สุราษฎร์ธานี 10 เม.ย. – ปมขัดแย้งระหว่างพ่อตากับลูกเขย ที่สุราษฎร์ธานี จนทำให้ยิงถล่มกันเสียชีวิตถึง 4 ศพ เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 คน คือภรรยาและลูกของผู้ก่อเหตุ รวม 6 ศพ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนับเป็นอุทาหรณ์ให้กับครอบครัวต่างๆ รวมทั้งเป็นการบ้านให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังจากพบว่าปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นปืนของทางการด้วย
กว่า 50 ชม. เจ้าหน้าที่ยังคงออกติดตามไล่ล่า ด.ต.อรรถพร ผบ.หมู่ สภ.คีรีรัฐนิคม อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี หลังร่วมกับพวกอย่างน้อย 4 คน ก่อเหตุใช้อาวุปืนสงครามเอ็ม 16 ปืนพกสั้น ปืนลูกซองยาว บุกยิงถล่ม พ่อตา หรือนายธรรมรงค์ หรือ ผู้ใหญ่รงค์ อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 นางนิลทิพย์ ภรรยาของผู้ใหญ่รงค์ และนายพรศักดิ์ หรือผู้ใหญ่กรอก อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 13 เสียชีวิต ขณะอยู่ภายในบ้านพักในสวนปาล์ม พื้นที่หมู่ 8 ต.กะเปา อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี โดยในที่เกิดเหตุยังพบศพของนายธรรมรัตน์ หรือ วัฒน์ พี่ชายของ ด.ต.อรรถพร ซึ่งคาดว่าถูกกลุ่มของผู้ตายยิงตอบโต้ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุด้วย นับเป็นเหตุการณ์อุกอาจสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นในช่วงเวลากลางวันของวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตในคราวเดียวกันถึง 4 ศพ
จากการสอบสวนสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทำให้ทราบว่า คนร้ายคือกลุ่มของ ด.ต.อรรถพร ลูกเขยของผู้ใหญ่รงค์ ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกพฤติกรรมไว้ได้อย่างชัดเจน จนเป็นที่มาของการออกหมายจับ ด.ต.อรรถพร และนายมานพ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และยังมีคำสั่งให้ ด.ต.อรรถพร ออกจากราชการไว้ก่อนตั้งแต่เมื่อวานนี้ (9 เม.ย.) โดยปมสังหารโหดมาจากปัญหาในครอบครัว ที่พ่อตาหรือผู้ใหญ่รงค์อยากให้ลูกสาวหย่าร้างกับ ด.ต.อรรถพร มือปืน เพราะฐานะด้อยกว่า แม้ว่าผู้ใหญ่รงค์ และ ด.ต.อรรถพร จะรู้จักกันมานานกว่า 10 ปี
ล่าสุดในคดีพบมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย รวม 6 ศพ โดยศพที่ 5 ถูกพบเมื่อคืนที่ผ่านมา คือ นายบาส อายุ 22 ปี ลูกติดของ ด.ต.อรรถพร โดยศพถูกพบอยู่ภายในรถเก๋งสีบรอนซ์เทา ที่ ด.ต.อรรถพร ใช้หลบหนีหลังก่อเหตุยิงพ่อตา ถูกนำมาจอดทิ้งไว้ภายในวัดไกรสรเขตราราม สถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพนายธรรมรัตน์ พี่ชาย ด.ต.อรรถพร ที่เสียชีวิตจากเหตุยิงต่อสู้ที่บ้านผู้ใหญ่รงค์ โดยสภาพศพนายบาสถูกยิงเข้าที่ขมับขวา นั่งอยู่ที่นั่งด้านข้างคนขับ ถูกคลุมด้วยผ้าขาวม้า ที่ข้อมือทั้งสองข้างถูกมัดติดด้วยสายสิญจน์ คล้ายมัดตราสังข์
ส่วนศพที่ 6 คือ ศพของ น.ส.พนิดา ลูกสาวของผู้ใหญ่รงค์ และเป็นภรรยาของ ด.ต.อรรถพร ถูกพบเป็นศพในช่วงเช้าที่ผ่าน ในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ใน อ.คีรีรัฐนิคม สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวณขมับซ้ายเหนือคิ้ว นอนคว่ำหน้า ศพเริ่มมีกลิ่น คาดว่าจะเสียชีวิตมาแล้วกว่า 2 วัน
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าในช่วงสายของวันนี้ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายมานพ เพื่อนดาบตำรวจอรรถพร 1 ในผู้ก่อเหตุได้แล้ว ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในจังหวัดพังงา พร้อมกับยึดอาวุธปืนเอ็ม 16 ที่ใช้ในการก่อเหตุ 1 กระบอก ส่วนดาบตำรวจอรรถพร ยังคงหลบหนี โดยจากพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ ในขณะนี้ เชื่อว่า ดาบตำรวจอรรถพร เตรียมการมาก่อนอย่างดี โดยก่อเหตุฆ่าภรรยาของตนเอง ก่อนจะสังหารพ่อตายกครัว และเชื่อว่าเขายังเป็นผู้ลงมือฆ่าบุตรชายของตนเองด้วย
ปมขัดแย้งจากการถูกกีดกันความรักในครอบครัวที่มีฐานะแตกต่างกัน แต่กลับต้องมาจบลงด้วยการใช้ความรุนแรง และมีผู้เสียชีวิตถึง 6 คน ที่ฝ่ายผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และใช้อาวุธปืนสงคราม ปืนของทางราชการมาก่อเหตุอย่างอุกอาจ ทำให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยอมรับว่า หลังจากนี้ต้องเพิ่มความระมัดระวังและควบคุมการเบิกการจ่ายการใช้อาวุธให้เข้มงวดยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต .-สำนักข่าวไทย