“มาริษ” แถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC”

.ต่างประเทศ 1 มิ.ย.-“มาริษ” นำแถลงสถานการณ์ “ไทย-กัมพูชา” ยันทำทุกทางไม่ให้บานปลาย ย้ำ กต.ไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เผยยกหูหา “รองนายกฯ กัมพูชา” แล้ว เห็นพ้องตรงกัน เกิดความสงบความเรียบร้อยตามแนวชายแดน ด้าน “โฆษก กต.” ยันโพสต์ “ฮุนเซน” ไม่มีผล คาด 1-2 สัปดาห์ได้ประชุม “JBC” แน่

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำแถลงข่าวเกี่ยวกับพัฒนาการสถานการณ์ไทย-กัมพูชา พร้อมด้วย พลเอก มนัส จันดี เสนาธิการทหาร , นางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ภายหลังการประชุมกว่า 2 ชั่วโมง ว่า ตนได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จัดประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือเจบีซี เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา โดยไทยและกัมพูชา เป็นประเทศที่มีความใกล้ชิดกัน ทั้งในระดับรัฐบาลและประชาชน จึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องดำเนินการทุกวิถีทางที่จะไม่ให้สถานการณ์บานปลายถึงขั้นกระทบกระเทือนถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ซึ่งถ้ากระทบมากไปจะไม่เป็นผลดี อย่างไรก็ตาม ได้มีเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พ.ค. เวลา 05.45 น. กระทรวงการต่างประเทศรู้สึกไม่สบายใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าการดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามหลักกฏหมายระหว่างประเทศและกฎหมายผ่านแดนอย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ และแนวปฏิบัติสากลที่เกี่ยวข้อง


นายมาริษ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันสถานการณ์ชายแดนยังสงบเรียบร้อย ด่านทุกด่านยังเปิดทำการปกติ จากเหตุการณ์เกิดขึ้น ตนได้มีการหารือกันในหลายระดับ แรกเริ่มได้มีการโทรศัพท์พูดคุยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของกัมพูชา ซึ่งเห็นด้วยว่า จะทำอย่างไรให้ยุติความตึงเครียด นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบกทั้งสองประเทศได้พบกันในวันที่ 29 พ.ค. เพื่อหาทางลดความตึงเครียด และล่าสุดเมื่อวันที่ 30 พ.ค. ได้ตนได้ไปประชุมที่ญี่ปุ่น และมีการพบกับ สมเด็จฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และได้เรียนหารือกันด้วย ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นว่าเราต้องมีความร่วมมือกัน เพื่อลดความตึงเครียดในพื้นที่ชายแดนโดยกลไกต่างๆ ซึ่งเป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศได้เห็นชอบความร่วมมือกันทางการทหาร เพื่อให้เกิดความสงบความเรียบร้อยตามแนวชายแดนในระหว่างที่นายกรัฐมนตรีไทยได้เยือนกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายเห็นความต้องการว่าจะใช้กลไกที่มีอยู่เราเจตนารมย์ทางการเมืองที่ต้องการแก้ไขปัญหานี้อย่างสันติโดยไม่มีความขัดแย้งผ่านการประชุมระดับที่มีระหว่างกัน เจบีซี, จีบีซี และอาร์บีซี พยายามใช้กลไกทักษะระดับนี้ ในการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ความสงบกับคืนมา วันนี้จึงมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาเตรียมความพร้อมที่เราจะไปพูดคุยกับฝั่งกัมพูชาในกรอบของกรรมาธิการร่วมชายแดนไทยกัมพูชา หรือเจบีซี ซึ่งทั้งสองฝ่ายตัดสินใจแล้ว จะผลักดันให้มีการประชุมโดยเร็วที่สุด

นายมาริษ ยังระบุด้วยว่า เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยและไม่เกิดเหตุการณ์ที่มันบานปลายไปมากกว่านี้ จำเป็นที่ประเทศทั้งสอง ไม่ต้องการให้เกิดความตึงเครียดขึ้น จึงต้องใช้ความอดกลั้นที่จะไม่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายและใช้กลไกการเจรจาของกรอบเจบีซีแก้ปัญหา ขณะเดียวกันขอฝากสื่อมวลชนเราจะต้องช่วยกันทำให้ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องระวังไม่ให้มีการเผยแพร่สิ่งที่ไม่สมควรเปิดเผยให้สถานการณ์แย่ลงไปกว่านี้


ขณะที่นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ ในฐานะโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงเพิ่มเติมว่า กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความเสียใจ ยืนยันว่าไทยดำเนินการตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศและตามกฏหมายภายในของไทย ทั้งนี้ การดำเนินการของไทยเป็นไปเพื่อป้องกันอธิปไตยและเป็นไปเพื่อการป้องกันตนเองอย่างเหมาะสมและได้สัดส่วนของสถานการณ์ ที่สอดคล้องกับหลักกฎหมายระหว่างประเทศและแนวปฏิบัติสากลที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้สถานการณ์ยังคงมีความสงบตามแนวชายแดนไทย กัมพูชา และด่านทุกด่านเปิดตามปกติ

“ท่านรัฐมนตรีได้มีการติดต่อสื่อสารกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศกัมพูชา 2 ครั้ง และล่าสุดนี้ทำให้เห็นว่าทั้ง 2 ฝ่ายมีเจตนารมณ์ทางการเมืองที่แน่วแน่ ที่จะแก้ไขด้วยกลไกที่ 2 ฝ่ายมีอยู่แล้ว เราหวังว่าจะมีการประชุมเจบีซี ซึ่งเป็นกลไกทางเทคนิคและกฎหมายที่ตั้งขึ้นมา มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความชัดเจนของการแก้ไขปัญหาเขตแดนในระยะกลางถึงระยะยาว เพื่อให้มีการสำรวจและทำหลักเขตแดนที่ชัดเจน โดยอาจจะแนะนำมาตรการชั่วคราวในระหว่างรอสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งเป็นกลไกที่สำคัญ ที่อาจช่วยลดการเผเชิญหน้าระหว่างทหารทั้ง 2 ฝ่าย เราพยายามจัดให้มีการประชุมในโอกาสแรกอย่างเร็ว อาจจะเกิดขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า และไม่น่าจะเกินปลายเดือน มิ.ย.นี้” นายนิกรเดช กล่าว

จากนั้นเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสอบถาม โดยนายนิกรเดช ย้ำว่าการประชุมเจบีซีที่จะจัดขึ้น ตอนนี้ไม่มีปัญหา ฝ่ายไทยมีความพร้อมในการเจรจาแล้วตามที่มีการประชุมกันไป ประเด็นคือผู้ที่เป็นเจ้าภาพการประชุมคือฝ่ายกัมพูชา ซึ่งกำลังเจรจาเรื่องวันที่อยู่ ทั้ง 2 ฝ่ายอยากให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด


เมื่อถามถึงโพสต์ของสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ที่ระบุว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของกัมพูชา ตามหลักแล้วมีผลทางกฎหมายหรือไม่ นายนิกรเดช กล่าวว่า ผลทางกฎหมายไม่มี ท่านโพสต์ได้ เพียงแต่เราดูในฝั่งเรา อยากให้ข้อมูลที่ออกมาทางสื่อสะท้อนความเป็นจริงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ส่วนหากเกิดความรุนแรงเกิดขึ้น จะมีการรับมืออย่างไรบ้าง นายนิกรเดช กล่าวว่า เรื่องนี้เกินกระทรวงการต่างประเทศ แต่จะมีทั้งทางทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน และฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้เกิดเหตุปะทะกันรุนแรง ตนคิดว่าอย่าเพิ่งไปถึงตรงนั้น ตอนนี้เรากำลังอยู่ในทางลงที่ดี ทางลงที่สันติระหว่างกัน ตนเชื่อว่าเราพร้อมเจรจาระหว่างกัน

เมื่อถามว่าจุดยืนของกระทรวงการต่างประเทศ ที่เป็นพลเรือน และกองทัพที่อยู่ในฝ่ายปฏิบัติสอดคล้องกันหรือไม่ในเรื่องการยืนยันเจรจารักษาสันติภาพ นายนิกรเดช ระบุว่า สอดคล้องกัน เพราะฝ่ายทหาร ไม่ได้ประสงค์ที่จะมีความรุนแรงใดๆ เราทีมไทยแลนด์ทั้งทีม เรามุ่งหาข้อยุติอย่างสันติวิธี.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

รวบแล้ว “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – สืบนครบาลจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้าน กลางห้างดัง พร้อมสมุน หลังหนีซุกบ้านเช่าย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี เร่งล่าอีก 1 ยังหลบหนี กรณีคนร้าย 7 คน แก๊งเสือปุ่น ใช้อาวุธปืนและมีด ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตฯ เหตุเกิดที่ลานจอดรถชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น.) และตำรวจ บก.สส.บช.น. ร่วมกันจับกุม นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น อายุ 43 ปี […]

