กทม. 5 พ.ค.-เฉลยแล้ว ญาติที่ “แอม” ร้องขออยากพบ คือทนายความ ล่าสุดเดินทางมาพบที่ทัณฑสถานหญิงกลางแล้ว เจ้าตัวเชื่อลูกความไม่เกี่ยวกับคดีการตายของก้อย “บิ๊กโจ๊ก” เผย “แอม” ไว้ใจและสนิทกับทนายความมาก
นางสาวธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ทนายความของแอม เดินทางมาที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เพื่อเข้าพบกับ นางสาวสรารัตน์ หรือแอม ลูกความของตัวเอง หลังจากที่พนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีติดต่อไปว่า นางสาวแอม อยากพบ แต่ไม่ได้บอกว่าอยากพบเพราะอะไร วันนี้จึงตั้งใจมาหาตามคำขอ พร้อมทั้งแจ้งสิทธิ์ให้ลูกความทราบ โดยยังคงยืนยันว่าลูกความตัวเองไม่ได้กระทำความผิดในคดีการเสียชีวิต ของนางสาวก้อย ซึ่งทนายเองก็ยืนยันว่ามีหลักฐานชัดเจนเช่นเดียวกัน ว่านางสาวแอมไม่ได้วางยาฆ่านางสาวก้อย แต่ในส่วนคดีอื่นๆ อีก10 กว่าคดี ยังไม่ได้พูดคุยกับแอม แต่จากหลักฐานพยานที่สื่อมวลชนแต่ละสำนักนำเสนอ ก็เชื่อได้ว่า “แอม” อาจมีส่วนเกี่ยวข้องจริง ต้องรอวันนี้ที่จะเข้าไปสอบถามข้อเท็จจริง หากพบว่า “แอม” กระทำผิดจริง ก็จะบอกให้ลูกความยอมรับสารภาพในคดีที่เหลือ ยกเว้นคดีของนางสาวก้อย ที่ยืนยันว่าจะไม่มีการรับสารพภาพในชั้นสอบสวนเด็ดขาด หากจะยอมรับจริงๆ ก็จะไปยอมรับในชั้นศาลเท่านั้น เนื่องจากทางฝั่งแอม ก็มีพยานวัตถุและพยานบุคคลในคดีก้อย ที่เชื่อได้ว่าไม่เกี่ยวข้องจริงๆ
เมื่อนักข่าวถามถึงพยานหลักฐานที่ตำรวจมีคือขวดไซยาไนด์ จากบุคคลที่นำมามอบให้กับตำรวจเป็นพยานในคดีนี้นั้น ทนายความระบุว่า คงต้องรอดูการเบิกความพยานคนดังกล่าวว่าจะเป็นบุคคลที่อยู่กับร่องกับรอยหรือไม่
ในส่วนที่ผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็น มรรยาททนายความ ว่า หากทนายเห็นว่ามีช่องว่างทางกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับลูกความ ก็จะชี้ช่องทางให้หรือไม่ ซึ่งทนายตอบว่า ทุกอย่างที่เป็นประโยชน์กับลูกความก็จะทำทั้งหมด ซึ่งส่วนตัวก็มองว่า แอมไม่น่าจะรับสารภาพอย่างแน่นอน พร้อมยอมรับบุคคลที่แอมร้องขอกับตำรวจว่าอยากพบ คือตัวเอง และตัวเองเป็นบุคคลที่แอมไว้ใจที่สุด โดยบอกว่า รู้จักกันมานานประมาณปีกว่าๆ ที่ผ่านมาปรึกษาทุกอย่างตลอด
ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่วันนี้ญาติคนที่ไว้ใจของแอม ผู้ต้องหาในคดีฆ่าวางยาไซยาไนด์ ที่แอมร้องขอให้เข้าพบนั้น คือ ทนายความ โดยทางตำรวจก็ได้เปิดให้ “แอม” ได้พูดคุยกับทนายความ ซึ่งเป็นคนที่ไว้ใจก่อน เพราะในบางเรื่อง “แอม” ก็ไม่ได้พูดความจริงกับอดีตสามีคือ พ.ต.ท.วิฑูรย์ หรือรองอ๊อฟ อดีตรองผู้กำกับการสอบสวนทั้งหมด และทนายความก็ทำอะไรร่วมกับ “แอม” มาหลายอย่าง เป็นเพื่อนกันมา มีอะไร “แอม” ก็จะบอกทนายความคนนี้ เลยขอให้ “แอม” ได้คุยกับทนายความก่อน แล้วในวันพรุ่งนี้ ตนเองจะเดินทางมาสอบปากคำ “แอม” ที่ทัณฑสถานหญิงกลางอีกครั้ง เพราะ “แอม” รับปากว่าหลังจากได้คุยกับทนายแล้วจะรับสารภาพ ส่วนจะรับในประเด็นไหน อย่างไร ต้องรอเข้าสอบปากคำ
ขณะที่ความคืบหน้าทางคดี วันนี้พนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดี “แอม ไซยาไนด์” ทยอยเดินทางเข้ามาที่สโมสรตำรวจ หลังจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้นัดประชุมในช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. โดยที่ประชุมวันนี้คาดว่าจะมีประเด็นสำคัญในการประชุม คือ การตรวจสอบเส้นทางการเงินของรองอ๊อฟ และ “แอม” ว่ามีความเชื่อมโยงกันมากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะกรณีที่ “แอม” ได้เงินมาจากเหยื่อและนำทรัพย์สินไปจำนำในที่ต่างๆ รวมถึงประเด็นที่ “รองอ๊อฟ” รับสารภาพกับรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าเป็นหนี้ถึง 4 ล้านบาทด้วย แต่ในระหว่างที่ใช้ชีวิตคู่อยู่กับ “แอม” นั้น “แอม” สามารถนำเงินมาปลดหนี้จำนวนดังกล่าวให้ ซึ่งถือว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นเงินจำนวนมากที่ “รองอ๊อฟ” ไม่รู้ว่า “แอม” เอามาจากไหน จึงเป็นเรื่องที่น่าสงสัย
อีกทั้งในส่วนของ “แอม” ที่ได้เงินมาจากเหยื่อหลายรายที่เสียชีวิต แต่ตำรวจยังไม่มีหลักฐานว่าเงินดังกล่าว “แอม” เอาไปใช้จ่ายกับครอบครัวหรือมีการโอนไปยังบัญชีที่ 3 หรือไม่ (บัญชีม้า) ซึ่งเรื่องดังกล่าวต้องหาความเชื่อมโยงให้ได้ จึงจะสามารถหาคำตอบได้ว่า “รองอ๊อฟ” มีส่วนพัวพันกับเรื่องเงินของผู้เสียชีวิตหรือไม่
นอกจากนี้ยังมีประเด็นตัวละคร ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการใช้สารต้านพิษ ต้องมีความรู้ในการฉีดเข้าเส้นเลือด ส่วนจะเชื่อมโยงไปถึงบุคคลใดที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพี่สาวหรือไม่ อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน รวมทั้งคำตอบของกรณีทนายความเดินทางเข้าพบด้วย โดยพรุ่งนี้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะเข้าไปสอบปากคำ “แอม” ด้วยตัวเองอีกครั้งที่ทัณฑสถานหญิงกลาง หลังจาก “แอม” รับปากว่าขอเจอญาติสนิท ที่เป็นผู้หญิงคนดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย