กรุงเทพฯ 24 มี.ค.-“พีระพันธุ์” ประธาน กบน. ใช้ช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ประกาศข่าวดี ผลงานเด่น ลดราคาน้ำมันเบนซิน-ดีเซล 1 บาท/ลิตร เป็นของขวัญให้ประชาชนช่วงสงกรานต์ ตรึงราคาแอลพีจี และเตรียมหาทางลดค่าไฟฟ้าลงอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) วันนี้ ร่วมแถลงทางระบบออนไลน์ หลังจากที่ไม่เคยร่วมแถลง กบน.แต่อย่างใด ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง รมว.พลังงาน เมื่อวัน 1 กันยายน 2566 โดยก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันอยู่ในเกณฑ์ สูงกองทุนน้ำมันต้องกู้เงินมาดูแลทั้งราคาน้ำมันและก๊าซหุงต้ม (แอลจีพี) กว่าแสนล้านบาท จนรัฐบาลต้องขยับขึ้นราคาดีเซลมาอยู่ที่ประมาณ 33 บาทต่อลิตร
นายพีระพันธุ์ แถลงว่าที่ประชุม กบน.วันนี้ (24 มี.ค.) ได้ประชุมเพื่อกำหนดแนวทางดูแลราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศให้สอดรับกับสถานการณ์ และความเหมาะสม โดยพิจารณาจากแนวโน้มราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับลดลง และสถานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่เริ่มมีรายรับเพิ่มขึ้น ที่ประชุมจึงมีมติเห็นชอบให้ปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลงสำหรับกลุ่มน้ำมันเบนซิน และน้ำมันดีเซล ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันลดลงรวม 1 บาทต่อลิตร ซึ่งการปรับลดราคาดังกล่าวจะดำเนินการเป็น 2 ระยะ ครั้งละ 50 สตางค์ต่อลิตร ได้แก่ ครั้งที่ 1 วันที่ 28 มีนาคม 2568 และครั้งที่ 2 วันที่ 4 เมษายน 2568 เพื่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวกต่อประชาชน โดยการที่ราคาลดลงได้ก็เพราะราคาตลาดโลกลดลง โดยหากราคาโลกลดลงอีก ราคาน้ำมันในไทยก็จะปรับลงอีก แต่หากราคาขยับขึ้นเพราะความเสี่ยงความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์และสงครามการค้า ก็ค่อยมาพิจารณาเรื่องการขยับราคาที่เหมาะสม
“การปรับลดอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากน้ำมันเบนซิน-ดีเซล ครั้งนี้ เพื่อเป็นของขวัญให้ประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เป็นช่วงที่มีการเดินทางเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ที่ใช้น้ำมัน โดยเฉพาะกลุ่มดีเซล คิดเป็น 2 ใน 3 ของปริมาณการใช้น้ำมันทั้งหมด เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนในการเดินทางกลับภูมิลำเนา และเป็นการส่งเสริมสถาบันครอบครัว กระตุ้นการเดินทาง เพื่อการท่องเที่ยวในประเทศช่วงเทศกาลสงกรานต์ ลดค่าครองชีพของประชาชน” นายพีระพันธุ์ กล่าว
รมว.พลังงาน ยังกล่าวด้วยว่า ในส่วนของราคาแอลพีจีที่ตรึงไว้ที่ 423 บาท ต่อถัง 15 กก. จนถึงสิ้นเดือนมีนาคมนี้ ก็จะมีการต่ออายุในการตรึงราคาเพื่อช่วยเหลือประชาชนเช่นกัน รวมทั้งค่าไฟฟ้างวดใหม่ (พ.ค.-ส.ค.68) ที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) รับฟังความเห็นระบุ อัตราต่ำสุดคือ 4.15 บาทต่อหน่วยนั้น ในขณะนี้ตนกำลังพิจารณาว่าจะต้องหาทางลดราคาเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ได้ นอกจากนี้ ร่างกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องก็มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง
สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) รายงานถึงสถานการณ์ และฐานะของกองทุนน้ำมันฯ ในช่วงต้นปี (มกราคม 2568 – วันที่ 23 มีนาคม 2568) พบว่า ฐานะกองทุนน้ำมันฯ มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยด้านราคาน้ำมันดิบดูไบช่วงที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 80 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ส่งผลให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับเฉลี่ยกว่า 8,000 ล้านบาท/เดือน ทำให้ฐานะกองทุนน้ำมันฯ จากเดิมเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2568 กองทุนฯ ติดลบอยู่ที่ 75,945 ล้านบาท (บัญชีน้ำมันติดลบ 29,009 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 46,936 ล้านบาท) ปัจจุบันสถานะกองทุนน้ำมันฯ ปรับลดลงเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2568 เหลือติดลบ 60,052 ล้านบาท (บัญชีน้ำมันติดลบ 14,063 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 45,989 ล้านบาท)
“กบน.ยืนยันความมุ่งมั่นในการรักษาเสถียรภาพราคาพลังงานให้กับประชาชน ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะยังคงทำหน้าที่ดูแลราคาพลังงานให้เหมาะสมและเป็นธรรม พร้อมมุ่งมั่นดำเนินงานภายใต้หลักการ “เปิดเผย โปร่งใส และตรวจสอบได้” เพื่อประโยชน์ของประชาชน และทุกภาคส่วน” นายพีระพันธุ์ กล่าว. -511-สำนักข่าวไทย