เดินหน้าเอาผิดหญิงกัมพูชาชี้หน้าด่าไล่ทหารไทย

18 ก.ค. – ปกติคดีทำร้ายร่างกายและจิตใจ ไม่ใช่คดีใหญ่ แต่เมื่อเป็นคู่กรณีไทย-กัมพูชา ในสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน จึงกลายเป็นคดีระดับประเทศที่ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญ และดำเนินการอย่างรัดกุม ทั้งคดีอดีตทหารพรานทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชา และคดีหญิงกัมพูชา ชี้หน้าด่าไล่ทหารไทยบริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์.-สำนักข่าวไทย

ไทยเตรียมประท้วง UN หากทุ่นระเบิดเป็นของใหม่

18 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 ลั่นรอผลตรวจสอบกับระเบิดทำทหารไทยขาขาด หากเป็นของใหม่ จะเสนอประท้วงไปยังยูเอ็น ขอให้มีมาตรการคว่ำบาตรกัมพูชา ทำผิดอนุสัญญาออตตาวา กรณีทหารเหยียบกับระเบิด บนเนินช่องบก จ.อุบลราชธานี คาดว่าไม่เกิน 2 วัน จะชัดเจนว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่หรือของเก่า แต่มีคำยืนยันว่าไทยไม่เพิกเฉยเรื่องนี้แน่นอน พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า หากผลพิสูจน์ชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเป็นของใหม่ จะใช้กลไกกองทัพบกประสานต่อกระทรวงต่างประเทศ ให้ยื่นประท้วงกัมพูชาต่อองค์การสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการคว่ำบาตรกัมพูชา ตามสนธิสัญญาออตตาวา ห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งไทยและกัมพูชาก็เป็นสมาชิกที่มีเกือบ 200 ประเทศทั่วโลก ส่วนมาตรการตอบโต้อย่างอื่น ยังบอกไม่ได้ สำหรับบริเวณช่องบก จุดเกิดเหตุระเบิดจนทำให้กำลังพลบาดเจ็บ 3 นาย จุดนั้น เป็นพื้นที่สู้รบเก่าที่สามารถพบทุ่นระเบิดเก่าได้ ซึ่งวันนี้ ทางชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิดแห่งชาติ ที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดซึ่งทั่วโลกยอมรับ ได้ลงพื้นที่พิสูจน์ มีแนวโน้มเป็นไปได้ทั้งนำมาวางไว้ก่อน หรือหลังเหตุปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่ ได้กำชับกำลังพลทุกนายให้เฝ้าระวังมากยิ่งขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 ยังพูดถึงประเด็นดราม่า […]

บ้านดอนตัน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังจมน้ำ

น่าน 18 ก.ค. – “บ้านดอนตัน” จ.น่าน กว่า 100 หลังคาเรือน ยังคงจมน้ำ น้ำใจหลั่งไหลเข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งเยาวชนฝีพายเรือแข่งอำเภอท่าวังผา ขนน้ำดื่มลงเรือแจกจ่ายช่วยชาวบ้าน สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะที่บ้านดอนตัน หมู่ 4 ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา ชาวบ้านกว่าร้อยหลังคาเรือนยังอาศัยอยู่ท่ามกลางน้ำท่วมขัง ระดับน้ำในพื้นที่สูงกว่า 1 เมตร ประชาชนต้องย้ายสิ่งของขึ้นชั้น 2 เพื่อความปลอดภัย ส่วนผู้อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียว ต้องอพยพไปพักอยู่กับญาติในพื้นที่ใกล้เคียง หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชนและจิตอาสา ระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน โดยจัดส่งอาหาร น้ำดื่มและสิ่งของจำเป็น โดยเฉพาะเยาวชนฝีพายเรือแข่งจากบ้านสบหนอง อำเภอท่าวังผา นำเรือออกให้ความช่วยเหลือในการขนส่งน้ำดื่มและอาหารไปยังบ้านที่ถูกน้ำล้อม เพื่อส่งต่อถึงผู้ประสบภัยที่ยังติดอยู่ในบ้าน ผู้ใหญ่บ้านดอนตัน เปิดเผยว่า ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มทรงตัวและ มีแนวโน้มลดลง แต่บริเวณท้ายหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำและอยู่ติดแม่น้ำยังคงมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะในพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง ทั้งไร่ข้าวโพดและลำไย รวมกว่า 2,000 ไร่ ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ขณะที่หมู่บ้านใกล้เคียงในพื้นที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา ได้แก่ […]