ยื่นดีเอสไอรับคดีแตงโมเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน

กรมสอบสวนคดีพิเศษ 20 ม.ค.- “อ.ปานเทพ-บอสณวัฒน์” พาตัวแทนมิสแกรนด์ 2025 ทั้ง 77 จังหวัด ยื่นดีเอสไอขอรับคดีแตงโมตกเรือเป็นคดีพิเศษ ขีดเส้น 1 เดือน


ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) วันที่ 20 มกราคม 2568 นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล พาสาวงามมิสแกรนด์ 2025 ทั้ง 77 จังหวัด พร้อมด้วยนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต นายแพทย์ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อยื่นข้อเรียกร้องให้ดีเอสไอตรวจสอบการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อคืนความยุติธรรมอย่างโปร่งใส และขอให้รับเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากพบข้อพิรุธ และเงื่อนงำการเสียชีวิต โดยมี นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษา รมว.ยุติธรรม พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เป็นผู้รับเรื่องและตอบข้อซักถาม

นายณวัฒน์ กล่าวว่า จากหลายสถาบันที่ได้ทำการสำรวจตามโพลได้ผลไม่น้อยกว่า 90 เปอร์เซ็นต์จากทุกการสำรวจเชื่อว่าเป็นฆาตกรรมอำพราง ในสังคมไทยต้องยอมรับว่าการใช้เส้นสาย การใช้อำนาจ ยศบารมีของข้าราชการ รวมถึงการใช้เงิน เพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงยังคงมีปรากฎอยู่เป็นระยะ ซึ่งในกรณีนี้ก็มีเสียงโจษจันมาจากประชาชนว่า อาจจะมีสิทธิ์ในการใช้สิ่งเหล่านี้เข้ามาเป็นเครื่องมือ ด้วยเหตุนี้การเดินทางมาพบในวันนี้ทางตัวแทนมิสแกรนด์ไทยแลนด์ทั้ง 77 จังหวัดพยายามผลักดันให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ช่วยรับเรื่องไว้เพื่อสอบสวนอีกครั้งเป็นกรณีพิเศษเพื่อให้สังคมไทยนั้นได้ข้อสรุปที่แท้จริง การมายื่นเรื่องร้องขอในครั้งนี้นอกจากจะเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้เสียชีวิตแล้ว ส่วนสำคัญที่สุดคือการมายื่นร้องขอในครั้งนี้เพื่อแสดงถึงความมีมาตรฐานการใช้กฎหมายในประเทศไทย รวมถึงความโปร่งใสในวงการตำรวจเพื่อความศักดิ์สิทธิ์และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในปัจจุบันและอนาคตที่จะเกิดขึ้น ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ทำให้คนไทยทุกคน ที่อยู่ในประเทศไทยได้มั่นใจในการใช้ชีวิต หากว่ากฎหมายมีความยุติธรรมและเท่าเทียมกับทุกคน รวมถึงการลดทอนเส้นสายการคอร์รัปชั่นและ กระทำผิดต่อจรรยาบรรณในกระบวนการยุติธรรมที่อาจเกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก เรายังคงเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมผ่านกระทรวงยุติธรรม และกรมสอบสวนคดีพิเศษ สุดท้ายจะเป็นที่พึ่งที่มีมาตรฐานและความยุติธรรมในทุกๆ กรณี หากในกรณีหนึ่งกรณีใดมิชอบมาพากล ผ่านกระบวนการทางอื่น ยังสามารถพึ่งพิงกรมสอบสวนพิเศษในครั้งนี้ได้


นายสมบูรณ์ กล่าวว่า ในฐานะผู้แทนของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม วันนี้เรายินดีที่ท่านเดินทางมา เรายินดีรับทุกเรื่องของพี่น้องประชาชนที่จะช่วยได้ ซึ่งเรื่องของท่านก็เป็นส่วนหนึ่ง และเรายินดีที่จะดำเนินการ ซึ่งแม้เรื่องนี้เกิดขึ้น 2 ปีมาแล้ว และกระบวนการกฎหมายได้ไปถึงชั้นศาล มี 2 จำเลยรับสารภาพ ส่วนจำเลยอีก 4 ราย ศาลนัด 29 ม.ค.นี้ ซึ่งตามกระบวนการแล้วท่านยังมีสิทธิ์ร้องเพราะเป็นคดีอาญาแผ่นดินที่ประชาชนร้องได้ แต่กระบวนการของดีเอสไอที่จะรับเป็นคดีพิเศษนั้น หากเข้าลักษณะเป็นคดีพิเศษ จะมีคณะกรรมการคดีพิเศษ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อพิจารณาว่าเรื่องใดเป็นเรื่องที่ดีเอสไอควรรับเป็นคดีพิเศษ ทั้งนี้ ยืนยันว่ากระบวนการของดีเอสไอ อยู่ระหว่างดำเนินการในคดีอาญา มันไม่สามารถที่จะทำไปแถลงไปได้

