สโมสรราชพฤกษ์ 21 เม.ย. – “พีระพันธุ์” นำประชุมใหญ่พรรค รทสช. ประกาศเดินหน้าพรรคอย่างมั่นคง หวังชนะเลือกตั้งครั้งหน้า โดยใช้ดีเอ็นเอลุงตู่นำการทำงาน โวรื้อระบบพลังงานในรอบ 51 ปี วางแนวทางรัฐบาลกำหนดราคาน้ำมัน ไม่ต้องพึ่งตลาดโลก ด้าน “เอกนัฏ” ชู 250 เสียง หวังดัน “ลุงตุ๋ย” เป็นนายกฯ แบบไม่ส้มหล่น
พรรครวมไทยสร้างชาติ จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2567 ที่สโมสรราชพฤกษ์ กทม. โดยมีคณะกรรมการบริหารพรรคเข้าร่วมประชุม อาทิ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค รทสช. นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษา นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสุชาติ ชมกลิ่น นายธนกร วังบุญคงชนะ นายชัชวาลล์ คงอุดม สส.บัญชีรายชื่อ นอกจากนี้ ยังมี พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา คณะกรรมการสาขาพรรค ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด และสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
ในที่ประชุม นายพีระพันธุ์ กล่าวเปิดการประชุมด้วยการต้อนรับสมาชิก พร้อมกล่าวขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งพรรค โดยย้ำว่า การที่พรรคเลือกสโมสรราชพฤกษ์ จัดการประชุมครั้งนี้ เพื่อให้สมาชิกพรรคได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง หลังเป็นจุดเริ่มต้นในการประชุมก่อตั้งพรรคที่นี่ เมื่อปี 2566 อีกทั้งยังประกาศว่า พรรคจะเดินหน้าต่อด้วยความมั่นคง แม้จะเป็นน้องใหม่ นอกสายตา แต่การเลือกตั้งที่ผ่านมาก็ได้ สส. ถึง 36 คน ซึ่งกำลังหลักที่ทำให้พรรคมาถึงได้ในทุกวันนี้ เพราะลุงตู่ ซึ่งพวกเราไม่เคยลืม และด้วยเหตุผลความจำเป็นที่ท่านต้องไปทำงานที่ใหญ่กว่า ภาระจึงตกมาอยู่ที่ตนเองและสมาชิกทุกคน ว่าทำอย่างไรจะทำให้พรรค รทสช. เดินไปอย่างแข็งแกร่ง เป็นที่ยอมรับมากขึ้น และเมื่อลุงตู่พ้นตำแหน่งไปแล้ว ได้เห็นผลงานและความตั้งใจทำงานด้วยความซื่อสัตย์ โดยทุกคนต้องเก็บดีเอ็นเอของลุงตู่ไว้เป็นของรวมไทยสร้างชาติ เพื่อให้พรรคมั่นคง แต่จะทำอย่างไรให้ประชาชนเชื่อได้ว่าเป็นพรรคของประชาชน สู้ทุกปัญหา พึ่งพาได้เป็นจริง และพรรคเดินมาด้วยความมั่นคง และจะเดินต่อไป โดยจะสืบทอดตามแนวทางของ พล.อ.ประยุทธ์ ในเรื่องการตั้งใจทำงาน และเชื่อว่าการเดินมาในแนวทางนี้จะเห็นความตั้งใจในการทำงานและผลงานของพรรค รทสช. ที่จะทำให้พรรคแข็งแกร่งกว่านี้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งอยากให้พรรคชนะการเลือกตั้ง เพื่อให้พรรคปลดพันธนาการ และลดภาระประชาชน โดยตนเองและกรรมการบริหารพรรคจะสร้างผลงานให้มากขึ้นกว่าปีที่แล้ว
นายพีระพันธุ์ ยังกล่าวว่า ที่ผ่านมาไม่คิดว่าจะมาทำงานด้านพลังงาน เมื่อเข้ามาก็ทำให้เห็นว่า 51 ปีที่ผ่านมาได้เห็นระบบพลังงานของประเทศว่าอยู่มาได้อย่างไร เมื่อมาทำงานต้องรื้อทิ้งทั้งระบบ เพื่อให้ต่อจากนี้ไปจะไม่ให้มีการปรับราคาน้ำมันรายวัน แต่ต้องอยู่ที่รัฐบาล ไม่ใช่ตลาดโลก พร้อมปลดแอกประชาชนจากเรื่องค่าไฟ ด้วยการใช้พลังงานจากแสงแดด ด้วยการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป พร้อมกันนี้ พรรคยังได้ประสานขยายโครงการโคแสนล้านตัว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร
จากนั้น นายเอกนัฏ กล่าวตอนหนึ่งในการประชุมใหญ่ของพรรคว่า แรงบันดาลใจทางการเมืองของตน หากพูดไปแล้วใครไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ นักการเมืองที่ตนได้ฟังคำปราศรัยคนแรกในชีวิต คือ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ตอนนั้นลงสมัคร สส.กรุงเทพฯ แต่ตนเชื่อว่าเมื่อชะตาลิขิตแล้ว เราสองคนทำอะไรด้วยกัน มันก็จะเกิดความสำเร็จ จากพรรคการเมืองที่ถูกปรามาสว่าจะมี สส.แม้แต่คนเดียวหรือเปล่า แต่วันนี้ได้รับคะแนนเสียงจากการเลือกตั้ง 5 ล้านเสียง ซึ่งถือว่ามากสุดสำหรับพรรคการเมืองหนึ่งที่ตั้งขึ้นใหม่ และมี สส. 36 ที่นั่ง สานต่อจิตวิญญาณของลุงตู่ แต่ตนก็เชื่ออีกว่า นายพีระพันธุ์ เป็นคนที่มีวาสนา ซึ่งตนจะขอทำหน้าที่ในฐานะด้อมพีระพันธุ์ เพื่อปั้นนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค แต่เราไม่หวังให้เป็นนายกรัฐมนตรีส้มหล่น ไม่เอา เที่ยวนี้เรามี สส. เพียง 36 ที่นั่ง เราก็ทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด เราไม่หวังให้นายพีระพันธุ์ มาเป็นนายกฯ ส้มหล่นในรอบนี้ แต่ตนหวังว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไป ขอให้เราสู้ช่วยกัน 36 ที่นั่งไม่พอที่จะเสนอและตั้งนายกรัฐมนตรีได้ แต่ 250 ที่นั่งคือเป้าหมาย ฉะนั้นขอให้ทุกท่านช่วยกัน
ส่วนกระแสข่าวปรับ ครม. นายเอกนัฏ ระบุว่า ตนเองได้คุยกับหัวหน้าพรรค รทสช. ว่า พรรครวมไทยสร้างชาติเดินมาด้วยระบบกลไกที่มีมาตรฐาน ดังนั้น วันนี้ไม่ต้องไปฟังข่าวลือในเรื่องต่างๆ ที่สื่อคาดการณ์กัน อาทิ ชื่อรัฐมนตรี และว่าที่รัฐมนตรีทั้งหลาย วันนี้มาอยู่ที่นี่พร้อมกันหมด ทั้งนี้ ตนขอยืนยันว่า พรรคเดินมาถึงวันนี้ได้เพราะความเสียสละ เพราะฉะนั้น รัฐมนตรีและ สส. ทุกคนไม่มีใครติดและยึดกับตำแหน่ง ซึ่งหัวหน้าพรรคก็พูดเสมอว่าไม่ยึดติด เพราะฉะนั้นผู้ที่มีตำแหน่งทั้งหมดขอให้สำนึกว่า เรามาจากพี่น้องประชาชน และทำงานเข้มแข็งให้กับประเทศชาติบ้านเมือง
ทั้งนี้ ที่ประชุมพรรคได้พิจารณาวาระรับรองรายงานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2566 รับรองงบการเงินประจำปี 2566 ครั้งที่ผ่านมา และพรรค รทสช. ยังเปิดตัวทีม “อาสามาด้วยใจ” ซึ่งเป็นการรวมตัวของกลุ่มคน อาทิ อินฟลูเอนเซอร์ นักวิชาการ คนรุ่นใหม่ ที่เป็นที่ต้องการมาทำงานช่วยเหลือ โดยจะใช้โซเซียลสร้างฐานเสียงและแนวร่วมในการขับเคลื่อนพรรคต่อไป หลังจากก่อนหน้านี้พรรค รทสช. มักถูกโจมตีโดยใช้โซเชียลมีเดียบิดเบือนข้อมูล โดยเฉพาะการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ผ่านมา โดยทีมอาสามาด้วยใจได้เปิดตัวนายสุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ผู้ดำเนินรายการคนค้นฅน ที่พร้อมสนับสนุนการทำงานของพรรค
อย่างไรก็ตาม นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค รทสช. ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค เนื่องจากมีภารกิจอื่นหลายประการ ทำให้ไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ โดยขอให้มีผลตั้งแต่วันที่ 21 เมษายน 2567 เป็นต้นไป.-314-สำนักข่าวไทย