“แอม ไซยาไนด์” ถูกออกหมายจับเพิ่มอีก 2 คดี

3 พ.ค. – มหากาพย์คดี “แอม ไซยาไนด์” ตอนนี้ตำรวจยังยืนยันมีผู้ต้องหาเพียงคนเดียว ออกหมายจับไปแล้ว 12 หมาย และเช้านี้ออกเพิ่มอีก 2 หมาย แต่ในหมายจับนี้เป็นของแอมทั้งหมด ยังไม่เกี่ยวข้องกับผู้ร่วมขบวนการที่เป็นตำรวจซึ่งเป็นคนใกล้ชิดแอม


คดีนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เปิดเผยกับทีมข่าวภายหลังเรียกประชุมชุดสืบสวนที่เกี่ยวข้องในทุกภาคส่วนว่า เดิมทีคดีนี้ออกหมายจับแล้ว 12 หมาย ในคดีของบี , เอ๊ะ, จุ๋ม, ผู้กองนุ้ย , ครูต่าย , นิด , ครูอ๊อด , แด้ , ก้อย , สารวัตรปู , น้อยขายผัก และปลา

แต่ล่าสุดมีการออกหมายจับเพิ่มอีก 2 หมายกับแอม ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน คือคดีของ น.ส.ดาริณี หรือ ฟ้า อายุ 34 ปี ที่เสียชีวิตภายในบ้านพัก อ.สามพราน จ.นครปฐม เหตุเกิดวันที่ 13 ธันวาคม ปี 63 และอีกหมายคือคดี น.ส.สาวิตรี หรือ หนิม อายุ 40 ปี ภรรยานายดาบตำรวจ ตม.บึงกาฬ ที่เสียชีวิตในพื้นที่มุกดาหาร เมื่อวันที่ 25 พดฤศจิกายน ปี 2563 ทำให้ขณะนี้เหลือเพียงคดีของเหยื่อชื่อ มณฑาทิพย์ หรือ ทราย ในพื้นที่ สน.ทองหล่อ เท่านั้น อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำพยานในช่วงไทม์ไลน์ที่หายไป หลังแอมไปรับทรายก่อนกลับมาที่คอนโดแล้วชีวิต


เค้นสอบคนใกล้ชิดแอม ยังให้การปฏิเสธ
ส่วนคนที่ร่วมกระทำความผิดในคดีแอม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่าเป็นตำรวจที่ใกล้ชิดแอม ตำรวจนายนี้เคยเรียกมาสอบแล้ว 1 ครั้ง เพราะพบความเชื่อมโยงเรื่องเส้นทางการเงิน การใช้โทรศัพท์ และพฤติกรรมอื่นๆ ทำให้คาดว่าจะออกหมายจับได้เร็วๆ นี้

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้หลุดปากพูดว่า ชุดสืบได้เรียก พันตำรวจโท สามีเก่าแอม มาสอบปากคำเพิ่ม เพราะเป็นคนที่ขับเก๋งสีขาวไปรับแอมที่อุดรธานี หลังแด้เสียชีวิต จากนั้นนำรถไปจำนำในพื้นที่นครปฐม ส่วนการตรวจไทมไลน์ ยังพบว่าแอมมักก่อเหตุในช่วงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และเมื่อก่อเหตุแล้ว จะกลับมาหาคนใกล้ชิดทุกครั้ง และจะไปต่างจังหวัดด้วยกัน ตำรวจคาดว่าเป็นการสร้างหลักฐานที่อยู่ในการเบี่ยงเบนคดี นอกจากนี้การสืบหาหลักฐานเพิ่ม ทำให้พบว่าแอมเป็นหนี้บัตรเครดิต ถูกทวงหนี้ ติดแบล็กลิสต์เครดิตบูโร ที่เกิดจากการเล่นพนันออนไลน์ แต่ตำรวจที่เป็นสามีเก่ามีหนี้ด้วยหรือไม่ กำลังเร่งสอบสวน เพราะตอนนี้ทั้งแอมและสามีเก่าให้การไม่ตรงกัน โดยเฉพาะสามีเก่ายังคงปฏิเสธในทุกเรื่อง

สอบสามีเก่าแอม “ข้ามคืน” แต่ปล่อยตัวไปแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม เปิดเผยข้อมูลล่าสุดกับนักข่าวว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำสามีเก่าแอมข้ามคืน เจ้าตัวให้การเป็นประโยชน์กับคดีเป็นอย่างมาก บางข้อมูลสามารถเชื่อมโยงไปถึงคดีอื่นๆ ที่ตำรวจยังไม่ได้ออกหมายจับกับแอมด้วย และภายหลังสอบปากคำ สามีเก่าแอม ได้กลับออกไปเมื่อเวลาประมาณ 08.00 น.


สามีเก่าแอมให้การเป็นประโยชน์ จดบันทึกได้เกิน 10 หน้า
ส่วนการให้ปากคำของสามีเก่าที่ไม่ตรงกับครั้งแรก มองว่าเป็นเพราะครั้งแรกตำรวจที่ทำหน้าที่สอบปากคำยังไม่รู้รายละเอียดของคดีมากนัก ทำให้การถามยังไม่เจาะจง แต่ครั้งนี้ให้ปากคำตามรายละเอียดที่ตำรวจต้องการได้ครบถ้วน ทำให้ผลสอบเบื้องต้นมีการจดบันทึกเกินกว่า 10 หน้า ข้อมูลตรงนี้จะตรจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนส่งให้คณะทำงานของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ภายในวันนี้

ส่วนประเด็นเว็บพนันและบัญชีม้าที่อาจเกี่ยวข้อง มีรายงานว่า ชุดสืบกำลังเร่งรวบรวมหลักฐานของเว็บทั้งหมดที่แอมและบุคคลใกล้ชิดที่ร่วมเล่น เพื่อนำไปตรวจสอบประเด็นเส้นทางการเงิน และย้ำว่าขณะนี้ยังคงให้น้ำหนักกับการคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของเหยื่อแอมทั้งหมดเป็นอันดับแรก รวมไปถึงคนร่วมกระทำความผิดที่ทำให้เหยื่อเสียชีวิตและเกือบเสียชีวิต

“บิ๊กโจ๊ก” ลั่นเย็นนี้ออกหมายจับคนใกล้ชิดแอม
ส่วนช่วงบ่ายวันนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะเรียกพยานปากสำคัญที่เกี่ยวข้องกับแอมมาให้ปากคำเพิ่ม ก่อนพิจารณาออกหมายจับบุคคลใกล้ชิดช่วงเย็นวันนี้ ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่าจะมีการออกหมายจับอย่างแน่นอน

ขณะที่การประชุมชุดคลี่คลายคดี ร่วมกับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในเวลา 15.00 น. จะเป็นการรายงานผลความคืบหน้าทางคดีทั้งหมด โดยเฉพาะการสืบสวนประเด็นที่เกี่ยวข้องทั้งเรื่องหนี้สิน บัญชีม้า การทำประกันชีวิต ผลการตรวจสอบวัตถุพยาน ทำให้การประชุมครั้งนี้จะมีทั้งตำรวจในพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 7 ตำรวจจากกองบังคับการปราบปราม ตำรวจภูธรภาค4 และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เข้ามาร่วมประชุม

ค้นโกดังนำเข้า “ไซยาไนด์” ควานหาหลักฐานเอาผิดแอม
เจ้าหน้าที่บุกตรวจค้นโกดังนำเข้า “ไซยาไนด์” ย่านลาดกระบัง หลังพบเลขการผลิตตรงกับขวดไซยาไนด์หลักฐานที่แอมนำไปใช้ก่อเหตุ โกดังแห่งนี้เป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น 2 คูหา ด้านหน้าปิดประตูเหล็กเอาไว้ ส่วนด้านในมีกล่องเก็บผลิตภัณฑ์ต่างๆจำนวนมาก และการตรวจค้นเบื้องต้น ไม่พบสารไซยาไนด์ แต่มีข้อมูลว่ามีการจำหน่ายจริง ซึ่งทางบริษัทให้การว่า บริษัทจะรับสารไซยาไนด์ต่อมาจากบริษัทที่นำเข้ามาอีกทีหนึ่ง แล้วนำมาจำหน่ายให้กับผู้ซื้อ ซึ่งไม่ได้มีการสตอกสินค้า แต่จะต้องให้ผู้ซื้อสั่งสินค้าเข้ามาแล้วจึงจะสั่งจากบริษัทนำเข้ามาแล้วส่งให้ผู้ซื้อทันที โดยตำรวจบอกว่า การซื้อขายสารไซยาไนด์ในปริมาณไม่เกิน 1,000 กิโลกรัม หรือ 1 ตัน ไม่ต้องมีใบอนุญาต ยอมรับว่าจุดนี้เป็นช่องโหว่ให้บุคคลทั่วไปสามารถครอบครองและซื้อขายสารดังกล่าวได้

ตรวจร้านทอง หาเบาะแสแอมเอาทรัพย์สินไปขาย
นอกจากค้นโกดังแล้ว ตำรวจยังไปลุยตรวจร้านทองหาทรัพย์สินเหยื่อ “แอม” ถูกเอามาจำนำ โดยที่ราชบุรี ตำรวจ สภ.โพธาราม ไปที่ร้านทอง และนำรูปถ่ายของแอม ให้ทางผู้ประกอบการร้านทองตรวจสอบว่าเคยนำทองมาขายหรือจำนำหรือไม่ เพื่อหาหลักฐานเชื่อมโยงเรื่องทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตหลายรายที่หายไป

ส่วนการตรวจสอบยาสมุนไพรที่เจ้าหน้าที่ยึดได้จากบ้านพี่สาวของแอม เมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา เบื้องต้นทราบว่าตรวจสอบยาทั้งในขวดโหลและในแคปซูลเป็นสมุนไพร ไม่มีส่วนผสมของไซยาไนด์ แต่ที่อยู่ในกล่องพัสดุนั้น กำลังตรวจสอบ

อ.อ๊อด เร่งตรวจหลักฐานนำไปประกอบสำนวนคดี
ข้อมูลของ รศ.ดร.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรืออาจารย์อ๊อด เพราะเป็นผู้ตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานเพื่อหาสารพิษไซยาไนด์เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี ที่เมื่อวานได้โพสต์ภาพรถโตโยต้า รุ่น วีออส สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนนครปฐม ของแอม โดยในภาพมีทั้งหมด 3 ซอง พบสาร KCN เท่ากับโพแทสเซียมไซยาไนด์ ตรวจด้วยเทคนิคไอออนโครมาโตกราฟี่ (Ionchromatography) (IC) พบซองละ 15 มิลลิกรัม มีผลทำให้คนเสียชีวิตได้ภายใน 6-10 นาที

นอกจากนี้ อาจารย์อ๊อด ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบวัตถุพยานซึ่งเป็นหลักฐานในคดีเพื่อหาสารไซยาไนด์ ขณะนี้มีพยานวัตถุที่เป็นหลักฐานต้องสงสัยที่ทางตำรวจส่งมาให้ตรวจมากกว่าเกือบ 400 ชิ้น คาดจะใช้เวลาในการตรวจพยานหลักฐานทั้งหมดอย่างเร็วที่สุดภายในวันศุกร์นี้. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย