นายกฯ ขอบคุณ Google ประกาศลงทุนในไทย กว่า 3.5 หมื่นล้าน

ทำเนียบ 30 ก.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” ขอบคุณ Google ประกาศการลงทุนในไทยกว่า 35,000 ล้านบาท พร้อมผลักดัน Data Center แห่งแรกในไทย เชื่อมั่นไทยพร้อมเป็นศูนย์กลางของ Google ขับเคลื่อนการเติบโตของไทยและภูมิภาคอาเซียน


เมื่อเวลา 17.00 น. ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นาง Ruth Porat ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัท Alphabet และ Google เข้าเยี่ยมคารวะ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเยือนประเทศไทย เพื่อหารือความคืบหน้าของโครงการการลงทุนของบริษัทในไทย และความร่วมมือเพื่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ภายใต้แนวคิด Leave No Thai Behind

โดยนาง Ruth Porat กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรี โดยได้ประกาศการลงทุนจำนวน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 35,000 ล้านบาทในไทยเพื่อสร้าง Data Center และ Cloud Region ในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะช่วยสร้างงานกว่า 14,000 ตำแหน่ง ในช่วงปี 2568 – 2572 และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ140,000 ล้านบาทภายในปี 2572


ขณะที่นายกรัฐมนตรี ขอบคุณบริษัท Google ที่ไว้วางใจในศักยภาพของไทยในการสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของ Google และเชื่อมั่นว่าการหารือในวันนี้จะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกับบริษัทให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น โดยรัฐบาลมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างกันให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้นในระยะยาว และดำเนินการหาแนวทางเพื่อให้ความร่วมมือระหว่างกันมีความคืบหน้าและเกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่าย โดยเฉพาะในเรื่องนโยบาย Cloud First Policy ของรัฐบาล ซึ่งมุ่งเน้นที่การจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานและการบริการของภาครัฐแก่ประชาชนให้มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และครอบคลุมมากยิ่งขึ้น รวมถึงเทคโนโลยี AI ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้มีการให้องค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชน เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และสอดคล้องกับแนวทางของ Google รวมถึง สอดคล้องกับมาตรฐานสากล

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีให้ความมั่นใจแก่บริษัทถึงความต่อเนื่องด้านนโยบายและการดำเนินโครงการต่าง ๆ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มีการพูดคุยกับนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างต่อเนื่อง

ด้านนาง Ruth Porat ยินดีกับนายกรัฐมนตรีในโอกาสรับตำแหน่ง และตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้มาเยือนไทยในครั้งนี้ โดยที่ Google เป็นพันธมิตรกับไทยมาอย่างยาวนาน และการเยือนในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสในการหารือความก้าวหน้าของความร่วมมือระหว่างกันในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะภายหลังการลงนาม MOU ร่วมกัน ซึ่งช่วยสนับสนุนความร่วมมือระหว่างกันให้มีความก้าวหน้าอย่างมาก และในวันนี้บริษัทจะได้ประกาศการลงทุนในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และเชื่อมั่นความร่วมมือระหว่างกันจะใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นไปอีกในระยะยาว


จากนั้น เวลา 17.45 น. นายกรัฐมนตรีเป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงรับรองให้แก่นาง Ruth Porat และคณะ ภายในตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พร้อมกล่าวถ้อยแถลง เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสที่บริษัทประกาศการลงทุนในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ว่า ยินดีที่ได้ต้อนรับนาง Ruth Porat และทีมจากบริษัท Google ซึ่งเป็นบริษัทที่เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่คนไทย และใช้ผลิตภัณฑ์ของ Google อย่างแพร่หลายในชีวิตประจำวัน อาทิ Google Search, Google Maps, Gmail, YouTube และ Google Cloud นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีความร่วมมือที่เข้มแข็งกับบริษัทฯ โดยเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ผลักดันให้เกิดการลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างบริษัท Google กับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านดิจิทัลของไทย และเร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลด้วยการให้ความสำคัญกับระบบคลาวด์ ถือเป็นการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งและทำให้เกิดงานในวันนี้ขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีมุ่งมั่นที่จะสานต่อความร่วมมือระหว่างกันให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจดิจิทัลถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของไทย โดยรัฐบาลมุ่งเสริมศักยภาพด้านดิจิทัลที่จำเป็นเพื่อสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาตนเอง ประสิทธิภาพการทำงาน และนวัตกรรม ซึ่งจะช่วยลดความไม่เท่าเทียมและสร้างโอกาสที่มากขึ้นสำหรับทุกคน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ย้ำถึงศักยภาพของไทย ซึ่งมีโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ยืดหยุ่นและระบบสาธารณูปโภคที่มีเสถียรภาพ ควบคู่กับมีการรักษาความเป็นกลางทางเทคโนโลยี (Technological Neutrality) รวมถึงความต้องการด้านดิจิทัลของไทยยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการมีเครือข่าย 5G ที่ครอบคลุมและมีประชากรที่ใช้งานดิจิทัลจำนวนมาก

