ยธ.3 เม.ย.-ป.ป.ส.เตรียมประสานลาว สอบเครือข่าย ไซซะนะ ขยายผลต่อเนื่อง
นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการสำนักงานปัองกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กล่าวถึงกรณีทางการลาวจับกุมตัว นายสีสุก ดาวเฮือง หรือเฮียเตื้อง หุ้นส่วนธุรกิจและคนใกล้ชิด นายไซซะนะ แก้วพิมพา นักค้ายาเสพติดข้ามชาติที่ไทยจับกุมได้เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมาว่า สืบเนื่องจากทางการไทยได้ให้ข้อมูลกับทางการลาวถึงความเชื่อมโยงระหว่างนายสีสุก นายไซซะนะ และนายคอนประสงค์ สุขเกษม ซึ่งถูกจับกุมไปแล้วว่าเป็นกลุ่มเครือข่ายยาเสพติดเดียวกัน เป็นผลให้ทางการลาวทำการสืบสวนกระทั่งนำไปสู่การจับกุมตัวนายสีสุกได้ที่หลวงพระบาง
เบื้องต้นทราบว่าเป็นการจับกุมโดยไม่มีของกลางยาเสพติด แต่สืบสวนจนพบว่ามีพฤติกรรมค้ายาเสพติดร่วมกัน ซึ่งตามกฎหมายลาวแม้ไม่มีของกลางตัวยา ก็สามารถยึดและอายัดทรัพย์ไว้ได้ เพราะลักษณะของนายสีสุก เป็นนายทุน ผู้สั่งการ ซึ่งจากข้อมูลทางการเงินพบว่าเชื่อมโยงกับการสั่งยาเสพติดจากแหล่งผลิต อยู่ในระดับเดียวกับนายไซซะนะและนายคอนประสงค์
ที่ผ่านมาไทยได้รับความร่วมมืออย่างดีจากทางการลาว หลังจากนี้ ป.ป.ส.และกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) อยู่ระหว่างการประสานกับทางการลาวเพื่อเข้าไปสอบปากคำนายสีสุก ซึ่งป.ป.ส.ไทยมีอัครราชฑูตที่ปรึกษาของป.ป.ส.ประจำการอยู่แล้ว การสอบปากคำก็เพื่อให้ได้ข้อมูลนำไปขยายผลหาตัวบุคคลผู้อยู่เบื้องหลังรายอื่น ๆ เนื่องจากนายสีสุกใช้เครือข่ายในไทยส่งยาเสพติดไปในพื้นที่ภาคใต้ และส่งออกไปยังมาเลเซีย
เลขาป.ป.ส. กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ตัวการระดับแกนนำเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวถูกจับกุมเกือบหมดแล้ว ยกเว้นนายอุสมาน สะแลแมง หัวหน้าเครือข่าย อย่างไรก็ตามป.ป.ส.และ บช.ปส.ก็จะยังสืบสวนอย่างต่อเนื่องหากมีข้อมูลขยายผลว่ามีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลังอีก
ทั้งนี้ กรณีของท้าวสีสุก ไทยไม่จำเป็นต้องประสานขอตัวมาดำเนินคดี เพราะไม่มีหมายจับในไทย เช่นเดียวกับกรณีนายไซซะนะที่ลาวก็ไม่ได้ประสานขอตัวกลับไปดำเนินคดี เพราะถูกออกหมายจับโดยทางการไทย จะเป็นเพียงการขอเข้าสอบปากคำเพื่อนำข้อมูลมาขยายผลต่อเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย