอกว่าเป็นจริง ดังนั้น ก็เปลี่ยนไปตามกระบวนการทางกฎหมายทั้งหมดเพื่อประโยชน์ของผู้ถูกกล่าวหาด้วย

นายภูมิธรรม ระบุว่า โดยสรุปแล้วในที่ประชุมองค์ประชุมทั้งหมด 18 คน มีมติชี้ขาดกรณีการสมคบกันในความผิดฐานฟอกเงินของบุคคล หรือคณะบุคคลที่กระทำผิดเป็นอั้งยี่ ที่เกี่ยวกับการได้มาซึ่งวุฒิสมาชิก พ.ศ.2567 ตามที่ฝ่ายเลขานุการเสนอมา ตามมาตรา 21 วรรค 1 แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ส่วนคดีคดีอาญาใดที่เกี่ยวข้องกับคดีพิเศษดังกล่าว ตามมาตรา 21 วรรค 2 เพื่อทำการสอบสวนต่อไป

ทั้งนี้ หากพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ พบการกระทำความผิดตาม พ.ร.ป.การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 มาตรา 47 วรรค 1 ให้แจ้งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทราบตามอำนาจหน้าที่ โดยไม่ต้องมีมติดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมี 18 เสียง มีมติรับเป็นคดีพิเศษ 11 เสียง และไม่รับ 4 งดออกเสียง 3 เสียง เพราะบางท่านมรบทเกี่ยวข้องด้วยการชี้ขาดหลายเรื่องในคดีถัดไป

ส่วนมีความหนักใจหรือไม่ เมื่อถูกนำไปโยงกับประเด็นทางการเมือง นายภูมิธรรม ระบุว่าตนเองคิดว่าคณะกรรมการทุกท่านมีความหนักใจ เพราะเป็นประด็นเกี่ยวกับสถาบันนิติบัญญัติ และสาธารณะชนกำลังจับตามอง จึงได้กำชับว่าการพิจารณาให้ใช้ดุลยพินิจอย่างละเอียดรอบคอบ โดยอิงข้อมูลจากกฎหมายและข้อมูลต่าง ๆ และตัดสินให้ดีที่สุด การพิจารณาในครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของบุคคลหรือเรื่องการเมืองเราพิจารณาตามข้อกฎหมาย เพราะหลายคนกังวลใจว่าหากพิจารณาแล้วจะมีผลกับตัวเอง เชื่อว่าเราทำสิ่งที่รอบคอบแล้ว คุยกันทุกฝ่ายแล้ว ซึ่งเราตัดสินใจแล้วก็ต้องรับผิดชอบ และเป็นกระบวนการที่รับมา เพื่อตรวจสอบและท้ายที่สุดก็จะไปจบที่ศาล ซึ่งเป็นผู้ชี้ขาด

ขณะที่กังวลหรือไม่ที่มีรายชื่อพยานในคดีนี้ กว่า 1,200 คนหลุดออกไป นายภูมิธรรม ระบุว่า หลุดไปก็เป็นเรื่องหลุด ไม่ใช่เรื่องข้อเท็จจริง เมื่อไม่ใช่เรื่องข้อเท็จจริง เมื่อหลุดแล้วก็ให้หลุดไป และไม่กังวลกับผลโหวตในครั้งนี้ เพราะเมื่อโหวตไปแล้วก็ให้ที่ประชุมรับรอง

ทั้งนี้ หลังจากนี้จะตัองร่วมมือกับ กกต.ในการพิจารณาเรื่องนี้หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า อย่าไปคิดว่าเราแตกแยก เรายังทำงานร่วมกันได้ คดีนี้ต่างฝ่ายต่างดำเนินการ อะไรที่เกี่ยวพันกันก็ประสานงานกัน

ด้านพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวถึงขั้นตอน หลังจากนี้ว่า การประชุมในวันนี้ได้รับเป็นคดีพิเศษ ตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ มาตรา 21 วรรค 1 ซึ่งตามปกติแล้ว อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) สามารถชี้ขาดได้เลย แต่เนื่องจากมีข้อมูลบางประการที่มีข้อสงสัย ที่ต้องให้คณะกรรมการคดีพิเศษ ใช้เสียงกึ่งหนึ่งของผู้เข้าประชุม ซึ่งเสียงของคณะกรรมการส่วนใหญ่ได้ชี้ขาดแล้วว่าเป็นคดีพิเศษ ซึ่งไม่ต้องใช้ตามมาตรา 21 วรรค 2 โดยขั้นตอนต่อจากนี้ไป จะเป็นเหมือนหลักค้ำประกันให้กับอธิบดี ดีเอสไอ คือการรับเรื่องเป็นคดีพิเศษ และขอให้พนักงานอัยการมาร่วมสอบสวนด้วย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความยุติธรรม รวมถึงให้การปฏิบัติงานมีความโปร่งใส ส่วนขั้นตอนต่อไป เป็นเรื่องที่ดีเอสไอ จะจัดตั้งพนักงานสอบสวน เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวน

เมื่อถามว่าคดีดังกล่าวเกี่ยวข้องกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ในชั้นสอบสวน หากมีการเรียกกกตมา จำเป็นจะต้องเข้ามาให้ข้อมูลหรือไม่ พันตำรวจเอกทวีกล่าวว่า ในส่วนที่เป็นของ กกต. ที่ผ่านมากกต.ก็ได้มีการประสานงาน กับ ดีเอสไอ ได้มีการทำหนังสือมา ซึ่งหนังสือฉบับนั้นยังไม่ได้มีการยกเลิก และในการทำงาน เนื่องจากกฎหมายมีการทับซ้อนกัน ก็อาจประสานงานกัน

เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าต่อจากนี้กกต.จะต้องมาให้ข้อมูลเองโดยไม่สามารถส่งหนังสือมาชี้แจงได้แล้วใช่หรือไม่ พันตำรวจเอกทวีกล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะข้อหาที่เป็นฐานฟอกเงิน เกิดมาจากฐานอั้งยี่ และมีการอภิปรายในฐานความผิดอาญาอื่น ก็ต้องนำมาประกอบการพิจารณา ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของคณะ กรรมการสอบสวน ซึ่งที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้คณะกรรมการได้มีความเห็น และเมื่อเห็นว่าความจริงเป็นคดีพิเศษโดยอัตโนมัติแล้ว ในความผิดฐานฟอกเงิน แต่ยังมีความสงสัยในเรื่องรายละเอียด ว่ามูลค่าของทรัพย์สิน เกินกว่า 300 ล้านบาทหรือไม่ ซึ่งดีเอสไอ จะต้องไปดูเส้นทางการเงินและเส้นทางบุคคล ว่ามีตัวเลขเกิน 300 ล้านบาทหรือไม่ จึงต้องให้คณะกรรมการพิเศษเป็นผู้ชี้ขาด ซึ่งคำชี้ขาดนี้ถือเป็นที่ยุติ และการเป็นคดีพิเศษไม่ใช่หมายความว่า จะทำคดีต่างจากที่อื่นแต่จะมีผู้เชี่ยวชาญในการสอบสวน และที่สำคัญคือการทำตามพยานหลักฐาน ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ส่วนที่ บางฝ่ายมีความเห็นว่าคดีนี้เป็นหน้าที่ของกกต. แต่การที่กรมสอบสวนคดีพิเศษรับคดีมา ต้องการดึงเป็นเรื่องทางการเมือง พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า ตอนนี้กกต.ก็ทำอยู่ในบทบาทของเขา เพราะหนังสือตอบรับของกกต ก็ได้ตอบอย่างชัดเจนแล้ว ว่าความผิดในคดีอาญาอื่นๆกกต.ไม่มีอำนาจ

เมื่อถามถึงกรณีที่ สว. ออกมาแสดงความเห็นว่า การเลือกตั้ง สว.มาโดยวิธีสุจริตชอบธรรม ไม่มีความผิดตามที่กล่าวหาดีเอสไอต้องทำเรื่องนี้โดยละเอียดหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดการตั้งข้อสงสัยในสภา พันตำรวจเอกทวีกล่าวว่า สว.มีกระบวนการตรวจสอบได้อยู่แล้วเราก็เคารพท่าน แต่วันนี้คณะกรรมการ ไม่ได้มีฐานทางการเมืองเลย ซึ่งประธานในที่ประชุมก็ได้พูดว่าเรื่องนี้ เป็นเรื่องสำคัญ กระทบกับความมั่นคง ถ้ามีการครอบงำอำนาจนิติบัญญัติ ก็จะส่งผลกระทบต่อหลายๆเรื่อง ซึ่งเราก็ทำในความผิดฐานฟอกเงิน ส่วนจะขยายไปเป็นคดีอั้งยี่หรือคดีอื่นๆก็คงจะต้องมีการพิจารณากันอีกครั้ง เรายินดีหากสวจะมาให้การหรือแสดงความบริสุทธิ์ เราก็พร้อมที่จะรับ

เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ที่มองว่าเป็นตำบลกระสุนตก พันตำรวจเอกทวีกาวาเรื่องนี้ต้องให้นายภูมิธรรมเป็นผู้ตอบ

โดยภายหลังที่นายภูมิธรรม และ พ.ต.อ.ทวี ได้แถลงข่าวเสร็จ ได้เดินไปพบกับกลุ่ม สว.สำรองที่นำโดย พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่มาปักหลักริฟังผลการพิจารณาที่ชั้นล่างของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งได้มอบดอกไม้ให้กำลังใจให้กับนายภูมิธรรม และ พ.ต.อ.ทวี

นายภูมิธรรม จึงกล่าวขอบคุณที่มาให้กำลังใจ พร้อมย้ำว่า การทำงานครั้งนี้ด้วยความยากลำบาก และมีผลกระทบต่อหลายส่วน ซึ่งต้องคำนึงถึงหลักข้อเท็จจริง ขณะเดียวกันเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ และกฎหมายได้ถูกพิจารณาอย่างถี่ถ้วน และยืนยันว่า การพิจารณาในครั้งนี้ไม่ได้อิงอะไร นอกจากความเป็นจริง และกฎหมาย หลังจากนี้เราต้องทำหน้าที่ไต่สวนทำความจริงให้ปรากฏ ส่วนคนที่จะชี้ขาดคือศาล ตนในฐานะที่เป็นประธาน กคพ. รับฟังทุกอย่างเต็มที่ และให้ทุกคนพิจารณาด้วยดุลยพินิจอย่างรอบคอบ ก่อนลงมติ และรับรองโดยที่ประชุม.-313.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่น้ำท่วมหลายชุมชน ปิดน้ำตก 3 แห่ง

เชียงใหม่ 26 พ.ค.-เชียงใหม่ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง เกรงจะเกิดอันตราย ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ น้ำท่วมหลายชุมชน ระบายน้ำไม่ทัน บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ฝนตกหนัก ทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วย ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ เชียงใหม่ สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง ทั้งน้ำตกแม่สา น้ำตกตาดหมอก อำเภอแม่ริม และน้ำตกหมอกฟ้า อำเภอแม่แตง เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นและมีสีแดงขุ่น กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้น้ำป่าบนดอยสุเทพ ไหลหลากลงลำห้วยมาตามทางระบายน้ำและไหลลงลำคลองคูไหว ทำให้เอ่อล้น จนระบายน้ำไม่ทัน เข้าท่วมขังในชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนฟ้าใหม่ ชุมชนกาดก้อม ระดับน้ำท่วมขังสูง 30-50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทำให้ประชาชนและร้านค้าได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับนักเรียนกำลังเดินทางไปเรียน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเทสบาลนครเชียงใหม่ กำลังเร่งสูบระบายน้ำอย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 25 พ.ค.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

กว่า 130 ชม. ภารกิจสำเร็จ! กู้ร่างคนงานตกหลุมเสาเข็ม

กทม. 25 พ.ค.- ภารกิจสำเร็จ! ทีมกู้ภัยนำร่าง “นายดาว” คนงานพลัดตกหลุมเสาเข็ม ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขึ้นมาด้านบนสำเร็จ หลังใช้เวลาปฏิบัติการกว่า 130 ชั่วโมง ความคืบหน้ากรณีนายศราวุฒิ หรือ นายดาว อายุ 33 ปี ชาวศรีสะเกษ คนงานที่พลัดตกลงไปในหลุมเสาเข็มความลึก 19 เมตร บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และ 8 แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้คาดพิกัดที่อาจพบร่างผู้เสียชีวิตที่ระดับความลึก 11.5 เมตร ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 24 พ.ค. บริเวณซอยหลานหลวง 8 เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย USAR และมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงพยายามเร่งค้นหาเพื่อกู้ร่างนายศราวุฒิ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี […]

“บังยา บองหลาคิงส์” รุดจับแม่งูจงอาง ไล่ฉกชาวบ้านวิ่งป่าราบ

สงขลา 25 พ.ค.- ชาวสวนยางสงขลา ผวา! แม่งูจงอางหวงไข่ดุมาก ไล่ฉกเจ้าของสวนวิ่งป่าราบ ต้องหยุดกรีดยาง ร้อนถึง “บังยาบองหลาคิงส์” ราชางูจงอางภาคใต้ ต้องมาช่วยจับ บังยา บองหลาคิงส์ ราชางูจงอางของภาคใต้ ตีรถด่วนจาก จ.กระบี่ มาช่วยจับงูจงอางนอนฟักไข่เฝ้ารังอยู่ในป่าสวนยาง พื้นที่บ้านควนยาง หมู่ 9 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นสวนยางของนายปรีชา อายุ 46 ปี ซึ่งตอนนี้เดือดร้อนมาก ไม่กล้าไปกรีดยางเพราะมีแม่งูจงอางมานอนฟักไข่เฝ้ารังติดกับต้นยาง ครั้งแรกที่ไปเจอตอนไปกรีดยางเมื่อ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา เกือบโดนฉกมาแล้วเพราะเข้าไปใกล้รัง จนต้องวิ่งหนีสุดชีวิต หลังจากนั้นก็ไม่กล้าขึ้นไปกรีดยางอีกเลย จนต้องแจ้งขอความช่วยเหลือไปยัง บังยา บองหลาคิงส์ ให้มาช่วยจับ เมื่อทีมงานบังยา บองหลาคิงส์ มาถึงก็ต้องเดินเท้าขึ้นไปที่ป่าสวนยาง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร เมื่อไปถึงก็พบแม่งูจงอางตัวนี้นอนอยู่บนรังไม่ไปไหน และดุมากชูคอฉกตลอดเวลาหากเข้าใกล้ บังยาต้องหลอกล่ออยู่สักพักก็อาศัยจังหวะความนิ่งใช้มือเปล่าล็อกคอเอาไว้ได้ เป็นแม่งูสาวน่าจะท้องแรกหรือท้องสอง ยาวเกือบ 3 เมตร และเมื่อรื้อรังดูก็มีไข่อยู่ในรัง 28 ฟองและอีกไม่เกิน 10 […]

ข่าวแนะนำ

รวบเจ้าของหอพักโหดย่านรังสิต ข้อหากรรโชกทรัพย์

ปทุมธานี 28 พ.ค. – ตำรวจปทุมธานี บุกรวบเจ้าของหอพักย่านรังสิต พร้อมครอบครัว ข้อหากรรโชกทรัพย์ หลังมีนักศึกษาแจ้งความร้องทุกข์ว่า เจ้าของหอพักแห่งนี้ทำร้ายร่างกาย ยึดทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้เช่าโดยไม่ยอมคืน พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผู้บังคับการตำรวจปทุมธานี นำหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ลงวันที่ 27 พ.ค. ในข้อหากรรโชกทรัพย์ เข้าจับกุม พ.ต.อ.พูลศักดิ์ อายุ 64 ปี นางพัชรียา อายุ 56 ปี และนางสาวพูลชนก อายุ 28 ปี ที่หอพักใน 7 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี จากกรณีมีนักศึกษากว่า 20 ราย เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต และเจ้าหน้าที่ สคบ. ว่าเจ้าของหอพักแห่งนี้ทำร้ายร่างกายนักศึกษา ยึดเอกสารหลักฐานทางราชการ ยึดทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้เช่าโดยไม่ยอมคืน บางจังหวะการจับกุมจะเห็นได้ว่ามีการโต้เถียงกันและมีการขัดขืน แต่สุดท้ายต้องยอมจำนนต่อหมายจับ พล.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า ตำรวจขอหมายจับจากศาลไป 3 […]

คนร้ายบุกยิงในงานกีฬาสี อบต.เกาะสะท้อน อส.-ครู เจ็บ 4

นราธิวาส 28 พ.ค. – คนร้ายบุกยิงในงานกีฬาสีต้านยาเสพติด อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทำให้อาสาสมัครรักษาดินแดนบาดเจ็บ 3 คน ครูบาดเจ็บ 1 คน ส่วนเหตุคนร้ายยิงใส่ป้อมหน้า สภ.จะแนะ ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย เจ็บ 1 นาย เจ้าหน้าที่เร่งไล่ล่าคนร้าย คนร้ายชุดสีดำเดินถือปืนเข้ามาในลานกีฬาเซปักตะกร้อ งานแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติด อบต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จากนั้นรัวยิงชุดแรก 4 นัด คนที่ร่วมแข่งขันพากันวิ่งหลบหนี จากนั้นคนร้ายรัวยิงอีก 3 นัด ซึ่งภาพหลุดจากวิถีกล้องไปแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่และหน่วยงานความมั่นคงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บ 4 คน ประกอบด้วย 1.นายสุกรี ครูโรงเรียนบ้านเกาะสะท้อน 2.อาสารักษาดินแดนฮัมดานุดดีน 3.อาสารักษาดินแดนมุสลิม และนายไซนุดดิน ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลตากใบ สอบสวนทราบว่าคนร้าย 6 คน ใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ 3 คัน ขี่เข้ามาโดยปะปนกับประชาชน และก่อเหตุยิงผู้เข้าร่วมแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติดจนมีผู้บาดเจ็บ หลังเกิดเหตุนายอำเภอตากใบลงพื้นที่เยี่ยมผู้บาดเจ็บ […]

นายกฯ ยกหูคุย “ฮุน มาเนต” คลี่คลายเหตุปะทะชายแดน

รัฐสภา 28 พ.ค.- นายกฯ รับทราบเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เผยยกหูคุยตรง “นายกฯ ฮุน มาเนต” ให้สถานการณ์คลี่คลายเร็วที่สุด ปัดตอบกรณี “ทักษิณ” ประกาศสงครามกับว้าแดง-สถานการณ์ใต้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางออกจากอาคารรัฐสภา ในเวลา 17.40 น. ถึงสถานการณ์ชายแดนไทยไทย-กัมพูชา บริเวณด่านช่องบก จ.อุบลราชธานี ว่า ได้รับรายงานแล้ว และจะมีการพูดคุยกันของผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ส่วนตนเองได้พูดคุยกับกระทรวงกลาโหมแล้ว ซึ่งเดี๋ยวก็คงมีข้อตกลงกันออกมา ขณะเดียวกัน ตนเองก็ได้มีการพูดคุยกับ พลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาด้วย ไม่มีอะไร ซึ่งมีความเข้าใจตรงกันว่าจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงโดยเร็วที่สุด และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อีก ส่วนจะมีการใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีสองประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ของตนเองกับนายกฯ กัมพูชา ก็เป็นไปได้ด้วยดี เมื่อถามว่า กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศสงครามกับว้าแดง เพื่อแก้ปัญหายาเสพติด รัฐบาลมีแนวทางการแก้ปัญหาอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ค่ะ ส่วนเหตุการณ์ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ในวันนี้ […]

ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคาม หลังพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดน

กองทัพอากาศ 28 พ.ค.- ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคามต่อประเทศ หลังตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก พล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.03 น. กองทัพอากาศได้สั่งการให้เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 เครื่อง จากหน่วยบิน กองบิน 4 ปฏิบัติภารกิจการบินป้องกันทางอากาศ วิ่งขึ้นจากสนามบินตาคลี หลังหน่วยควบคุมอากาศยานและแจ้งเตือน ตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้ามอำเภอพบพระ จังหวัดตาก เครื่องบินต้องสงสัยลำดังกล่าว เป็นอากาศยานสมรรถนะสูงแบบ YAK-130 มีทิศทางบินมุ่งเข้าสู่เขตแดนไทยในระยะใกล้ กองทัพอากาศ จึงสั่งการบินพิสูจน์ทราบและแสดงท่าทีป้องปราม ตามมาตรการปกติ เพื่อเฝ้าระวังและยืนยันสถานการณ์ จากการติดตามพบว่า เครื่องบินดังกล่าวได้เปลี่ยนทิศทางและออกจากเขตใกล้ชายแดนไทย ในเวลา 13.16 น. โดยไม่แสดงพฤติกรรมรุกราน หรือมีเจตนาเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศแต่อย่างใด “กองทัพอากาศ ขอยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจปกติในการเฝ้าระวังป้องกันน่านฟ้า ซึ่งกองทัพอากาศดำเนินการอย่างเข้มแข็งและสม่ำเสมอ เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ สร้างความปลอดภัย และความมั่นใจให้แก่ประชาชน” โฆษกกองทัพอากาศ กล่าว ทั้งนี้ […]