อุดรธานี 27 พ.ย. – “พีระพันธุ์” ไม่รู้กระแสข่าว “พล.อ.ประยุทธ์” ตั้งเป็นเลขาฯ นายกฯ ลั่นมีตำแหน่งหรือไม่ก็ทำงานได้ ยันไม่กล้าเชิญร่วม รทสช. เหตุเป็นผู้บังคับบัญชา โยนนักข่าวถามนายกฯ เองจะมาเมื่อไหร่
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนางรัตนาวรรณ สุขศาลา แกนนำ นปช. จ.อุดรธานี เข้าร่วมสมาชิกพรรคแสดงว่าสามารถแก้ปัญหาความแตกแยกได้ใช่หรือไม่ ว่า ตนพูดมาตลอดตั้งแต่ตั้งพรรคว่าเป้าหมายสำคัญ คือเลิกทะเลาะกันได้แล้ว รวมใจมาช่วยกันสร้างบ้านเมือง ไม่ว่าจะเสื้อสีอะไรเชื่อว่าในใจลึกๆของทุกคนก็คือก็คือเพื่อชาติบ้านเมืองเหมือนกัน เหมือนที่ได้คุยกับนางรัตนาวรรณ นี่คือความสำเร็จที่อย่างน้อยก็ได้ทำความเข้าใจกันได้ และจะร่วมกันทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง โดยไม่ได้มองว่าพื้นที่อีสานจะเจาะยากหรือเจาะง่าย เพราะต้องการเริ่มต้นความสามัคคี อย่าไปเรียกว่าดึงคนเสื้อแดงมา แต่เป็นการทำความเข้าใจ เพราะทุกคนมีแนวทางของตัวเอง ไม่มีใครดึงใคร จะว่ายากก็ตอบไม่ถูก จะว่าง่ายก็ไม่ใช่ ทั้งนี้ ตอนแรกหวั่นใจว่าจะมีใครมาร่วมงานหรือไม่ แต่ตอนนี้เลยและล้น ซึ่งไม่เกี่ยวกับท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม
เมื่อถามถึงกรณีกระแสการแยกตัวของ พล.อ.ประยุทธ์ จากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และมีแนวโน้มจะมาพรรค รทสช. นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ก็เป็นการคาดการณ์ แต่อย่างที่บอกเป้าหมายเหมือนกัน คือ ช่วยกันคนละไม้คนละมือ เอาความสามารถมารวมกันก็สามารถที่มีมาทำงานร่วมกันได้ทั้งนั้น แต่ตอบไม่ได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะมาร่วมงานเมื่อไหร่ เราไม่ได้เป็นคนกำหนด
“หากยังไม่ชัดเจนอะไร ผมก็ไม่กล้าเชิญ เห็นครั้งหลังท่านบอกหลังเอเปค หลังปีใหม่ แต่ท่านจะตัดสินใจเมื่อไหร่ ผมก็ไม่รู้ ต้องถามท่าน ผมก็ไม่กล้าถามท่าน เพราะท่านเป็นผู้บังคับบัญชา และการที่นายกฯไม่ชัดเจนก็ไม่กระทบกับกระแสของพรรค” นายพีระพันธุ์ กล่าว
เมื่อถามถึงกระแสข่าวลือว่า แต่งตั้งนายพีระพันธุ์ เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีคนใหม่นั้น นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า เพิ่งเห็นข่าวเมื่อวันที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา ตัวเองก็ไม่เคยทราบ ครั้งก่อนที่แล้วบอกมีข่าวปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะเสนอชื่อ ก็ไม่มี เพราะมีความสุขกับการทำหน้าที่ตรงนี้ วันนี้ก็เช่นกัน ข่าวที่ออกมาตนก็ไม่ทราบ ตนทำงานการเมือง มีตำแหน่งก็ทำได้ ไม่มีตำแหน่งก็ทำได้ อยู่ที่ใจทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง
นายพีระพันธุ์ ยังกล่าวยอมรับว่า ได้มีโอกาสพบนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา ท่านสอบถามความเห็นเรื่องกฎหมาย หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา และอีกฉบับ คือ ร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 30 พ.ย. ที่จะถึงนี้ ว่า จะมีผลทางการเมืองอย่างไรบ้าง และรัฐบาลต้องทำอะไรหรือไม่ แต่ไม่มีการพูดคุยถึงเรื่องความคืบหน้าการทำพรรค รทสช. หรือเรื่องอื่นแต่อย่างใด .-สำนักข่าวไทย