นายสมบูรณ์ เปิดเผยว่า สำหรับขั้นตอนการรับคดีมี 3 ขั้นตอน คือ 1.รวบรวมข้อเท็จจริง และเมื่อเห็นว่ามีความไปได้ก็จะมีการสรุปข้อมูลเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการสืบสวน 2.การสืบสวนคดี พนักงานผู้รับผิดชอบจะมีอำนาจเพิ่มขึ้นในการแสวงหารวบรวมพยานหลักฐานเป็นเรื่องสืบสวน โดยต้องมีหลักฐานชัดเจน เพื่อจะได้เข้าสู่กระบวนการการรับเป็นคดีพิเศษ และ 3.การรับเป็นคดีพิเศษ จะเป็นหน้าที่ของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือไม่ ถ้าองค์ประกอบเข้ากฎหมาย ก็สามารถรับไว้ดำเนินการเป็นคดีพิเศษได้โดยอำนาจของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่ถ้าเป็นคดีที่ไม่เข้าลักษณะคดีพิเศษ ก็เสนอคณะกรรมการคดีพิเศษได้ แต่คดีนี้ยังอยู่ระหว่างขั้นตอนการรวบรวมข้อเท็จจริงเท่านั้น เพราะในคดีอาญานั้น การกล่าวถึงบุคคลใดอาจเป็นการละเมิดสิทธิ์ได้

นายสมบูรณ์ กล่าวต่อว่า ขอให้ความมั่นใจว่าทุกคำพูดของท่าน จะส่งถึง รมว.ยุติธรรม ไม่ตกแม้แต่ประโยคเดียว และในการดำเนินการนั้น อาจเป็นระยะเวลา 6 เดือน หรือใดๆ ก็ตาม ตนในฐานะที่ปรึกษา รมว.ยธ. จะมีส่วนเร่งรัดทำให้เร็วที่สุด รับปากได้เลยว่าจะไม่ล่าช้า จะทำตามขั้นตอน ขอให้ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องระยะเวลา หรือภายใน 1 เดือนก็สามารถมาทวงถามได้ นอกจากนี้ ในวันที่ 22 ม.ค.นี้ ขอให้ท่านรวบรวมพยานกี่รายก็ตาม หรือรูปภาพต่าง ๆ ให้เอาเข้ามามอบให้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ได้เลย


ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า เข้าใจความประสงค์ที่ต้องการให้ดีเอสไอดำเนินการทำความจริงให้ปรากฏว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งเรื่องราวนั้นๆ เรายังไม่ทราบ จึงขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ดังนั้น จะทำการใดก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย เพราะเรามี 3 ขั้นตอน คือ การตรวจสอบรวบรวมข้อมูล การสืบสวนแสวงหาพยานหลักฐาน และสอบสวนเป็นคดีพิเศษ ตอนนี้เป็นเพียงแค่ชั้นแรก ต้องรวบรวมข้อมูลจนกว่าจะชัดเจนว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง อีกทั้งในส่วนของการรื้อฟื้นคดี จะทำได้หรือไม่นั้น ต้องนำมาพิจารณาก่อนว่ากฎหมายเปิดช่องให้จำเลย หรือแพะ หรือผู้ร้องที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม อาจจะมีการเบิกความเท็จ การนำพยานหลักฐานเท็จเข้ามาหรือไม่ อย่างไร และยังมีเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมฟ้อง ซึ่งต้องเกิดขึ้นก่อนศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา ต้องมีขั้นตอนว่าจำเลยเสียเปรียบหรือไม่ จึงต้องย้ำว่าในชั้นนี้กฎหมายเปิดช่องให้เราทำอะไรได้บ้าง แต่ขอให้เข้าใจว่าเจ้าพนักงานจะทำการใด ก็ต้องดูกฎหมายว่าเปิดช่องให้ทำหรือไม่ ซึ่งจะต้องมีการประชุมก่อนเพื่อดูว่าดีเอสไอสามารถดำเนินการอะไรได้บ้าง และจะเเจ้งผลความคืบหน้าให้ทราบแน่นอน

พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า ขอให้ไม่ต้องกังวล ดีเอสไอถูกออกแบบมาให้พิจารณาดำเนินคดีบุคคลที่เป็นข้าราชการอยู่แล้ว อย่างที่เรียนว่าจะดำเนินการสิ่งใด กฎหมายก็ต้องให้อำนาจ ถ้ากฎหมายให้อำนาจเราก็ทำเต็มที่ แต่ถ้าทำโดยไม่มีอำนาจ เราก็จะมีความผิดเสียเอง ตอนนี้จึงต้องพิจารณาข้อเท็จจริงและประมวลเรื่อง ทั้งนี้ ยินดีดำเนินการให้ความเป็นธรรมในระยะเวลาอันรวดเร็ว อาจไม่ถึงปี ประมาณ 3-6 เดือนก็ได้ทราบความคืบหน้า

ขณะที่ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า เบื้องต้นกระบวนการของเราจะเน้นไปที่นิติวิทยาศาสตร์ การรวบรวมพยานหลักฐาน เพราะเรามีมาตรการพิเศษ ในการรวบรวมเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง แต่วันนี้คือจุดเริ่มต้น เนื่องจากเราได้ไปสังเกตการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดูว่าจะมีอำนาจในการดำเนินการในส่วนใดได้บ้าง

ส่วน นายปานเทพ กล่าวว่า การที่มี MISS GRAND จาก 77 จังหวัด คือ ตัวแทนของผู้หญิงทั่วประเทศ เมื่อพวกเขารู้ว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งไม่ได้รับความเป็นธรรมเมื่อ 3 ปีที่แล้ว คนเหล่านี้จึงมาทวงความยุติธรรม แต่ตอนนี้เราห่วงเรื่องเวลา กังวลในส่วนของข้อเท็จจริงบางประการ เช่น พยานหลักฐานต่าง ๆ จะถูกทำลายไปก่อนหรือไม่ และเมื่อใดจะเเล้วเสร็จ จะรวบรวมเสร็จ สอบสวนเสร็จ แล้วเมื่อใดจะนำไปสู่เลขคดีพิเศษ ยังไม่นับรวมชี้มูลผิดหรือไม่ผิด แต่หลายท่านในกรมสอบสวนคดีพิเศษในตอนนี้เป็นตำรวจเก่ามาก่อน สิ่งที่เรากังวลคือกระบวนการที่จะต้องดำเนินการเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐหรือตำรวจ ถ้ารับเรื่องไปเฉย ๆ แล้วไม่กำหนดเวลา แล้วไม่สามารถแสวงหาข้อเท็จจริงได้ พลังผู้หญิงที่มาในวันนี้คงจะผิดหวัง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าในวันข้างหน้าจะเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีกกี่ครั้ง ขอให้ดีเอสไอรับปากว่าจะทำคดีอย่างตรงไปตรงมาและรวดเร็ว

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทางบอสณวัฒน์ ได้มีการเปิดรูปภาพของแตงโมที่มีลักษณะถูกไพล่หลังให้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ดู โดยย้ำว่าเป็นภาพเหมือนแตงโมถูกมัดมือไพล่หลัง และเเย้มว่า ยังมีอีกหลายรูปที่มีร่องรอยฟกช้ำดำเขียว ประมาณ 20 ภาพ ขอให้ดีเอสไอรับไปดูด้วย

ต่อมาเวลา 17.35 น. พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เดินทางมารับเรื่องด้วยตัวเองพร้อมเปิดเผยว่า ในส่วนของกระทรวงยุติธรรมมีกรมสอบสวนคดีพิเศษที่ดูแลในเรื่องที่สลับซับซ้อนในคดีอาญาแต่ต้องอยู่ในเงื่อนไขของกฎหมาย คดีนี้มีส่วนหนึ่งอยู่ในกระบวนการยุติธรรมที่ตำรวจสอบสวน และอยู่ในการพิจารณาคดีของศาล โดยหลักการถ้าจะสอบสวนรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่มีพระราชบัญญัติรื้อฟื้นคดีอาญาซึ่งต้องเป็นคดีเด็ดขาด ส่วนที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลหากมีประเด็นที่สำคัญจะอยู่ในอำนาจของอัยการ หากเป็นเรื่องมีการกล่าวหาหรือมีการยืนยันตัวบุคคลใหม่ที่ไม่ได้อยู่ในสำนวนเลย หรือมีการกล่าวหาขึ้นมาใหม่จะมีอำนาจสอบสวนได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ และทราบว่ากระบวนการยุติธรรมทั้งศาลและอัยการได้ดำเนินการอยู่

พันตำรวจเอกทวี กล่าวอีกว่า หน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษในขณะนี้คือการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนตามที่ได้มีการมาร้องเรียน หากมีความจำเป็นจะตั้งเลขสืบสวน เพื่อแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐาน เมื่อมีการตั้งเรื่องสืบสวนและพบข้อเท็จจริงว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้นจะตั้งเป็นสอบสวนและมีการสอบสวน

พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า อย่างไรก็ตามในประเด็นดังกล่าวในคดีที่มีคนตาย จะมีอยู่หลักอยู่ 3 หลัก คือ 1.หลักเทคนิคการสืบสวนสอบสวน ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้รวบรวมหลักฐาน 2. การตรวจพิสูจน์ และ3.ต้องชอบด้วยกฎหมาย ในเคสลักษณะนี้หากดีเอสไอจะทำการตรวจสอบจะให้ผู้เชี่ยวชาญที่ขึ้นบัญชีไว้กับศาล ซึ่งส่วนใหญ่จะมีแพทย์นิติเวช หน้าที่ของกระบวนการยุติธรรมจะต้องทำความจริงให้ปรากฏ หลังจากรับเรื่องได้ส่งมาให้ดีเอสไอตรวจสอบเนื่องจากมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญ ในกระบวนการทั้งหมดจะต้องให้อยู่ในพยานหลักฐาน ทั้ง พยานบุคคล พยานเอกสาร พยานวัตถุ แต่ในกฎหมายไทยมีพยานผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเรื่องนี้อาจจะต้องพึ่งผู้เชี่ยวชาญด้วย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยืนยันจะทำด้วยความรวดเร็ว โดยยึดหลักการสอบสวนจะอยู่ที่พยานหลักฐานและข้อเท็จจริง ไม่มีอคติ หากไปถึงบุคคลใดก็ให้ว่าไปตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริง ทุกเรื่องในประเด็นความยุติธรรมไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่เป็นหน้าที่ของกระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานของกระทรวงยุติธรรม ทุกเรื่องจะทำและอำนวยความยุติธรรมโดยให้ทำอย่างตรงไปตรงมา .419 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดขณะลาดตระเวน สูญเสียขาอีก 1 นาย

12 ส.ค.- ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิด ขณะลาดตระเวนพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม หลังรั้วลวดหนามฝั่งไทย คาดทหารเขมรล่าถอยแล้วฝังทุ่นระเบิดไว้ เมื่อเวลา 09.10 น. รายงานข่าวจากกองทัพพื้นที่สองเปิดเผยว่า ได้เกิดเหตุทหารพราน 2610 เหยียบกับระเบิดขณะทำการลาดตระเวนบริเวณฐานจุ๊บตาโมก ฝั่งตะวันตกของปราสาทตาเมือนธม ซึ่งอยู่ในแนวรั้วลวดหนามของฝั่งประเทศไทย บริเวณพิกัด R51 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ทราบชื่อ ส.อ.ธีรพล เพียขันที กรุ๊ปเลือด AB ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายขาด ขณะนี้กำลังนำส่งโรงพยาบาล ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากเหตุปะทะกันทางทหารกัมพูชาได้ล่าถอยและฝั่งทุ่นระเบิดไว้ก่อนออกนอกพื้นที่เขตประเทศไทย -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ปัดตอบกระแสข่าวชิงลาออก บอกสื่อ “คิดถึงนะคะ”

สนามหลวง 12 ส.ค.- “แพทองธาร” ยิ้ม ปัดตอบกระแสข่าวชิงลาออก ก่อนศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน บอกสื่อฯ “คิดถึงนะคะ” ภายหลังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมคู่สมรส ร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 ส.ค.2568 ณ ท้องสนามหลวง ทันทีที่พบผู้สื่อข่าว นางสาวแพทองธาร หันมาพูดเพียงสั้น ๆ ว่า “คิดถึงนะ” ผู้สื่อข่าวจึงพยายามสอบถามเรื่องกระแสข่าวการลาออกจากตำแหน่ง ก่อนศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำตัดสิน คดีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งนางสาวแพทองธาร ยิ้มและไม่ตอบคำถาม ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ หรือสุดท้ายจะอยู่ รวมถึงขอให้ยืนยันว่าจะลาออกหรือไม่ ซึ่งนางสาวแพทองธาร ไม่ได้ตอบคำถาม และเดินทางขึ้นรถทันที.-315 -สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” นำทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในวันแม่แห่งชาติ

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา “พระพันปีหลวง” 12 สิงหาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานองคมนตรีและภริยา คณะองคมนตรีและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ หน่วยราชการในพระองค์ คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพและภริยา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและภริยา ปลัดกระทรวงทุกกระทรวง และผู้แทนภาคเอกชน ร่วมพิธี โดยเมื่อนายภูมิธรรม เดินทางถึงปะรำพิธีท้องสนามหลวง สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน 10 รูป ขึ้นนั่งอาสน์สงฆ์ นายภูมิธรรม จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ถวายคำนับและถวายธูปเทียนแพหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ จำนวน […]

เตือนทั่วไทยฝนตกต่อเนื่อง ‘ตะวันออก’ หนักสุด

กทม. 12 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกต่อเนื่อง เตือนภาคตะวันออกรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “โพดุล” (PODUL) บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไต้หวัน และเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณด้านตะวันออกของประเทศจีนในช่วงวันที่ 13 – 14 ส.ค. โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย