คมนาคมคุมเข้มเดินทางสงกรานต์


สถานีขนส่งหมอชิต
2  8 เม.ย.-กระทรวงคมนาคม
คุมเข้มรถตู้สาธารณะ รถโดยสาร เตรียมแผนความปลอดภัย รองรับประชาชนเดินทางสูงถึง 35
ล้านคน ด้าน ทสภ.คาดมีผู้โดยสารกว่า 2.5 ล้านคน เตือนเผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้า 2-3
ชั่วโมง พร้อมเปิดบริการจอดรถฟรีโซน
C 700 คัน

นายอาคม
เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ลงพื้นที่ตรวจสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ หรือ หมอชิต 2 ก่อนเทศกาลสงกรานต์
ยอมรับว่าในปีนี้มีผู้โดยสารเดินทางโดยรวม 
35 ล้านคน สูงกว่าปีก่อน มีการเดินทาง 20 ล้านคน แต่ปีนี้ประชาชนวางแผนทยอยเดินทางตั้งแต่
1 เมษายนที่ผ่านมา และเดินทางอีกครั้งวันที่ 5-7 เมษายน ประมาณ 1.3-1.4 แสนคนต่อวัน
คาดว่าจะเดินทางสูงสุดในวันที่ 11-12 เมษายน ประมาณ 1.9-2 แสนคนต่อวัน ขณะที่ขากลับจะมีผู้เดินทางสูงสุด
16-17 เมษายน  2 แสนคนต่อวัน   โดยตั้งแต่วันที่ 1-7 เม.ย 60
บขส.ได้จัดรถเสริมไปแล้ว 1,843 เที่ยว จากเที่ยววิ่งปกติ 43,326 เที่ยว
สามารถรองรับการเดินทางของผู้โดยสารได้ถึงจำนวน 7.5 แสนคน วันนี้คาดว่ามีผู้โดยสาร
8 เม.ย 60 จำนวน 120,000 คน
ในช่วงส่งคนเดินทางกลับต่างจังหวัดยืนยันจะไม่มีผู้โดยสารตกค้าง
เพราะมีรถบริการเสริมอย่างเพียงพอ


ทั้งนี้
รมว.คมนาคม  ได้กำชับ รถขนส่งสาธารณะทั้ง รถ
บขส. รถร่วมเอกชน และรถตู้ ติดตั้ง
GPS ทุกคัน
หลังจากกฎหมายกำหนดตั้งแต่ 31 มีนาคมที่ผ่านมาต้องติดตั้ง
GPS เพื่อติดตามความเร็วสำหรับตู้สาธารณะวิ่งระยะทาง
300 กิโลเมตร และมีเข็มขัดนิรภัยครบทุกที่นั่ง สั่งรถตู้ถอดเบาะที่นั่งออกเหลือ 13
ที่นั่งตามกฎหมาย พบว่าบางรายถอดไม่ทัน แต่ไม่มีผู้โดยสารนั่งไปด้วย รถตู้ต้องมีอุปกรณ์ดับเพลิง
มีการตรวจสอบความพร้อมของคนขับรถตู้ ต้องรูดบัตรผ่านแสดงตัว
และขาออกต้องเป็นคนขับคนเดียวกันเพื่อป้องกันสวมรอยสลับคน
สภาพรถต้องมีความพร้อม  ล้อยาง
เครื่องปรับอากาศ การห้ามรับผู้โดยสารระหว่างทางหากเต็มจำนวนแล้ว  และมีการตรวจสอบคนขับห้ามทำรอบโดยไม่ได้พักผ่อน

นอกจากนี้ยังได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกทางถนน
โดยตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. ต้องยกเลิกการก่อสร้างทุกประเภทบนท้องถนน
การเปิดเส้นทางพิเศษเพื่อระบายรถเพิ่มเติมในช่วงจราจรแออัด  การชะลอความเร็วในจุดเสี่ยง
และรณรงค์ให้ประชาชนเปิดไฟหน้าในช่วงกลางวัน เพื่อเป็นสัญญาณให้มองเห็นระยะไกล เพื่อลดอุบัติเหตุ   จึงคาดว่าการเดินทางในปีนี้จะช่วยลดอุบัติเหตุ
และเดินทางอย่างปลอดภัย.

ด้านนายศิโรตม์
ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(ทสภ.) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด
(มหาชน) (ทอท.) คาดว่า
ช่วงสงกรานต์นี้  ระหว่างวันที่ 5-18 เมษายน 2560 รวม 14 วัน  ทสภ. คาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทางเป็นจำนวนมากถึง
2,576,454 คน หรือเฉลี่ยวันละ 184,032 คน (คำนวณตามความจุของอากาศยาน ที่ร้อยละ
80) สูงขึ้นกว่าปี 2559ร้อยละ 14.25 แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 2,083,140 คน
และผู้โดยสารภายในประเทศ 493,314 คน ส่วนเที่ยวบินคาดว่าช่วงดังกล่าวจะมีเที่ยวบินรวมทั้งสิ้นประมาณ
13,611 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยวันละ 972 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.02
โดยในจำนวนเที่ยวบินทั้งหมดนี้ มีสายการบินประจำและสายการบินเช่าเหมาลำ 6
สายการบิน ขอเพิ่มเที่ยวบินพิเศษ รวมทั้งสิ้น 129 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศ
จำนวน 56 เที่ยวบิน และเที่ยวบินภายในประเทศ จำนวน 73 เที่ยวบิน
โดยสายการบินที่ขอเพิ่มเที่ยวบินพิเศษมากที่สุด 3 อันดับ คือ สายการบินไทยสมายล์
จำนวน 61 เที่ยวบิน สายการบินอีสสตาร์เจ็ท จำนวน 28 เที่ยวบิน
และสายการบินเจแปนแอร์ไลน์  16 เที่ยวบิน 


นายศิโรตม์
กล่าวต่อไปว่า เพื่ออำนวยความสะดวก ทสภ. จึงได้เตรียมพร้อมด้านการตรวจคนเข้าเมือง ได้ประสานกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง
2 ให้จัดเจ้าหน้าที่ประจำเคาน์เตอร์ตรวจคนเข้าเมืองให้เพียงพอ
รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารสัญชาติไทยในการใช้เครื่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ
(
Auto Channel)  มีการอำนวยความสะดวกการต่อเชื่อมคมนาคม
การดูแลความปลอดภัย  ด้านการให้บริการจอดรถยนต์ ทสภ.
ได้เตรียมความพร้อมพื้นที่ให้บริการจอดรถที่อาคารและลานจอดรถยนต์ 1

ซึ่งสามารถรองรับการให้บริการจอดรถได้ประมาณ 5,500 คัน
รวมทั้งยังจัดเตรียมพื้นที่จอดรถสำรองบริเวณด้านข้างโรงแรมโนโวเทลสุวรรณภูมิไว้
ซึ่งสามารถรองรับการจอดรถได้กว่า 450 คัน และยังมีในส่วนของลานจอดรถระยะยาว (
Long Term Parking) โซน A, C และ
D ซึ่งสามารถจอดรถยนต์ได้ประมาณ 2,154 คัน

        ทั้งนี้
ในช่วงวันหยุดสงกรานต์ที่กำลังจะถึงนี้เป็นช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่องเกิน 3 วัน ทสภ.
จึงได้มีมาตรการยกเว้นค่าบริการจอดรถยนต์ให้แก่ผู้โดยสารที่นำรถมาจอดที่ลานจอดรถระยะยาวโซน
C ซึ่งบริเวณนี้สามารถจอดรถได้กว่า 700 คัน โดย ทสภ. ได้จัดเตรียมรถ Shuttle Bus สายพิเศษสำหรับวิ่งให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารระหว่างบริเวณลานจอดรถระยะยาวโซน
C กับ อาคารผู้โดยสารทุก ๆ 15 นาที ซึ่งจุดจอดรถ Shuttle Bus จะอยู่ที่อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 5
และผู้โดยสารขาเข้า ชั้น 2 ประตู 5 โดยผู้ใช้บริการรถ
Shuttle Bus ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

             “คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการ ทสภ.ช่วงสงกรานต์
เป็นจำนวนมาก ดังนั้น ขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาในการเดินทางมาถึงสนามบินล่วงหน้า
3 ชั่วโมงสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ และล่วงหน้า 2 ชั่วโมงสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศ

และหากผู้โดยสารต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้บริการในด้านต่าง ๆ ภายใน
ทสภ. สามารถติดต่อ ได้ที่
AOT
Contact Center
หมายเลข 1722
ตลอด 24 ชั่วโมง”นายศิโรตม์ กล่าว- สำนักข่าวไทย

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จภายในเที่ยงคืนนี้

ประจวบคีรีขันธ์ 9 ส.ค. – รฟท.เร่งกู้รถไฟตกรางที่กุยบุรี คาดเสร็จสิ้นภายในเที่ยงคืนนี้ ด้าน พฐ.ร่วมตรวจหาสาเหตุตกรางกับนายช่างรถไฟ สันนิษฐานเบื้องต้นนอตล็อกประแจสับรางหลุด ส่วนผู้บาดเจ็บ 10 ราย ออกจาก รพ.แล้ว ความคืบหน้าเหตุรถไฟขบวนด่วนพิเศษ สุไหงโก-ลก ปาดังเบซาร์ ปลายทางสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประสบอุบัติเหตุตกราง ก่อนถึงสถานีรถไฟกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ประมาณ 100 เมตร เหตุเกิดเมื่อช่วงตี 5 วันนี้ โดยตู้โดยสารที่เกิดเหตุคือ 3 ตู้สุดท้าย 10-12 ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 10 คน นำส่งโรงพยาบาลกุยบุรี ผู้โดยสารตู้ที่ตกราง เจ้าหน้าที่จัดรถบัสนำส่งต่อไปยังจุดหมายปลายทาง ส่วนตู้โดยสารที่ไม่ตกราง เดินทางต่อจนถึงสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์ ล่าสุดตำรวจ สภ.กุยบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่ตรวจหาสาเหตุรถไฟตกราง ร่วมกับนายช่างวิศวกรของการรถไฟฯ อีกครั้ง จากการตรวจสอบสันนิษฐานเบื้องต้นคาดว่าเกิดจากนอตยึดอุปกรณ์ประแจตัวสับรางหลุด ขณะที่ขบวนรถไฟวิ่งผ่านไปแล้ว 9 ตู้ เหลือ 3 ตู้สุดท้าย ทำให้ไม่สามารถบังคับให้วิ่งตามไปด้วยกันได้ จึงถูกกระชากหลุดด้วยแรงเฉื่อยของความเร็วรถไฟแล้วตกจากราง หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ […]

“บุ๋ม” รับผ้ายันต์-เหรียญครุฑ หลวงพ่อวราห์ แจกทหารชายแดน

9 ส.ค. – “บุ๋ม ปนัดดา” เริ่มภารกิจโฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. วันแรก เข้ารับผ้ายันต์-เหรียญครุฑ จากหลวงพ่อวราห์ นำไปมอบให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา สร้างขวัญกำลังใจแนวหน้า บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี โฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. ที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ หรือบิ๊กเล็ก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่งตั้ง เข้าพบหลวงพ่อวราห์ พระเทพวชิระวิทยานุสิฐ วราห์ ปุญฺญวโร ตำนานผู้สร้างพญาครุฑ เพื่อรับผ้ายันต์และเหรียญครุฑ ไปแจกให้ทหารตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจทหารแนวหน้า บุ๋ม ปนัดดา กล่าวว่า ได้รับการประสานจากหลวงพ่อวราห์ ให้เข้ามารับผ้ายันต์และเหรียญครุฑ นำไปมอบให้กับทหารชายแดน เพราะทหารต้องการขวัญและกำลังใจ ดังนั้น อะไรที่ทำให้ทหารอุ่นใจและมีกำลังใจก็จะทำให้ สำหรับผ้ายันต์หลวงพ่อวราห์ แห่งวัดโพธิ์ทอง บางมด กรุงเทพฯ ผ้ายันต์รุ่นบูชาครู จำนวน 2,000 ผืน และเหรียญครุฑ รุ่นเฉพาะกิจ จำนวน 2,000 เหรียญ ที่บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี […]

“มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่เสียหาย จ.สุรินทร์

สุรินทร์ 9 ส.ค.- “มาริษ” เผยเห็นภาพชัดขึ้น หลังลงพื้นที่ จ.สุรินทร์ สำรวจความเสียหายจากการโจมตีของกัมพูชา เตรียมใช้เป็นข้อชี้แจงนานาชาติ กัมพูชาใช้อาวุธระยะไกลโจมตีพื้นที่พลเรือน ยันพร้อมประสานให้ ICRC – UN มาดูพื้นที่ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่จังหวัดสุรินทร์ จากเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา ว่า เรื่องข้อมูลของการละเมิดสิทธิ และละเมิดกฎสหประชาชาติกฎหมายระหว่างประเทศของกัมพูชา เรามีข้อมูลครบถ้วนอยู่แล้ว เมื่อวันนี้ได้มาเห็นสภาพจริง และมาเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ได้เห็นภาพนอกเหนือจากข้อมูล ก็เป็นภาพที่เห็นชัดเจน รวมถึงการบรรยายสรุปของผู้ว่าราชการจังหวัด เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ที่อธิบายให้เห็นการโจมตีเป้าหมายที่ห่างไกลออกจากเขตแดน ซึ่งตนเองใช้เป็นข้อชี้แจงกับนานาชาติ และองค์กรสหประชาชาติว่าการใช้ประเภทอาวุธระยะไกลของฝ่ายกัมพูชาจะทำให้เกิดปัญหา และจะทำให้ประชาชนพลเรือนได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งเป็นการโจมตีเป้าหมายไปยังพลเรือน แต่ยังไม่สามารถเข้าไปดูพื้นที่กับระเบิด และวันนี้ทราบว่ามีทหารเหยียบกับระเบิดที่วางอยู่ตามแนวชายแดน โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจง และแสดงความผิดหวัง และไม่ปราถนาที่จะเห็นผลกระทบที่เกิดขึ้นในช่วงการเจรจา เพื่อแก้ไขปัญหาระหว่างกันให้สำเร็จอย่างยั่งยืน ส่วนนี้เราจะแสดงจุดยืนที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้อาวุธ หรือทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา อย่างชัดเจน นายมาริษ กล่าวว่าการเดินทางมาครั้งนี้ ได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในสิ่งที่เราเรียกร้องมาโดยตลอด ว่าเราทำตนอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศ เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และได้แสดงตนให้ประชาคมโลก […]

ทบ.ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – โฆษก ทบ. ชี้เหตุกำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวนเส้นทาง พื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สะท้อนกัมพูชาเริ่มใช้อาวุธก่อน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 กรณีกำลังพลของหน่วยกองร้อยทหารราบที่ 111 เหยียบกับระเบิด ขณะทำการลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่รอยต่อบ้านโดนเอาว์-บ้านกฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ได้แก่ 1. จ่าสิบเอก ธานี พาหา ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกัน บาดเจ็บรุนแรง ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด2. พลทหาร ภาคภูมิ ไชยสุระ ตำแหน่งพลปืนเล็ก บาดเจ็บบริเวณแขนและด้านหลัง3. พลทหาร ธนันชัย ไกรวงค์ […]