เหนืออ่วม อ่างเก็บน้ำแตก-พนังกั้นน้ำพัง

ลำปาง, สุโขทัย 26 ก.ย. – สถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือหลายพื้นที่ยังสาหัส ที่ลำปาง “อ่างเก็บน้ำบ้านหนอง” แตก มวลน้ำหลากท่วมหลายหมู่บ้าน ส่วนที่สุโขทัย พนังกั้นน้ำยมพัง น้ำทะลักถนนทางหลวง บางจุดท่วมสูงกว่า 2 เมตร


เอาไม่อยู่ “อ่างเก็บน้ำบ้านหนอง” แตก!

ช่วงสายวันนี้ (26 ก.ย.) ชาวบ้านที่เฝ้าระวังเหตุมาตลอดคืน ได้ไลฟ์ภาพเหตุการณ์ขณะอ่างเก็บน้ำบ้านหนอง ต.น้ำโจ้ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ซึ่งเป็นอ่างขนาดเล็ก เกิดน้ำล้นสปิลเวย์และกัดเซาะบริเวณสันอ่าง ทำให้อ่างแตก มวลน้ำไหลลงลำน้ำจางจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ตอนล่าง คือ หมู่บ้านต๋อ บ้านสาด บ้านวังพร้าว บ้านแม่หลง จำนวนหลายหมู่บ้านที่อยู่ลุ่มต่ำ ทำให้ลำน้ำจางมีระดับน้ำสูงขึ้นจากเดิม โดยวัดปริมาณน้ำที่ฝายบ้านน้ำล้นบ้านต๋อ ต.น้ำโจ้ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ระดับน้ำสูงจากเดิมประมาณ 30-80 ซม. และเริ่มทรงตัว แต่มวลน้ำยังคงไหลแรง คาดว่าปริมาณน้ำจะไม่สูงไปกว่านี้


ด้านนายอำเภอแม่ทะ จ.ลำปาง กล่าวว่า อ่างเก็บน้ำดังกล่าวเป็นอ่างดินขนาดเล็ก 730,000 ลูกบาศก์เมตร รับน้ำมาจากอ่างแม่วะ แม่จาง และแม่ทะ หลังเกิดเหตุได้รายงานให้จังหวัดทราบ พร้อมแจ้งไปยังชาวบ้านที่อยู่ท้ายน้ำให้เตรียมรับมือมวลน้ำ และส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือชาวบ้านแล้ว

ส่วนที่ชุมชนสบปราบใต้ อ.สบปราบ จ.ลำปาง ชุมชนใกล้ริมแม่น้ำวัง และเป็นที่ลุ่มต่ำ ถูกน้ำแม่วังไหลทะลักเข้าท่วม ระดับน้ำสูงตั้งแต่ตาตุ่มไปจนถึงระดับคอ ชาวบ้านบางคนต้องว่ายน้ำเข้าบ้านตัวเอง เพราะเป็นห่วงบ้าน หน่วยกู้ภัย พระสงฆ์ และหลายหน่วยงาน เข้าให้การช่วยเหลือชาวบ้าน

กำนัน ต.สบปราบ เปิดเผยว่า น้ำวังไหลเอ่อท่วมบ้านของชาวบ้านเป็นวันที่ 3 แล้ว ตอนนี้ชาวบ้าน 170 หลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อน และหากมวลน้ำก้อนที่ 2 ไหลมาเพิ่มอีก คาดว่าระดับน้ำอาจเพิ่มสูงกว่าเดิมอีกเกือบเมตร


ขณะที่ อ.เกาะคา จุดเดิม คือ บ้านนาแส่ง นาแก้วตะวันตก ปริมาณน้ำแม่วังสูงขึ้นจากเดิมมาก โดยพบว่าเช้านี้ ระดับน้ำทุบสถิติสูงกว่าน้ำท่วมปี 54 ที่ลุ่มต่ำน้ำสูงเกิน 2 เมตรแล้ว จนบ้านชั้นเดียวไม่สามารถอยู่อาศัยได้

สุโขทัยอ่วม พนังกั้นน้ำพัง น้ำยมทะลักท่วมรอบ 2

ส่วนที่ จ.สุโขทัย จากภาพมุมสูงแสดงให้เห็นจุดที่กระแสน้ำจากแม่น้ำยม ที่พนังกั้นน้ำบริเวณสะพานสิริปัญญารัตน์ ในพื้นที่หมู่ 6 ต.วังใหญ่ อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย ไหลทะลักตัดเส้นทางถนนสายทางหลวง 1195 ตอน เตว็ดใน-วังไม้ขอน ระยะทางยาวเกือบ 1 กม. ต่อเนื่องพื้นที่หมู่ 6 ต.วังใหญ่ และหมู่ 8 ต.วังทอง อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร บางจุดสูงกว่า 2 เมตร ชาวบ้านได้รับผลกระทบกว่า 100 ครัวเรือน

ขณะเดียวกัน พื้นที่หมู่ 2 หมู่ 6 ต.คลองกระจง และหมู่ 3, 4, 6, 7 ต.ท่าทอง อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย กระแสน้ำในแม่น้ำยมที่มีระดับน้ำล้นตลิ่งไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนในที่ลุ่ม บางจุดน้ำท่วมสูงกว่า 1.50 เมตร นอกจากนี้ กระแสน้ำยังไหลผ่านข้ามถนนสายสวรรคโลก-ศรีสำโรง ทางหลวงหมายเลข 1195 ช่วง กม.25 ถึง กม.27 เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจรทั้งสองฝั่ง ตั้งแต่แยกทางเข้าสนามบินสุโขทัย จนถึงบริเวณสามแยกทางข้ามสะพานคลองกระจง เนื่องจากบางจุดน้ำท่วมถนนสูงกว่า 60 ซม. รถยนต์เล็กทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้

ชาวบ้านเล่าว่า น้ำท่วมรอบนี้เป็นรอบที่ 2 ภายใน 2 เดือน น้ำเริ่มล้นแม่น้ำยมเข้าท่วมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา น้ำมาเร็วและแรงมาก ส่วนปริมาณพอๆ กับน้ำท่วมครั้งที่ผ่านมา ซึ่งบ้านของตนอยู่บริเวณทางน้ำไหลผ่านพอดี ทำให้น้ำท่วมสูงเกือบถึงอก แต่ก็ต้องยอมเสี่ยงเดินลุยน้ำออกมา เพื่อมาหาซื้ออาหารและน้ำดื่ม

ล่าสุดปริมาณน้ำในแม่น้ำยม จากทางตอนเหนือของ จ.สุโขทัย ที่ อ.วังชิ้น จ.แพร่ มีมวลน้ำมหาศาลไหลบ่าตามแม่น้ำยมเข้าสู่พื้นที่ จ.สุโขทัย ในปริมาตร 1624.80 ลบ.ม./วินาที ทำให้ต้องมีการแจ้งเตือนประชาชนทั้งสองฝั่งแม่น้ำยม เตรียมพร้อมรับมือกับภาวะแม่น้ำยมล้นตลิ่งเข้าท่วมไปจนถึงวันที่ 28 ก.ย.นี้

“กว๊านพะเยา” น้ำล้นทะลักท่วมชุมชน

ส่วนที่ จ.พะเยา น้ำจากกว๊านพะเยาที่เกินความจุ ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนในเขตชุมชนเทศบาลเมืองพะเยา บางจุดระดับน้ำสูงกว่า 30 ซม. ขณะที่น้ำจากลำน้ำแม่ต๋ำ ไหลบ่าเข้าท่วมชุมชนแม่ต๋ำสายในอีกรอบ หลังจากที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องเมื่อวานนี้ ส่งผลให้อ่างเก็บน้ำแม่ต๋ำล้นสปิลเวย์ และไหลบ่าเข้าท่วมชุมชนแม่ต๋ำสายใน ขณะที่เมื่อคืนที่ผ่านมา น้ำเพิ่มระดับสูงขึ้นจนทะลักเข้าท่วมบริเวณถนนพหลโยธิน ช่วงสี่แยกแม่ต๋ำ แต่ช่วงสายวันนี้ ระดับน้ำเริ่มลดลง

ด้านสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองดอกคำใต้ น้ำจากลำน้ำร่องช้างยังคงไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนในเขตเทศบาลฯ เป็นวงกว้าง เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเมื่อวานนี้ บริเวณต้นน้ำ ส่งผลให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมเป็นรอบที่ 7 ในปีนี้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนเหนือ-กลาง-ตะวันออก ฝนตกหนักบางแห่ง กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

เสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก”

17 ก.ค. – หลายหน่วยงานรวมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ในงานเสวนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก” โดย บมจ.อสมท นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดงานสัมมนา “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” ยอมรับว่า นับว่าปัญหาเศรษฐกิจโลกกระทบมายังไทย จากภาษีศุลกากรของสหรัฐกระทบมายังประชาชน ผู้ผลิต เอสเอ็มอีรายย่อย ความร่วมมือของภาครัฐ เอกชน ประชาชน จึงต้องร่วมมือกันปลดล็อกอนาคตประเทศไทย…สู้วิกฤติโลก” โดยได้จัดเวทีใหญ่ให้ผู้กำหนดนโยบายและทิศทางของประเทศ และภาคเอกชน มาร่วมแสดงความเห็น ด้านเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในหัวข้อ เกาะติดมาตรการกระทรวงการเงินการคลัง พลิกฟื้นกำลังซื้อในประเทศ และแนวโน้มเศรษฐกิจ และสงครามการค้า ภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าทีมไทยแลนด์ นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง กำหนดเจรจากับผู้แทนการค้าสหรัฐช่วงค่ำวันนี้ ต้องชั่งน้ำหนัก ทั้ง 2 มิติ คือ ผลกระทบที่ผู้ส่งออก และผู้ผลิตในประเทศทั้งภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกร รัฐบาลไม่มอง เพียงจะเจรจาภาษีได้เท่าไหร่ ยอมรับไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ แต่จะสานประโยชน์ให้ตกกับทุกฝ่าย […]

ทบ. เร่งตรวจสอบวิเคราะห์ “ทุ่นระเบิด” คาดผลชัด 2-3 วัน

17 ก.ค.- โฆษก ทบ. แจงเร่งตรวจสอบเหตุกำลังพลเหยียบกับระเบิดชายแดนช่องบก คาดใช้เวลา 2-3 วัน ชัดเจนเรื่องชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ยังไม่ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยภายหลังได้รับทราบรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 กรณีเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.68) เกิดเหตุกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 6021 เหยียบกับระเบิดระหว่างการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ทำให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ปัจจุบันทุกนายอาการปลอดภัยอยู่ในระหว่างการพักสังเกตอาการที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเข้าพื้นที่เกิดเหตุและเก็บหลักฐาน มาดำเนินการวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียด ซึ่งขั้นตอนนี้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการนำทุ่นระเบิดมาติดตั้ง ตามที่สังคมได้ให้ข้อสังเกตว่าอาจเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกวางขึ้นใหม่ ไม่ใช่ทุ่นระเบิดที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่การสู้รบเดิม ทั้งนี้ โฆษกกองทัพบก ยังได้กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดน จะได้มีการตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่า ทางกัมพูชาได้มีการนำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะในปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชา ได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2542.-สำนักข่าวไทย