พะเยา 19 มี.ค.-ครม.สัญจร จ.พะเยา อนุมัติงบ 300 ล้านบาท พัฒนากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน นายกฯ สั่งดูแลสินค้าเกษตรภาคเหนือ คุมเผาไร่ข้าวโพด 3 กระทรวงดูแลลำไยครบวงจร
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ (ครม.สัญจร) จ.พะเยา วันนี้ (19 มี.ค.) เห็นชอบตามข้อเสนอของคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) จังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (จ.น่าน แพร่ พะเยา และเชียงราย) เสนอโครงการพัฒนา 4 จังหวัด โดยเป็นโครงการเร่งด่วน 15 โครงการ วงเงิน 300 ล้านบาท ดำเนินการได้ทันทีภายในช่วง 1 ปี แบ่งเป็นโครงการของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด 11 โครงการ วงเงิน 250 ล้านบาท ส่วนโครงการข้อเสนอของภาคเอกชน 4 โครงการ วงเงิน 145 ล้านบาท เพื่อนำเสนอจัดสรรงบประมาณในปี 2568 รวมทั้งรับทราบโครงการสำคัญที่เป็นความต้องการของ กรอ.กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 รวม 89 โครงการ วงเงิน 90,558 ล้านบาท เพื่อจัดลำดับความสำคัญโครงการต่อไป เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นที่และแหล่งท่องเที่ยว เช่น การศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมสนามบินดอกคำใต้ จ.พะเยา 100 ล้านบาท โครงการพัฒนาศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงอาหาร Gastronomy tourism สู่การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน 20 ล้านบาท โครงการ A Cup to Village เพิ่มขีดความสามารถการเป็นนวัตกรด้านชาและกาแฟ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน 15 ล้านบาท
นายชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า นายกรัฐมนตรี ยังสั่งการกระทรวงพลังงาน เสนอ กพช. จัดทำแนวทางส่งเสริมการซื้อขายพลังงานสะอาดระหว่างภาคเอกชนด้วยกันเองโดยตรง เพื่อสร้างความชัดเจน เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีแผนรองรับชัดเจน หลังจากนักธุรกิจสหรัฐเข้าพบนายกรัฐมนตรี และเรียกร้องให้รัฐบาลมีมาตรการออกมารองรับอย่างชัดเจนในการจัดซื้อ-ขาย พลังงานสะอาด เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ
นอกจากนี้ เมื่อร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด ผ่านสภาฯ แล้ว ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ ออกประกาศห้ามนำเข้าข้าวโพดจากประเทศเพื่อนบ้าน หากตรวจพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผาไร่ข้าวโพดตามแนวชายแดน เพื่อลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 พัดกระจายเข้ามายังไทย
นายกรัฐมนตรี ยังสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ จับมือร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงเกษตรฯ เตรียมแผนรองรับอีก 3 เดือนข้างหน้า ลำไยจะออกสู่ตลาดจำนวนมาก และมีปัญหาผลผลิตล้นตลาดทุกปี เพื่อร่วมบริหารจัดการทั้ง 3 กระทรวง อย่างครบวงจร ทั้งต้นน้ำถึงปลายน้ำ ในการแปรรูปผลผลิต หวังดูแลลำไยในภาคเหนือไม่ให้ได้รับผลกระทบ.-515 สำนักข่าวไทย
