กรุงเทพฯ 3 เม.ย.- ผู้เสียหายที่ถูกป้าขับแท็กซี่ ฉกทรัพย์เมื่อปี57 ร้องรองผบช.น.หลังคดีไม่คืบ
นางสาวปิยาณี ยมนานนท์ เดินทางมาที่ สน.พหลโยธิน เพื่อติดตามคดี หลังเมื่อปี 2557 เคยแจ้งความเอาผิดนางผุสดี อัญชัญภาติ คนขับแท็กซี่หญิงที่ ฉกเงินจำนวนกว่า 2,000 บาท และไล่ลงจากรถจนทำให้ประตูรถหนีบขาจนได้รับบาดเจ็บ แต่คดีไม่คืบ ซึ่งคนขับแท็กซี่ดังกล่าวเป็นคนเดียวกับที่ปรากฎในคลิปไล่ผู้โดยสารลงจากรถแท็กซี่ที่มีการเผยแพร่ในโลกโซเชียลเมื่อไม่นานมานี้
นางสาวปิยาณี เล่าว่าประมาณเดือนกันยายน 2557 เวลาประมาณ 21.00 น. ได้เรียกแท็กซี่คันดังกล่าวจากห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งไปย่านลาดพร้าว เห็นว่าน่าจะปลอดภัยเพราะผู้หญิงเป็นคนขับ แต่ตลอดทางถูกคนขับพยายามใช้วาจาไม่สุภาพต่อว่าตนตลอดเวลาว่าเรื่องมาก จะให้เข้าไปส่งในซอยแคบๆ ซึ่งตนก็ได้ขอลงเพื่อจะต่อแท็กซี่คันอื่นแต่ไม่ยอมจอดรถ และพยายามไล่ตนลงจากรถตลอดจนถึงบริเวณลาดพร้าวซอย 1 ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยวและมืด แท็กซี่ก็จอดรถและไล่ พร้อมกระชากเงินไปจากมือประมาณ 2,000 บาท พอจะก้าวขาลงกลับขับรถกระชากออกไปทันที ทำให้ประตูรถกระแทกที่หน้าแข้งจนเป็นแผลฟกช้ำ จึงตัดสินใจกระโดดลงจากรถเพราะกลัวอันตราย และเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.พหลโยธิน โดยไม่คิดว่าหญิงรายดังกล่าวจะกลับมาขับรถแท็กซี่อีก และยังมีพฤติกรรมเหมือนเดิม วันนี้(3 เม.ย.)จึงเดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดี.-สำนักข่าวไทย
ด้านพลตำรวจตรีมนตรี ยิ้มแย้ม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุ เบื้องต้น ตำรวจจะแจ้งข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขัง และวิ่งราวทรัพย์ กับนางผุสดี และหลังจากได้ผลตรวจร่างกายผู้เสียหายจากแพทย์ ที่มีการตรวจไว้ตั้งแต่ปี 2557 ก็จะพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายเพิ่มเติม
สำหรับนางสาวผุสดี ได้เคยก่อเหตุในลักษณะนี้ในหลายพื้นที่ ทั้ง สน.บางซื่อ และสน.บางเขน จนถึงออกหมายจับ และทางกรมการขนส่งทางบกได้เพิกถอนใบขับขี่นางผุสดี ไปเมื่อปี 2558 แต่ตลอดมาก็ยังขับรถแท็กซี่อีก ทั้งที่ไม่ได้รับอนุญาต ดังนั้นทางอู่ต้นสังกัดที่ให้นางผุสดีเช่ารถ จะมีความผิดตามพระราชบัญญ้ติขนส่งทางบก และหากผู้ใดพบเห็นนางสาวผุสดีก็สามารถแจ้งตำรวจให้จับกุมได้ทันที เนื่องจากเป็นบุคคลมีหมายจับอยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย