ดีเอสไอเข้าแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรง 18 บอสดิไอคอน

แชร์ลูกโซ่ดิไอคอน

กทม. 11 พ.ย. -“ดีเอสไอ“ เข้าแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่-พ.ร.บ.ขายตรง 18 บอสดิไอคอน และ 1 นิติบุคคล ขณะที่ “ทนายวิฑูรย์” ยันเตรียมเอกสารพร้อมพิสูจน์ เชื่อไม่เข้าองค์ประกอบแชร์ลูกโซ่


เมื่อช่วงเวลาประมาณ 08.30 น.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ DSI ได้เดินทางเข้ามาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาดิไอคอน 18 ราย และ 1 นิติบุคคล ภายในเรือนจำฯ ได้แก่ พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 มาตรา 4 , 5 และ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 มาตรา 19, 20 โดยปฏิบัติตามกฎระเบียบของทางเรือนจำฯ ในการจัดรอบแจ้งข้อกล่าวหาแต่ละคน ส่วนผู้ต้องหาจะให้รับสารภาพ หรือปฏิเสธเป็นสิทธิของผู้ต้องหา ซึ่งมีทนายความร่วมฟังด้วย

ภายหลังแจ้งข้อกล่าวหาเสร็จสิ้น ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ออกมาเปิดเผยว่า วันนี้จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาในความผิดตาม พ.ร.ก.กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (แชร์ลูกโซ่) และ พ.ร.บ.ธุรกิจขายตรงและการตลาดแบบตรง หลังจากก่อนหน้านี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งสำนวนข้อหาฉ้อโกงประชาชนและข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จนกระทั่ง DSI รับเป็นคดีพิเศษและมีการสอบปากคำสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ สคบ. เกี่ยวกับพฤติกรรมในการดำเนินกิจการของ “ดิ ไอคอน กรุ๊ป” จนพบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม นำมาสู่การที่ DSI มีมติในการแจ้งข้อกล่าวหาบอสทั้ง 18 ราย และนิติบุคคลเพิ่มเติมในส่วนความผิดฐานแชร์ลูกโซ่และความผิด พ.ร.บ.ธุรกิจขายตรงฯ


ร.ต.อ.วิษณุ ระบุอีกว่า การเข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาในวันนี้ มีการประสานกับ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ และ ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลางแล้ว ในการจัดสรรผู้ต้องหาเข้ามาพบเจ้าหน้าที่เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งจะต้องมีทีมทนายในการร่วมสืบสวนสอบสวน โดยทาง DSI ได้ประสานไว้แล้วเช่นกัน ยืนยันว่าการจะแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่ มีองค์ประกอบความผิดตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และ สคบ. ให้ข้อเท็จจริงกับพนักงานสอบสวน เช่น การประกอบกิจการเป็นลักษณะผิดกฎหมาย ไม่สามารถที่จะนำเงินมาจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน หรือนำเงินมาหมุนเวียนจ่ายจริงหรือไม่ โดยมีการสอบสวนไปถึงแผนประทุษกรรม งบการเงิน การวิเคราะห์เส้นเงิน ข้อมูลคอมพิวเตอร์หลังบ้าน จนเห็นภาพรวมของคดี เป็นการรวบรวมหลักฐานเพื่อพิสูจน์ความผิดผู้ต้องหา ส่วนที่ทางฝั่งผู้ต้องหาต่อสู้ว่ามีสินค้าอยู่ ก็เป็นสิทธิผู้ต้องหาที่จะแก้ข้อกล่าวหา ซึ่งหากทนายฝ่ายนั้นมีข้อเท็จจริงตรงไหนที่มีประโยชน์ DSI ก็พร้อมรับฟัง

เมื่อถามว่าประเด็นการสอบสวนบอสดาราและบอสคนอื่นๆ จะแตกต่างกันหรือไม่ เพราะว่าลักษณะพฤติกรรมไม่เหมือนกัน ร.ต.อ.วิษณุ มองว่า ทั้งหมดมีกระบวนการของการแบ่งหน้าที่กันทำ ซึ่งแม้ว่าทุกคนอาจจะไม่ได้เข้าองค์ประกอบความผิดพร้อมกัน แต่เมื่อเป็นการแบ่งหน้าที่กันทำ ก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าหน้าที่ของแต่ละคน เมื่อรวมกันแล้วมีวัตถุประสงค์เดียวกันในการกู้ยืมเงินเพื่อเป็นการฉ้อโกงประชาชน

ทั้งนี้ มีรายงานว่าในส่วนของหัวหน้าทีมคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่เข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแก่ 18 บอสดิไอคอน ประกอบด้วย 3 ผู้อำนวยการกองคดีของดีเอสไอ คือ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ , พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือกองคดีฮั้วประมูลฯ และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ นอกจากนั้นคือเจ้าหน้าที่คดีพิเศษของแต่ละกองคดี โดย พ.ต.ต.วรณัน และเจ้าหน้าที่คดีพิเศษกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ จะเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาแก่บรรดาบอสหญิง 7 ราย ณ ทัณฑสถานหญิงกลาง


ขณะที่ในส่วนของ พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีฮั้วประมูล เเละเจ้าหน้าที่คดีพิเศษ จะเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาแก่บรรดาบอสชายทั้ง 11 ราย ณ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทั้งนี้ในกรณีของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ “บอสพอล” จะเป็นความรับผิดชอบของ พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค

ด้านนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของบอสพอล ได้เดินทางมาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในช่วงเวลา 09.30 น. โดยเปิดเผยว่า เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ DSI ได้ประสานมาว่าจะเข้ามาแจ้งข้อกล่าวหากับ 18 บอส พร้อมกันในวันนี้ ตัวเองก็ตอบรับแบบงง ๆ จากนั้นเราก็ได้ให้ทีมงานช่วยกันจัดเตรียมเอกสาร ซึ่งมีมากพอสมควร เกี่ยวกับการทำธุรกิจทั้งหมด การจัดการจากโรงงานมายังโกดังและจากโกดังไปยังลูกค้า โดยเป็นเอกสารที่พอจะเตรียมได้ทัน ส่วนที่เหลือเป็นระบบของดิไอคอน วันนี้เราก็ได้ให้คนที่เข้าระบบได้อย่าง “เลขาฯ โค้ชแลป” และ “เลขาฯ บอสพอล” แยกเข้าไปในเรือนจำ เพื่อเข้ามาเปิดระบบให้กับทางผู้ต้องหาได้ให้การได้ ส่วนวันนี้จะเป็นการแจ้งข้อกล่าวหาเลยหรือสอบคำให้การด้วยนั้น เห็นว่าทาง DSI บอกว่าจะเป็นการสอบคำให้การในเบื้องต้น ตัวเองก็เลยเตรียมข้อมูลมาให้แน่น เพราะคำว่าเบื้องต้นของบอสพอล ไม่มีอยู่จริง เขาเองก็อยากจะให้รายละเอียดทั้งหมด เพราะกลัวว่าจะรับเบื้องต้นไปแล้วจะตัดจบคดี และการมาสอบที่เรือนจำไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

เมื่อถามว่าเราจะให้การอย่างไรเพื่อจะพิสูจน์กับข้อกล่าวหานี้ได้นั้น นายวิฑูรย์ ตอบว่า แชร์ลูกโซ่องค์ประกอบมันคือว่า “ต้องไม่มีธุรกิจอยู่จริง ต้องมีการเอาเงินของลูกค้า เอาเงินของคนใหม่มาจ่ายคนเก่า และต้องไม่มีสินค้า” ซึ่งเรามั่นใจว่าเราไม่เข้าองค์ประกอบนี้ วันนี้จึงจะให้ปากคำโดยละเอียด โดยเรามีความยินดีที่จะเปิดระบบหลังบ้านและชี้แจงให้ดูว่าเป็นอย่างไร ซึ่งตัวเองก็จะต้องนั่งฟังและสังเกตการณ์ด้วยยาวๆ เพราะตัวเองเป็นทนายให้กับหลายบอส

