ภูมิภาค 18 ต.ค. – อธิบดีกรมชลฯ ลงพื้นที่อยุธยา ตรวจถนนคันประตูระบายน้ำเจ้าเจ็ดหลังถูกน้ำเซาะขาด ส่วนที่ จ.ชัยนาท ตลาดสรรพยาน้ำยังท่วมสูงและเริ่มเน่าเสีย ส่วนที่สงขลา เตือนระวังโรคฉี่หนู หลังตายแล้ว 4 ราย
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่ถนนคันคลองชลประทาน ใกล้ประตูระบายน้ำเจ้าเจ็ด หมู่ที่ 7 ต.รางจระเข้ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ถูกน้ำกัดเซาะจนถนนทรุดตัว กว้างประมาณ 5 เมตร น้ำไหลบ่าเชี่ยวแรงเข้าคลองเจ้าเจ็ด-บางยี่หน สู่พื้นที่ท้ายน้ำ อ.เสนา ,อ.บางซ้าย, อ.ลาดบัวหลวง โดยสั่งการให้นำเครื่องจักรกล รวมถึงกล่องหินแกเบียลแล้วนำไปวางบริเวณจุดที่ถนนขาด เพื่อชะลอการไหลของน้ำและอุดรอยรั่วให้เร็วที่สุด เพื่อลดผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่งพบว่ารอยขาดมีขนาดกว้างขึ้นประมาณ 8 เมตร หากไม่รีบแก้ไขน้ำที่ทะลักข้ามฝั่งอาจไหล่บ่าเข้าท่วม รพ.เสนา ที่อยู่ท้ายน้ำ ทำให้เกิดความเสียหายมากขึ้น ทั้งนี้ อธิบดีกรมชลประทาน เผยว่าได้รับประสานจากผู้ว่าฯพระนครศรีอยุธยา เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ทางกรมชลประทานจึงรีบจัดทีมเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักรหนัก เข้ามาแก้ไขถนนดังกล่าวเพื่อช่วยเหลือลดความเดือดร้อนของประชาชน
ตลาดสรรพยาน้ำยังท่วมสูง เน่าเสียส่งกลิ่นเหม็น
ที่ จ.ชัยนาท วันนี้เขื่อนเจ้าพระยา ลดการระบายน้ำต่ำกว่า 3,000 ลบ.ม./วินาที มาอยู่ที่อัตรา 2,983 ลบ.ม./วินาที ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมตลาดสรรพยาพื้นที่เศรษฐกิจของ อ.สรรพยา ลดลงเล็กน้อย น้ำที่เคยท่วมผิวถนนทางหลวง 311 ตั้งแต่หน้าตลาดไปถึงบ้านโพธิ์เตี้ย น้ำลดลงไปอยู่ที่ขอบทางแล้ว แต่ในพื้นที่ตลาด–โรงเรียน-วัดสรรพยา น้ำยังคงท่วมสูงกว่า 1 ม. ชาวบ้าน 800 ครัวเรือน ยังได้รับความเดือดร้อนและตอนนี้ยิ่งเดือดร้อนหนัก เพราะน้ำที่ท่วมขังในตลาดมานาน 14 วัน และมีขยะลอยเกลื่อนมาตั้งแต่วันแรก ประกอบกับพื้นที่โดยรอบถูกล้อมด้วยคันดินกั้นน้ำ 3 ด้าน และยังมีพนังคอนกรีตริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีก 1 ด้าน ทำให้พื้นที่กลายเป็นแอ่งกระทะ น้ำขังจึงเริ่มเน่าเสียส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว โดยเทศบาลตำบลสรรพยาได้นำน้ำจุลินทรีย์ EM จำนวน 400 ลิตร เข้าไปเทตามจุดต่างๆ เพื่อลดกลิ่นเน่าเหม็น พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 2 เครื่อง สูบน้ำเน่าเสียระบายออกทางถนนทางหลวง 311 ลงคลองชลประทานเพราะยังไม่สามารถระบายออกทางแม่น้ำเจ้าพระยาได้ เนื่องจากยังมีระดับสูง ต้องรอให้เขื่อนเจ้าพระยาลดการระบายน้ำลงมาที่ 2,700 ลบ.ม./วินาที ถึงจะสูบน้ำระบายออกไปได้
พ่อเมืองภูเก็ต-ผบ.ทัพเรือภาค 3 สำรวจหลายจุดยังท่วม
ส่วนที่ จ.ภูเก็ต สภาพอากาศตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเช้านี้ ยังมีฝนตกลงมาเป็นระยะ ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังอยู่หลายพื้นที่ นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าฯภูเก็ต พร้อม พล.ร.ท.อาภาภร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการ ศรชล.ภาค 3 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณประตูน้ำ คลองบางใหญ่ ถนนตลิ่งชันและด้านหลังโรงแรมถาวร เพื่อดูเส้นทางการไหลของน้ำ จากตัวเมืองเมืองภูเก็ตออกไปยังทะเลบริเวณปลายแหลมสะพานหิน เพื่อหาจุดติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมให้ระบายออกทะเลโดยเร็วที่สุด ป้องกันน้ำท่วมในเขตเศรษฐกิจตัวเมืองหลังยังมีฝนต่อเนื่อง และมีประกาศเตือนพายุไต้ฝุ่น “เนสาท”
โดยผู้ว่าฯ ภูเก็ต มอบหมายให้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยนำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งในจุดเสี่ยงและมีระดับน้ำสูง ทำการเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลตลอด 24 ชม. พร้อมประสานไปยังป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดตรัง เพื่อนำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่มาสมทบ และได้รับอนุเคราะห์จากทัพเรือภาค 3 สนับสนุนอุปกรณ์ในการระบายน้ำ พร้อมกำลังพล ทำให้ขณะนี้มีเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่จำนวน 7 เครื่อง หากไม่มีน้ำฝนตกลงมาเติมอีก คาดว่าจะผ่านพ้นวิกฤติน้ำท่วมได้ในเร็วๆ นี้
สาธารณสุขเตือนระวังเชื้อโรคฉี่หนู เสียชีวิตแล้ว 4 ราย
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา เตือนประชาชนเพิ่มความระมัดระวังการติดเชื้อโรคไข้ฉี่หนู Leptospirosis ซึ่งเป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน เชื้อโรคไข้ฉี่หนู พบอยู่ในปัสสาวะของสัตว์หลายชนิด แต่พบได้บ่อยในหนู เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนังและเยื่อบุ ที่มีแผลหรือรอยขีดข่วน หรือผิวหนังและเยื่อบุที่อ่อนนุ่มเนื่องจากแช่น้ำอยู่นาน จากการย่ำดินโคลน แช่น้ำท่วมขัง หรือว่ายน้ำ การสัมผัสปัสสาวะสัตว์หรือเนื้อเยื่อสัตว์ที่ปนเปื้อนเชื้อโดยตรง หรือรับประทานอาหารที่ปนเปื้อนปัสสาวะหนู จากข้อมูลการเฝ้าระวังโรคของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. – 9 ต.ค.65 มีรายงานผู้ป่วยแล้ว 142 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 10.09 ต่อประชากรแสนคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือน เม.ย.65 พบผู้เสียชีวิต 4 ราย คิดเป็นอัตราผู้ป่วยตาย ร้อยละ 2.82 กลุ่มอายุที่พบสูงสุด 10-14 ปี รองลงมา 55–60 ปี และ 5-9 ปี ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอาชีพรับจ้าง กลุ่มวัยเรียนและอาชีพเกษตรกรรม
จ.สตูล ฝนตกหนักหลายวัน น้ำท่วมแล้ว 2 อำเภอ
หลังเกิดฝนตกติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้ช่วงเช้านี้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่หมู่ที่ 1,4,5,6,7,8,9,10 ต.ปาล์มพัฒนา ส่วน ต.นิคมพัฒนา น้ำเข้าท่วมหมู่ที่ 13,4,5,6,7 โดยนายนพพล จีนลิบ ปลัดอวุโส (รักษาราชการแทนนายอำเภอมะนัง) จ.สตูล นำกำลัง อส. ไปช่วยขนย้ายสิ่งของไปไว้ในที่ปลอดภัย โดยทาง อ.มะนัง ได้สั่งให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป ระดับน้ำบางแห่งสูงกว่า 1 เมตร นอกจากนี้ถนนในหมูบ้านหลายสายไม่สามารถใช้การได้เพราะระดับน้ำท่วมสูง ส่วนใน อ.ควนกาหลง ระดับน้ำได้เข้าท่วมพื้นที่หมู่ที่ 1 ต.อุไดเจริญ อ.ควนกาหลง มีน้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรกว่า 10 หลัง ส่วนที่ ต.นาทอน ต.ทุ่งหว้า ฝนตกหนักน้ำระบายไม่ทัน ทำให้ไหลเข้าท่วมบ้านแต่พอฝนหยุดตกน้ำก็ลดลงเข้าสู่ภาวะปกติ ชาวบ้านในพื้นที่บอกว่าก่อนหน้านี้น้ำไม่เคยท่วม แต่มีการขยายถนนสายตรัง-ทุ่งหว้า น้ำไม่มีทางระบายพอฝนตกหนักเลยเข้าท่วมบ้านชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย