กรุงเทพฯ 2 ก.พ.- คพ. เผยดัชนีคุณภาพอากาศใน กทม. อยู่ระดับ 3 เหตุมีการสะสมของฝุ่น PM 2.5 โดยจะมีสภาพเช่นนี้ไปอีก 2 วัน แนะเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งและสวมใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกต้อง รวมถึงพิจารณา WFH เพื่อลดการจราจรและลดความเสี่ยง หากรุนแรงถึงระดับ 4 จะแนะนำให้ปิดโรงเรียน
นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) และผู้อำนวยการศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กล่าวว่า ดัชนีคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครวันนี้อยู่ที่ระดับ 3 (ระดับสีส้ม) ซึ่งเป็นระดับที่ประชาชนทั่วไปยังสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ แต่เพื่อลดความเสี่ยงจึงแนะนำให้ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่คุณภาพอากาศมีผลกระทบต่อสุขภาพหรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง อุปกรณ์ที่สำคัญคือ หน้ากากอนามัย หากสวมใส่ถูกวิธีจะลดการรับฝุ่น PM2.5 ได้ 50-60% ย้ำถ้ามีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์
สำหรับการที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครขอความร่วมมือ Work from home (Wfh) ระหว่างวันที่ 2-3 กุมภาพันธ์ เป็นคำแนะนำของกรมควบคุมมลพิษเนื่องจากการลดการเดินทางจะลดฝุ่น PM2.5 จากยานยนต์และลดความเสี่ยงของประชาชนด้วย พร้อมย้ำว่า หากศกพ. คาดการณ์ว่า ดัชนีคุณภาพอากาศจะรุนแรงระดับ 4 ต่อเนื่อง 3-4 วันจะแนะนำให้ปิดโรงเรียน เช่นเดียวกับจังหวัดอื่นๆ ซึ่งแนะนำให้ออกมาตรพื้นที่อื่นๆ แนะนำให้กำหนดมาตรการตามสถานการณ์ในพื้นที่
นายปิ่นสักก์กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้การสะสมของฝุ่น PM2.5 เพิ่มขึ้นในระยะนี้ เนื่องจากสภาพอากาศที่ปิดซึ่งเกิดขึ้นเป็นระยะๆ ในฤดูหนาว เมื่อประกอบกับการเผาในพื้นที่เกษตรและพื้นที่ป่าจึงทำให้สถานการณ์รุนแรงขึ้น
ภาครัฐได้ยกระดับมาตรการแก้ปัญหาที่เข้มข้นขึ้นในการลดแหล่งกำเนิด PM2.5 โดยในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ซึ่งมีแหล่งกำเนิดจากการจราจรได้กำหนดมาตรฐานรถยนต์ให้เป็นมาตรฐานยูโร 5 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567 ส่วนในต่างจังหวัดมีแหล่งกำเนิดจากการเผา ได้กำหนดแนวทางในการเปลี่ยนวัสดุทางการเกษตรเป็นปุ๋ยหรือพลังงานชีวมวล ตลอดจนมาตรการจัดระเบียบการเผา โดยบางช่วงต้องหยุดเผาและการลงทะเบียนขออนุญาตเผาเพื่อไม่ให้เผาพร้อมๆ กัน พร้อมกันนี้ได้ประสานไปยังประเทศเพื่อนบ้านในการดำเนินการตามข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษจากหมอกควันข้ามแดนเพื่อลดจุดความร้อน ซึ่งทุกหน่วยงานกำลังเร่งแก้ปัญหาอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชน.-สำนักข่าวไทย