ผลโพลชี้ “อนุทิน” นำโด่งผู้นำฝ่าวิกฤติโควิด

กทม. 25 ก.พ.-โพลชี้ “อนุทิน” นำโด่งผู้นำฝ่าวิกฤติโควิด ประชาชนมั่นใจประสานทุกกลุ่มทำงานร่วมกันได้ จงรักภักดี กล้าคิดกล้าตัดสินใจ สง่างามเป็นผู้นำไทยบนเวทีโลก

เมื่อวันที่ 25 ก.พ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจ เรื่อง “ลุงตู่ กับ หมอหนู” กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,223 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 20 – 24 กุมภาพันธ์ 2566 โดยเมื่อถามถึง นักการเมืองผู้มีผลงานเด่น ด้านความมั่นคงชาติ ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง พบว่าเกินครึ่งหรือร้อยละ 53.6 ระบุพลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา รองลงมาหรือร้อยละ 17.3 ระบุ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 9.5 ระบุ พลเอกประวิตร  วงษ์สุวรรณ ร้อยละ 6.5 ระบุ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 5.3 ระบุ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ตามลำดับ


นอกจากนี้ เมื่อถามถึงนักการเมืองผู้มีผลงานเด่นด้านระบบสาธารณสุข นโยบายสุขภาพ แก้ปัญหาคุณภาพชีวิต ลดความเดือดร้อนของประชาชนช่วงวิกฤตโควิด พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 71.1 ระบุ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองลงมาคือร้อยละ 10.4 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 6.5 ระบุ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ร้อยละ 4.2 ระบุ นางสาว แพทองธาร ชินวัตร และร้อยละ 2.9 ระบุ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ตามลำดับ

ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อถามถึงภาพจำของประชาชนต่อคุณธรรมการเมืองของนายอนุทิน ชาญวีรกูล พบส่วนใหญ่หรือร้อยละ 65.1 คือความจงรักภักดีต่อสถาบันสูงสุดของชาติ รองลงมาคือร้อยละ 60.6 ระบุกล้าคิดกล้าตัดสินใจ เป็นผู้นำไทยบนเวทีโลก ด้านสาธารณสุข สุขภาพเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจไทยในอาเซียน ร้อยละ 60.6 ระบุมีผลงานทั่วโลกยอมรับ รับมือวิกฤติโควิดในประเทศไทย ร้อยละ 60.4 ระบุ ซื่อสัตย์ สุจริต ไม่มีประวัติด่างพร้อย ทุจริตคอร์รัปชัน ร้อยละ 57.9 ระบุ มีความรู้ ประสบการณ์ ภาคธุรกิจ เคยล้มเหลว ฟื้นฟูตัวเอง กลับมาสำเร็จได้ ร้อยละ 57.6 ระบุ มุ่งมั่น ขยัน ตั้งใจทำงานเพื่อประชาชน


ที่น่าสนใจคือ ร้อยละ 57.1 ระบุเสียสละ มีความรัก จิตใจดีต่อเพื่อนมนุษย์ คนตัวเล็กตัวน้อย นำเครื่องบินส่วนตัว ช่วยผู้ป่วยผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ ใน “หัวใจติดปีก” ร้อยละ 56.1 ระบุ ปกป้องผลประโยชน์ชาติไม่มีประวัติเสียค่าโง่โฮปเวลล์ ค่าโง่ทางด่วน หยุดการต่อสัมปทานแบบรวบหัวรวบหาง รถไฟฟ้า ร้อยละ 56.1 ระบุ ปกป้องผลประโยชน์คนใช้บริการ ไม่ให้ถูกเอาเปรียบ เบียดเบียนเงินในกระเป๋าประชาชนจากบริการรถไฟฟ้า ร้อยละ 55.1 ระบุ เข้าใจระบบธุรกิจ เศรษฐกิจ หัวอกของผู้ประกอบการ ร้อยละ 55.0 ระบุ ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร ประสานทุกกลุ่มมาทำงานร่วมกันได้ และร้อยละ 54.7 ระบุ เป็นที่ยอมรับ เชื่อถือ จาก ส.ส. มาช่วยกันสร้างพรรคภูมิใจไทยให้เป็น แกนนำจัดตั้งรัฐบาล หลังการเลือกตั้ง ตามลำดับ

สำนักวิจัยซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า จากผลโพลก่อนหน้านี้ที่เคยทำเรื่อง ลุงตู่ กับ คุณธรรมการเมืองพบว่ามีความเหมือนในบางด้านแต่หลายด้านที่แตกต่างกันไปจากภาพจำของประชาชนต่อคุณธรรมการเมืองของ หมอหนู หรือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เช่น ทั้ง ลุงตู่ และหมอหนู ต่างได้รับการยอมรับจากประชาชนเรื่องความจงรักภักดีและผลงานอันเป็นที่ยอมรับจากนานาประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะผลงานด้านระบบสาธารณสุข นโยบายสุขภาวะของประชาชน สุขภาพเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศในอาเซียน ความซื่อสัตย์สุจริตและความสามารถพลิกฟื้นวิกฤติที่เคยเกิดกับธุรกิจของตัวเองจนประสบความสำเร็จเจริญมั่งคง จึงได้รับการโหวตจากประชาชนในความสำเร็จที่สามารถฟันฝ่าปัญหาธุรกิจในยามวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศ เข้าใจหัวอกของผู้ประกอบการและความเดือดร้อนของประชาชน นอกจากนี้ ที่โดดเด่นในลักษณะคุณธรรมของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ที่ลงมือปฏิบัติด้วยตนเองตั้งแต่ก่อนการทำงานทางการเมืองคือ เสียสละ มีความรัก จิตใจดีต่อเพื่อนมนุษย์ คนตัวเล็กตัวน้อย นำเครื่องบินส่วนตัว ช่วยผู้ป่วยผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ ใน “หัวใจติดปีก”

สำนักวิจัยซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า ภาพจำของประชาชนต่อคุณธรรมการเมืองของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ยังมีในเรื่องของการปกป้องผลประโยชน์ชาติไม่มีประวัติเสียค่าโง่โฮปเวลล์ ค่าโง่ทางด่วน หยุดการต่อสัมปทานแบบรวบหัว รวบหาง รถไฟฟ้า และปกป้องผลประโยชน์คนใช้บริการ ไม่ให้ถูกเอาเปรียบ เบียดเบียนเงินในกระเป๋าประชาชนจากบริการรถไฟฟ้า และลักษณะส่วนตัวที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร ประสานทุกกลุ่มมาทำงานร่วมกันได้จนเป็นที่ยอมรับเชื่อถือจาก ส.ส. มาช่วยกันสร้างพรรคภูมิใจไทยให้เป็น แกนนำจัดตั้งรัฐบาล หลังการเลือกตั้ง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย