สนช. จัดงานเปิดตัวหนังสือ “สีจิ้นผิง ยุทธศาสตร์การบริหารประเทศ”

รัฐสภา 7 เม.ย.- สภานิติบัญญัติแห่งชาติ จัดงานเปิดตัวหนังสือ “สีจิ้นผิง ยุทธศาสตร์การบริหารประเทศ” ขณะที่รองนายกรัฐมนตรี ชี้ ควรอ่านหนังสือสีจิ้นผิง เพื่อเปรียบเทียบกับไทยและศึกษาแนวทางการบริหารประเทศที่เน้นการปฏิรูปเทศและยุทธศาสตร์


นายเจี่ยง เจี้ยนกั๋ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสารนิเทศแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน นายหนิงฟู่ขุย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย พร้อมด้วย นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ร่วมเปิดตัวหนังสือ และมีพิธีลงนามว่าด้วยความร่วมมือในการจัดพิมพ์หนังสือสีจิ้นผิง ยุทธศาสตร์การบริหารประเทศ ซึ่งทางสำนักงานสารนิเทศแห่งคณะรัฐมนตรีจีนได้ร่วมกับหน่วยงานรัฐรวบรวมสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ตั้งแต่ขึ้นรับตำแหน่งจนถึงวันที่ 13 มิถุนายน 2014 เพื่อตอบสนองความสนใจของสังคมโลก ให้โลกได้เข้าใจทัศนคติและแนวทางการพัฒนาประเทศจีน การปราบปรามทุจริต นโยบายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมถึงเส้นทางชีวิตของนายสีจิ้นผิง ซึ่งปัจจุบันหนังสือสีจิ้นผิง ยุทธศาสตร์การบริหารประเทศ เปิดตัวไปแล้วถึง 16 ภาษา พิมพ์จำหน่ายไปแล้วกว่า 6.2 ล้านเล่มทั่วโลก สำหรับภาษาไทย จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์มติชน

นายพรเพชร กล่าวว่า หนังสือเล่มนี้เป็นคลังความรู้ที่สำคัญ มีความโดดเด่นที่มีทั้งการบริหารประเทศ รวมถึงปรัชญาแนวคิดชัดเจน ซึ่งปัจจุบัน จีนได้พัฒนามาเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจของโลกแล้วยังรักษาศิลปวัฒนธรรมของจีนที่เจริญรุ่งเรืองยาวนาน อีกทั้งยังสะท้อนการบริหารประเทศที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ไม่ใช่เพียงการใช้อำนาจ แต่ต้องใช้สติปัญญา ความรู้รอบด้าน เพื่อผลักดันให้องคาพยพขับเคลื่อนไปอย่างพร้อมเพรียง ดังนั้น จึงหวังว่า หนังสือเล่มนี้ จะช่วยเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประเทศจีน อันจะนำไปสู่ความร่วมมืออย่างใกล้ชิด เพื่อให้มิตรภาพของ2ประเทศยั่งยืน


ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ร่วมกล่าวปาฐกถาพิเศษ ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แนะนำให้คณะรัฐมนตรีทุกคนได้อ่านหนังสือสีจิ้นผิง ยุทธศาสตร์การบริหารประเทศ ซึ่งครอบคลุมสุนทรพจน์และบทความการให้สัมภาษณ์ของนายสีจิ้นผิง ส่วนตัวเมื่ออ่านแล้ว ก็พบว่า หลายเรื่องที่ปรากฏในหนังสือคล้ายกับเรื่องในประเทศไทย อาทิ ศาสตร์พระราชา นโยบายของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ยอมรับว่า หนังสือเล่มนี้ ทำให้รู้ว่า นายสีจิ้นผิง มีความเป็นนักอ่าน นักคิด นักพูด นักเขียนและเป็นนักทำ ซึ่งเป็นคุณสมบัติ 5 ประการของผู้นำ 

“ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงได้นำวัฒนธรรมเก่าแก่ของจีนมาผสมผสานกับวัฒนธรรมยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี เมื่อกล่าวถึงประเทศจีน หลายคนอาจคิดว่า จีนเป็นประเทศมหาอำนาจและจะกวาดต้อนสิ่งต่างๆเข้ามาอยู่ในประเทศของตนเอง แต่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ก็กล่าวว่า เป็นเรื่องจริงที่จีนเป็นประเทศใหญ่ แต่ก็กินข้าวคนละจาน โดยเฉพาะเรื่องสิทธิมนุษยชน ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง กล่าวว่า รองเท้าของใครของมัน เจ้าของเท่านั้น ที่จะรู้ว่ารองเท้านั้นคับหรือหลวมไปหรือไม่ คนอื่นไม่สามารถรู้ได้” นายวิษณุ กล่าว

นายวิษณุ กล่าวอีกว่า เมื่อวานนี้ (6 เม.ย.) มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่เน้น 2 เรื่องสำคัญ คือ  การปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ ที่นายกรัฐมนตรีของไทยได้ย้ำว่า ต่อไปนี้ ประเทศไทย จะอยู่ในบรรยากาศของการปฏิรูปและยุทธศาสตร์ชาติตลอดไป แต่ที่น่าสนใจ คือ ในหนังสือเล่มนี้ ได้เขียนยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปของจีนไว้อย่างชัดเจน ซึ่งนายสีจิ้นผิง เริ่มต้นด้วยการประกาศว่า จีนจะเปิดประเทศ และเดินหน้าปฏิรูปประเทศ ด้วยความไม่ย่อท้อ และจะก้าวต่อไปไม่มีวันสิ้นสุด เมื่อนายกรัฐมนตรีของไทยได้มีโอกาสพบกับนายสีจิ้นผิง นายกรัฐมนตรีได้รับกำลังใจ ซึ่งนายสีจิ้นผิง ระบุว่า การปฏิรูปประเทศจำเป็นต้องใช้เวลา เพราะเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ซึ่งประเทศจีนใช้เวลามาแล้วหลายสิบปี ขณะนี้ก็ยังไม่แล้วเสร็จ ส่วนประเทศที่ยังไม่เริ่มต้น ก็น่าจะใช้เวลานานมากขึ้นอีก ดังนั้น ส่วนตัว จึงเห็นว่า หากจะอ่านหนังสือเล่มนี้ ก็ควรเปรียบเทียบกับประเทศไทยไปด้วย ช่วงเวลาที่ปรากฏในหนังสือเล่มนี้ คือ ช่วงปี 2555-2557 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทยเกิดวิกฤต รัฐบาลไม่สามารถบริหารประเทศได้ แต่เป็นช่วงที่ประเทศจีน เดินหน้าตามยุทธศาสตร์ชาติ ต่อต้านการทุจริต พัฒนาประเทศได้สำเร็จ ดังนั้น จึงอยากให้จีนจัดทำหนังสือภาคต่อออกมาอีกเพื่อจะได้เปรียบเทียบช่วงเวลาการบริหารประเทศของไทย.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย