ทำเนียบรัฐบาล 16 ส.ค.-นายกฯ ลงพื้นที่ จ.สระบุรี ตรวจเยี่ยมโครงข่ายคมนาคมระบบราง บอกรถไฟมีหลายขบวน ไม่ใช่ขบวนสุดท้าย เหมือนประเทศชาติที่ต้องเดินหน้าไม่สิ้นสุด ถ้าหัวขบวนดีก็ไปได้ ถ้าหัวขบวนไม่ดี ก็ล้มทั้งขบวน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่จังหวัดสระบุรี ตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ อุโมงค์ที่ 1 (อุโมงค์ผาเสด็จ) ณ พื้นที่โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ฯ สถานีรถไฟหินลับ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี โดยรับฟังรายงานความคืบหน้าโครงการก่อสร้างฯ จากนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย
นายกรัฐมนตรีนั่งขบวนรถไฟจัดเฉพาะบชส. 1221 หมายเลข 3 ระยะทาง 300 เมตร ตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้าง ขณะกำลังจะเดินขึ้นรถไฟนายกรัฐมนตรีได้โบกมือให้กับประชาชน และเมื่อนั่งประจำที่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้นั่งรถไฟมาหลายปีแล้ว นั่งตั้งแต่เด็ก เนื่องจากบ้านพ่ออยู่ลพบุรี และตนชอบกินอาหารข้างทาง เช่น ข้าวเหนียวเนื้อ ที่มาขายอยู่บริเวณด้านล่าง ก่อนถามสื่อมวลชนว่ามีอะไรขายบ้าง สื่อจึงตอบกลับว่า ไม่มี ยังไม่เปิด
เมื่อถามว่า ภูมิใจกับผลงานหรือไม่พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า ก็ต้องภูมิใจ ภูมิใจไปด้วยกัน ไม่ใช่ว่ากันไปกันมาก็ไม่สำเร็จ
ส่วนจะถือว่าเป็นรถไฟขบวนสุดท้ายใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ถามกลับว่า อะไรขบวนสุดท้าย มีตั้งหลายขบวน รถไฟไม่มีวันสิ้นสุดอยู่แล้ว ประเทศชาติต้องเดินหน้าไม่สิ้นสุดอยู่แล้ว ทุกคนต้องช่วยกันทำ ไปข้างหน้าได้ เพราะฉะนั้นรถไฟยังมีหัวขบวนเลย ถ้าหัวขบวนดีก็ไปได้ตลอด ถ้าหัวขบวนไม่ดีก็ล้มทั้งขบวน ไปไม่ได้ เข้าใจหรือไม่
ส่วนจะฝากถึงรัฐบาลใหม่อย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่เกี่ยวกับเขา เรื่องของเขา ในส่วนตนทำไว้หมดแล้ว
สื่อเล่าว่า วันนี้อากาศดีและพระอาทิตย์ทรงกลดด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โชคดีของสื่อ ให้ประเทศชาติโชคดีแล้วกัน
เมื่อถามว่าโครงการดังกล่าวเป็นไปตามแผนที่วางไว้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ใช่ เร็ว ๆ นี้ช่วงนี้จะเสร็จแล้ว เพราะเป็นหลายช่วง ซึ่งการก่อสร้างไม่ง่ายนัก จากเดิมที่วิ่งได้ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ปัจจุบันจะวิ่งได้ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะทำให้การขนส่งสินค้า การเดินทางเร็วขึ้น รวมถึงเชื่อมต่อกับรถไฟความเร็วสูงที่จังหวัดหนองคาย ซึ่งจะแก้ไขปัญหาคอขวดให้หายไป เพราะตรงนี้เป็นพื้นที่คอขวด เนื่องจากเป็นภูเขา จึงทำให้รถไฟวิ่งช้า
“การที่ผมพูดเยอะก็จะทำให้ทราบถึงรายละเอียด ถ้าจับตรงนี้มาพูด คนนู้นพูด ก็ตีกันอยู่แบบนี้ สื่อก็ต้องช่วยหาเหตุหาผลว่ามันใช่หรือไม่ใช่ ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร จะได้ไม่ทะเลาะกัน และใครได้ประโยชน์ นายกฯ ได้หรือไม่ ไม่ได้หรอก ผลที่ได้คือประชาชน รัฐบาลก็ต้องทำแบบนั้น ใช้งบประมาณให้สมดุล” นายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถามว่าที่พูดหมายถึงฝากไปถึงรัฐบาลใหม่ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ต้องฝาก ส่งต่อไปแล้ว บางเรื่องอยู่ในขั้นตอนการศึกษา บางเรื่องเป็นโครงการอยู่แล้ว หวังว่าจะทำต่อ
เมื่อถามถึงนายอนุทิน ซึ่งนั่งอยู่เก้าอี้หลังนายกรัฐมนตรี ว่าจะให้พรรคภูมิใจไทยสานต่องานในรัฐบาลหน้าใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ให้ถามนายอนุทิน ขณะที่นายอนุทิน เพียงแต่หัวเราะและบอกให้สื่อมวลชนระวังรถไฟ
ส่วนที่พรรคก้าวไกลเสนอให้รัฐบาลทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ นายกรัฐมนตรียังไม่ทันได้ตอบ รถไฟได้เคลื่อนขบวนออก นายกรัฐมนตรีได้โบกมือให้สื่อมวลชน โดยกล่าวว่า ลาก่อน
นายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังอุโมงค์มวกเหล็ก ตรวจเยี่ยมโครงการความร่วมมือระหว่างไทย – จีน ในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูงเพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพฯ – หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ – นครราชสีมา) และจะเดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทรกษัตริยาธิราช ต.มิตรภาพ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร.-สำนักข่าวไทย