ทั้งนี้ รัฐบาลจะเดินหน้าขยายโครงการริเริ่มด้านพลังงานสะอาด และปรับปรุงภูมิทัศน์ด้านกฎระเบียบ เพื่อส่งเสริมระบบนิเวศทางดิจิทัลที่เจริญรุ่งเรือง โดยรัฐบาลกำลังดำเนินการอย่างแข็งขันเพื่อสร้างกลไกด้านพลังงานสะอาด อาทิ การทำสัญญาซื้อขายพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง (Direct PPA) และการเพิ่มทางเลือกใหม่ ๆ เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงพลังงานสะอาดได้มากขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลเห็นถึงความสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบดิจิทัลที่เอื้อต่อการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล โดยอีกหนึ่งโครงการริเริ่มที่สำคัญของรัฐบาล คือ นโยบายการใช้ระบบคลาวด์เป็นหลัก (Cloud First Policy) เพื่อยกระดับการบริการดิจิทัลของรัฐบาล การกำกับดูแลข้อมูล และความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ ขณะเดียวกัน รัฐบาลยังได้ปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล สร้างความเชื่อมั่นให้ภาคธุรกิจ พร้อมทั้งสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนให้เกิดนวัตกรรมดิจิทัล

นายกรัฐมนตรี ยินดีที่บริษัท Google ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อสำรวจการจัดตั้งศูนย์ข้อมูล (Data Center) แห่งแรกในไทย สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของ Google และความพร้อมของไทยทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่งและแรงงานที่มีทักษะ พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังสนับสนุนให้ Google สำรวจโอกาสความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในไทย เพื่อพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลของแรงงานในอนาคต และเตรียมความพร้อมสำหรับอุตสาหกรรมดิจิทัลที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว

ช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางที่รุ่งเรืองของ Google เพื่อส่งเสริมการเติบโตของคนไทยและธุรกิจทั้งในประเทศและภายในภูมิภาคอาเซียน .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

แม่ทัพภาค 2 เชื่อผลประชุม GBC เป็นทิศทางที่ดี

7 ส.ค. – มทภ.2 ขอรอผลอย่างเป็นทางการหลังประชุม GBC เชื่อจะไปในทิศทางที่ดี เมิน “ฮุนเซน” ขอไทยงดใช้ F-16 ร้องนานาชาติ หยุดขายเครื่องบินรบให้ไทย ส่วนกรณีสายลับเขมร รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบอุปกรณ์โดรนโลเคเตอร์ เครื่องจับพิกัดตัวโดรน รวม 30 เครื่อง มูลกว่า 8 ล้านบาท เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงของใช้ที่จำเป็นเพื่อนำไปมอบให้ทหารแนวหน้า จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะได้ข้อสรุปในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร พลโท บุญสิน บอกว่ารอการชี้แจงอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะดีขึ้น ย้ำว่า ในข้อเสนอ 8 เรื่อง 6 ประเด็น ตนให้ความสำคัญ ทหารไทย ณ ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหนก็ให้อยู่ตรงนั้น คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก เน้นย้ำให้ทหารหน้าแนวตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และตรึงกำลังไว้ตลอด เรื่องแผ่นดินไม่สามารถคุมได้ด้วยเครื่องมือ ต้องใช้คนเฝ้า เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของกัมพูชาแล้ว เราจะต้องประกบไว้แบบนี้ […]

พล.อ.ณัฐพล เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.-พล.อ.ณัฐพล รมช.กห. เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session of Thailand […]

“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด จับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาส

กทม. 7 ส.ค.-“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด บุกจับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก๊วนกิ๊กเก่า “สีกากอล์ฟ” หลังพบทุจริตยักยอกเงินวัด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปาตแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาฯ ป.ป.ท. นำกำลังตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “กอล์ฟทีม EP.1” บุกค้นเป้าหมาย 3 จุด ใน จ.สุราษฎร์ธานี จ.พิจิตร และ จ.สมุทรสงคราม เพื่อจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ และ คนใกล้ชิด ที่เคยพัวพันสัมพันธ์ฉาวสีกากอล์ฟ หลังพบกระทำผิดทุจริตยักยอกเงินวัดมาใช้ดูแลสีกา เป้าหมายจุดแรกที่เข้าตรวจค้นเป็นสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทิวากร ดีไพร หรือ […]

มท.1 เด้งฟ้าผ่า ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี

เมืองทองธานี 7 ส.ค.-รมว.มหาดไทย สั่งเด้งฟ้าผ่า “ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี” ก่อนประชุมมอบนโยบายกระทรวงมหาดไทย เหตุมีปัญหาเบิกจ่ายงบประมาณดูแลประชาชนได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนการประชุมมอบนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ว่า ได้มีการสั่งย้าย ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้มาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทย หลังมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีการเบิกงบทดรองราชการจ่ายเพียง 55,600 บาท จากที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ 100 ล้านบาท ส่วนจะย้ายชั่วคราว หรือถาวรน้้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากัน เมื่อถามว่า จะรอผลสอบก่อนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากันในรายละเอียด โดยคำสั่งจะออกในช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ว่าได้เดินทางมาร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย​ แต่ปฏิเสธที่จะแสดง​ความเห็น​ และไม่ขอให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน.-315.-สำนักข่าวไทย