กรุงเทพฯ 30 พ.ย. -“อัยการสูงสุด” เด้ง “อัยการ บ.” เข้ากรุ เตรียมสอบอัยการเรียกรับเงิน 5 แสนบาทหรือไม่ ส่วนรายชื่อแก๊งตำรวจอุ้ม “จรวด” ยันมีคำสั่งฟ้องไปแล้ว อยู่ระหว่างดำเนินการ
นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์ ผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนของ “แป้ง นาโหนด” ที่เรียกร้องความเป็นธรรมจาก 3 หน่วยงานต่ออัยการสูงสุด เพื่อให้ทำการตรวจสอบกรณีคำกล่าวอ้างของ “เสี่ยแป้ง” ที่เกี่ยวข้องกับอัยการ เรียกรับสินบนจำนวน 5 แสนบาท และกรณีอัยการ บ. โดยมีทีมโฆษกอัยการสูงสุดเป็นผู้รับหนังสือ
โดยนายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า เรื่องที่นายแป้ง เผยแพร่คลิปซึ่งมีการพาดพิงถึงพนักงานอัยการในพื้นที่อัยการภาค 9 เรื่องดังกล่าวอัยการสูงสุดไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการติดตามตรวจสอบมาก่อนหน้านี้ ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางอัยการสูงสุดเคยได้รับเรื่องจากมือที่ 3 หรือผู้ไม่หวังดีนำหนังสือดังกล่าวไปวางไว้ที่ศาลแขวงจังหวัดสงขลา เพื่อให้ทำการตรวจสอบ ก่อนที่จะมีคลิปเผยแพร่ออกมาในช่วง 3 สัปดาห์ หลังจากนั้นอัยการสูงสุดได้ทำการตรวจสอบทันที ซึ่งพบว่านายเลอศักดิ์ อัยการผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานอัยการภาค 9 รักษาการตำแหน่งอัยการจังหวัดคดีศาลแขวงสงขลา ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง คาดว่าเป็นการยื่นหนังสือจากบุคคลที่ 3 หรือผู้ไม่หวังดี ซึ่งสอดคล้องกับที่นายแป้ง เผยแพร่คลิปว่าไม่ได้มีผู้ร้องเรียนอัยการจังหวัดคดีศาลแขวงสงขลา
ส่วนกรณี อัยการ บ. หลังจากที่อัยการสูงสุดสั่งสำนักงานวิชาการให้รับสำนวนคดีนายแป้ง ที่กล่าวหา อัยการ บ. มาตรวจสอบเมื่อวันอังคารที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาสำนวน ซึ่งเช้าวันนี้ (30 พ.ย.) อัยการสูงสุดมีคำสั่งย้าย อัยการ บ. เข้ามาส่วนกลาง หรือสำนักงานอัยการการค้ามนุษย์ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อไม่ให้เกี่ยวข้องกับงานคดี โดยยืนยันว่าการสั่งย้ายไม่ได้หมายความว่า อัยการ บ. มีความผิดแต่ย้ายเพื่อให้การตรวจสอบเป็นไปด้วยความโปร่งใสและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน
นายประยุทธ กล่าวอีกว่า ส่วนการตรวจสอบมี 2 สำนวน โดยขณะนี้กรณีที่นายแป้ง เป็นโจทก์ยื่นฟ้องตำรวจชุดจับกุม 8 นาย พลเรือน 1 นาย ในกรณีอุ้มรีดทรัพย์และกักขังหน่วงเหนี่ยว แลกกับการไม่ดำเนินคดีนั้น ขณะนี้พนักงานอัยการได้มีความเห็นสั่งฟ้องไปเมื่อวันที่ 13 กันยายน 66 และอยู่ระหว่างนัดนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาฟ้องพร้อมสำนวนในวันที่ 22 ธันวาคมนี้ ในข้อหา ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157, กักขังหน่วงเหนี่ยว และข้อหาอื่นๆ รวม 10 ข้อหา
ส่วนประเด็นที่นายแป้ง อ้างว่าอัยการฯ เรียกรับผลประโยชน์ เป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท ในส่วนข้อกล่าวหาจะต้องรอคณะกรรมการที่อัยการสูงสุดตั้งขึ้นมาตรวจสอบในประเด็นที่นายแป้งร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม แล้วทางอัยการจะมีการชี้แจงถึงผลการสอบสวนอีกครั้ง ส่วนจะมีการสั่งย้ายอัยการที่ถูกกล่าวอ้างหรือไม่นั้นมองว่าเรื่องนี้ยังไกลไปที่จะมีคำสั่งได้ จะให้เหมือนการสั่งย้าย อัยการ บ.เลยไม่ได้ ส่วนการที่สังคมทำไมต้องเชื่อจากจดหมายร้องเรียนของนายแป้ง แล้วถึงลงไปตรวจสอบ ยืนยันว่าไม่ใช่แบบนั้น แต่มองว่าการตรวจสอบ หากมีคนท้วงติงในเรื่องสั่งคดี อีกทั้งเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ ทางอัยการสูงสุดจึงให้ความสำคัญที่จะต้องทำให้มันโปร่งใส เพื่อตอบกลับสังคมให้ได้. – 414-สำนักข่าวไทย