ส่วนพยานที่จะเข้ามาให้ปากคำนั้น ตัวเองได้บัตรประชาชนและรายชื่อยืนยันตัวตนส่งมอบให้กับทาง DSI ไปแล้วเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ทาง DSI ขอให้ทำใหม่ ก็เลยต้องทำการบ้านทำบัญชีใหม่ พร้อมเก็บสำเนาบัตรประชาชนของตัวแทนแต่ละคน ทำได้ 2 วัน ได้ไปเบื้องต้น 700 คนแล้ว ส่วนพยานผู้เชี่ยวชาญนั้น เรื่องนี้นายวิฑูรย์ ขอให้ตัวแทนเข้ามาให้ปากคำให้หมดก่อน เพราะรวบรวมได้จริง มีประมาณ 2,000 – 3,000 คน แต่จะให้การได้จริงหรือไม่ หรืออาจจะมีการตัดพยานไป ตัวเองก็แค่ขอความเป็นธรรม แต่พยานเขาจะไม่พอใจ ไปแจ้ง ม.157 ก็ไม่ทราบได้

ขณะที่นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผย ถึงความพร้อมของ กรมราชทัณฑ์ในวันนี้สำหรับการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษจะเข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำกลุ่มบอสดิไอคอน บอกว่า ทางเรือนจำมีการวางแผนบริหารจัดการอยู่แล้ว ซึ่งตอนนี้ก็มีการประชุมกันอยู่ในการเข้ามาแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ซึ่งที่ผ่านมาก็มีเจ้าหน้าที่เข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องขังในเรือนจำเป็นประจำอยู่แล้ว ส่วนจะแจ้งพร้อมกันทั้ง 18 คนเลยหรือไม่ ต้องอยู่ที่ประชุม อาจจะแบ่งกันแจ้งคงไม่พร้อมกัน

เมื่อถามว่าสภาพความเป็นอยู่และสภาพจิตใจของ 18 บอส เป็นอย่างไรบ้าง บอกว่าสุขภาพกาย สุขภาพใจปกติ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง สำหรับคนที่มีโรคประจำตัวก็ได้รับการดูแลตามมาตรฐานอยู่แล้ว ส่วนที่บอสวิน มีรายงานเป็นโรคมะเร็งก็ไม่ได้รับรายงานเรื่องการดูแลที่พิเศษเพิ่มขึ้นมา

ส่วนทนายตั้มและภรรยา ที่เข้าเรือนจำมาได้ 2 วันแล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างการปรับตัวต้องใช้เวลาสักพักนึง ไม่มีอะไรน่ากังวลใจ เมื่อถามว่ามีความเครียดไหม บอกว่า มีความเครียดไม่มาก และทั้งคู่ไม่ได้ร้องขออะไรเป็นพิเศษ และเมื่อถามว่าหากทนายตั้มพ้นการกักโรคแล้วต้องแยกแดนจะพบคู่กรณีหรือไม่ ทางเรือนจำจะมีมาตรการอย่างไร นางกนกวรรณ บอกว่า เป็นสิ่งที่ทางเรือนจำเฝ้าระวังอยู่แล้วไม่ใช่แค่กรณีของทนายตั้มเพียงอย่างเดียว ทุกเรือนจำคำนึงถึงความปลอดภัยและสิทธิของผู้ต้องขัง ทางเรือนจำจะมีข้อมูล การเฝ้าระวังเป็นรายบุคคลอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าทนายตั้มและกลุ่มบอสจะมีโอกาสเจอกันหรือไม่ ตอนนี้ยังคงไม่เจอเพราะว่าทนายตั้มอยู่ระหว่างการกักตัว ซึ่งคนละแดนกัน ส่วนการมีอาชีพเป็นทนายความจะมีการสร้างอิทธิพลภายในเรือนจำหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องเฝ้าระวังเช่นกัน และการสร้างอิทธิพลในเรือนจำก็ไม่มี

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าเครือข่ายของผู้กำกับโจ้ที่เป็นคู่กรณีกับทนายตั้ม ที่อยู่ในหลายเรือนจำและต้องการจะจองกฐินทนายตั้มจะมีการป้องกันอย่างไรบ้าง นางกนกวรรณ บอกว่าทางเรือนจำมีการเฝ้าระวังและมีสายข่าว แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลในประเด็นนี้

ส่วนกรณีเรือนจำมีนบุรีที่มีผู้ต้องขังทำร้ายร่างกายใช้ของไปแหลมจนมีผู้เสียชีวิต บอกว่า โดยปกติแล้วทางเรือนจำจะมีการตรวจสอบอาวุธ บุคคล และยานพาหนะ เป็นเรื่องที่ต้องมีการตรวจสอบทุกวันอยู่แล้ว และทางเรือนจำก็พยายามอย่างเต็มที่ในการป้องกัน

แต่เมื่อถามว่าอาวุธมันเล็ดลอดเข้ามาในเรือนจำได้อย่างไร นางกนกวรรณ บอกว่าประเด็นนี้ขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นซึ่งทางเรือนจำก็มีการประชุมในวันนี้ถึงประเด็นดังกล่าวด้วย และทางเรือนจำก็มีข้อจำกัดในเรื่องของความแออัด และจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ไม่สัมพันธ์กับตัวผู้ต้องขัง และที่ผ่านมาเรือนจำก็พยายามตรวจสอบอย่างเต็มที่แล้ว

เมื่อถามถึงรายละเอียดว่าผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตอยู่แดนเดียวกันหรือไม่ บอกว่าแดนที่เกิดเรื่องค่อนข้างใหญ่ และหากมีคู่กรณีอยู่แดนเดียวกัน ทางเรือนจำก็จะแยกกันอยู่แล้ว แต่กรณีนี้เห็นว่าสามารถอยู่ร่วมกันได้มาก่อนหน้านี้แต่รายละเอียดขอให้อยู่ในการตรวจสอบ.-414-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เจ้าหน้าที่เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบเส้นเงิน

กทม. 17 ก.ค. – เจ้าหน้าที่ 3 หน่วยงาน เข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสฯ ขอตรวจสอบเส้นเงิน หลังอดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก มีรายงานเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เนื่องจากเจ้าคุณประสิทธิ์ เคยดำรงตำแหน่งเป็นรองอธิการบดี.-สำนักข่าวไทย

นักท่องเที่ยวแห่ชมปราสาทตาเมือนธม-ให้กำลังใจทหารต่อเนื่อง

สุรินทร์ 17 ก.ค. – กำลังใจไหลมาต่อเนื่อง สู่ทหารแนวหน้าบริเวณปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ท่ามกลางการคุมเข้มตามข้อตกลงใหม่ หลังเกิดเหตุป่วนเมื่อ 2 วันก่อน กลุ่มเพื่อนดนตรีจิตอาสาจากกรุงเทพฯ นัดแต่งชุดธีมลายพราง ให้กำลังใจ พร้อมโชว์ลูกคอเพลง “บ้านเกิดเมืองนอน” แม้วันนี้จะยังไม่มีคณะทัวร์ใหญ่ แต่มีนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศทยอยเดินทางเข้ามาเที่ยวชมปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ และให้กำลังใจทหารอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงเปิด 09.00 น.ที่ผ่านมา นอกจากชมความงดงามปราสาทที่สร้างเป็นพระตำหนักของกษัตริย์ขอม อายุนับพันปีแล้ว สิ่งที่นักท่องเที่ยวสนใจคือ รอยต่อเขตแดนไทย-กัมพูชา บริเวณแนวต้นขี้เหล็ก ทางขึ้นตัวปราสาทด้านกัมพูชาที่เคยมีแนวรั้วไม้กั้น หลังเหตุปะทะปี 2554 แต่ต่อมามีการรื้อออกไปในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ต้องการรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับกัมพูชา ซึ่งบริเวณเดียวกันนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่หญิงกัมพูชาตะโกนใส่ทหารไทย ว่ารุกล้ำเขตแดน จนมีการกระทบกระทั่งกันเมื่อ 2 วันก่อน อีกจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายภาพคือ หลักหมุด GPS ด้านหน้าทางขึ้นตัวปราสาทฝั่งไทย ซึ่งทหารไทยไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวกัมพูชารุกล้ำเกินหลักหมุดนี้ สำหรับแนวทางปฏิบัติเจ้าหน้าที่กำชับไม่ให้ถ่ายภาพบริเวณทางเดินก่อนถึงตัวปราสาท และไม่ให้ตามเกมยั่วยุของอีกฝ่าย พร้อมย้ำให้สบายใจได้ว่าไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบเรื่องอธิปไตยเหนือตัวปราสาทอยู่แล้ว กลุ่มเพื่อนดนตรีจิตอาสาจากกรุงเทพฯ อดรนทนไม่ได้ที่เห็นกัมพูชายั่วยุบ่อยครั้ง จึงนัดกันแต่งชุดธีมลายพรางทหาร เพื่อแสดงความเป็นพวก ให้กำลังใจทหาร พร้อมโชว์ลูกคอในบทเพลง […]

“สีกากอล์ฟ” ปฏิเสธข้อหารีดทรัพย์-ทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ อ้างแค่ยืมเงิน

กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – รอง ผบก.ป. ระบุ “สีกากอล์ฟ” ปฏิเสธข้อหารีดเอาทรัพย์-ทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ อ้างแค่ยืมเงิน และขอความร่วมมือ ไม่ได้บังคับ เผยแผนประทุษกรรม หวังได้มาซึ่งเงินเลี้ยงดู ยังพบทำคนเดียว ไม่มีผู้ร่วมขบวนการ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการสอบปากคำ “สีกากอล์ฟ” อายุ 35 ปี ในส่วนของคดีข่มขืนใจและรีดเอาเงินทิดแหล่ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ ระบุว่า ทางกองปราบฯ ได้แจ้งข้อหากับสีกากอล์ฟไป 2 ข้อหา คือข้อหารีดเอาทรัพย์ และทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ ซึ่งสีกากอล์ฟให้การปฏิเสธ โดยประเด็นเรื่องเงินที่ตำรวจกล่าวหาว่า มีการขู่เอาเงินจากทิดแหล่ ถ้าไม่ให้เงินจะเปิดเผยเรื่องความสัมพันธ์แล้วจะทำให้ถูกปลด สีกากอล์ฟอ้างว่า ไม่ได้ขู่แบล็กเมล์เพื่อเอาเงินเป็นเพียงแค่ขอยืมไปจ่ายค่าเช่ารถ ส่วนข้อกล่าวหา เรื่องทำให้เสื่อมเสียเสรีภาพ ที่ให้ทิดแหล่ เขียนร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์นั้น สีกากอล์ฟ อ้างว่า ไม่ได้บังคับให้เขียนร่างหนังสือแค่ขอให้ช่วยเฉย ๆ ทั้งนี้ เรื่องของความสัมพันธ์ จากการสอบปากคำ สีกากอล์ฟให้การทั้งกับความสัมพันธ์ ผู้เสียหายคือ ทิดแหล่ และพระรูปอื่นๆ ด้วย […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย