สาวลำพูนเก๋งชนลากไกล2กม.ก่อนเสียชีวิต

ลำพูน 31 มี.ค.- สุดสลด! เก๋งชนแล้วหนี ลากร่างสาวไกลกว่า 2 กม. สุดยื้อชีวิต เพื่อนแห่อาลัย


กลางดึกวานนี้ (30 มี.ค.) พ.ต.ท.ยุทธนา อุตรพงษ์ สารวัตรสอบสวนเวร สภ.เมืองลำพูน ได้รับแจ้งเหตุจาก ร.ต.ท.ไพศาล อาจารีย์ เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุจามเทวีว่า เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์ ที่เยื้องกับสำนักงานสถิติจังหวัดลำพูน ตำบลต้นธง มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิงติดไปกับท้องรถยนต์ที่ขับหลบหนีไป จึงแจ้งวิทยุสกัดจับ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีพลเมืองดีติดตามรถดังกล่าวไปแล้วขับรถจักรยานยนต์ชนด้านข้างรถยนต์ เพื่อให้รถยนต์หยุด ซึ่งก็สามารถหยุดรถคันดังกล่าวได้ บริเวณถนนสายลำพูน-ป่าซาง ติดกับประตูรั้วด้านทิศใต้ของโรงเรียนส่วนบุญโญปถัมภ์ 


ภายใต้ท้องรถยนต์ พบร่างของหญิงสาวอายุ 19 ปี ติดอยู่ใต้ท้องรถ เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ชีพกู้ภัยลำพูน และเจ้าหน้าที่กู้ชีพ รพ.ลำพูน จึงนำร่างออกมา และทำการปั๊มหัวใจ เพื่อช่วยชีวิต เนื่องจากแขนขาหัก ชีพจรอ่อน ก่อนจะนำส่งไปรักษาตัวที่ รพ.ลำพูน แต่หญิงสาวคนดังลก่าวทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา


จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าขณะที่ผู้เสียชีวิตกำลังขับรถจักรยานยนต์แบบสกู๊ปปี้ไอ กลับจากไปทำงานที่ห้างสรรพสินค้าแจ่มฟ้าพลาซา เพื่อกลับบ้าน จู่ๆ มีรถยนต์สีบรอนเงิน คนขับเป็นชายอายุ 39 ปี พนักงานบริษัทขายสินค้าเงินผ่อนชื่อดังแห่งหนึ่ง ขับมาถึงที่เกิดเหตุได้เฉี่ยวชนเข้ากับรถจักรยานยนต์ของหญิงสาวคนดังกล่าว รถจักรยานยนต์กระเด็นตกข้างทาง ก่อนที่ร่างของหญิงสาวคนดังกล่าวจะถูกรูดเข้าไปภายใต้ท้องรถ แต่คู่กรณีไม่ยอมหยุดรถ ได้พยายามขับหลบหนีไปทั้งๆ ที่มีร่างของหญิงสาวคนดังกล่าวติดอยู่ พลเมืองดีเห็นเข้าจึงขับรถจักรยานยนต์ตาม และพยายามตะโกนให้หยุดแต่คู่กรณีไม่ยอมหยุดพลเมืองดีจึงตัดสินใจขับรถจักรยานยนต์ชนเข้าที่บริเวณด้านข้างรถยนต์ด้านขวา จึงสามารถหยุดรถยนต์คันดังกล่าวได้ 

พ.ต.ท.ยุทธนา อุตรพงศ์ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองลำพูน กล่าวว่า คดีนี้ได้ตั้งข้อหาผู้ต้องหา ไว้ 3 ข้อหา คือ 1. ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต 2. ขับรถในขณะมึนเมาสุรา ซึ่งจากการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ มีมากกว่า 190 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ และ 3. ขับรถแล้วหนีขณะเกิดอุบัติเหตุโดยไม่แจ้งแก่เจ้าพนักงาน ทั้งหมดนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา

ขณะที่ ทางญาติของผู้เสียชีวิต ได้มาพบกับพนักงานสอบสวนเพื่อจะติดต่อขอรับศพ โดยยังอยู่ในอาการเสียใจ พร้อมบอกว่า น้องทำงานเป็นพนักงานขายโทรศัพท์ของบริษัทแห่งหนึ่ง เลิกงานจะกลับบ้านเลยเกิดอุบัติเหตุถูกรถชนแล้วลากไปไกลจนเสียชีวิต ซึ่งตรงนี้ติดใจตรงที่ว่าคนขับใจดำขับรถหนี จนทำให้เสียชีวิต หากจอดรถช่วยเหลือคงจะไม่เป็นอะไรมากถึงขั้นเสียชีวิต จึงอยากขอให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และเสียใจมาก เนื่องจากน้องยังมีอนาคตด้านนางงามที่ได้ประกวดมาหลายเวที ซึ่งเป็นสาวสวย เคยประกวดเวทีนางงามนพมาศ และนางงามธิดาลำไย ได้ตำแหน่งล่าสุดรางวัลชมเชยธิดาลำไยลำพูน ในปีที่ผ่านมา โดยที่ครอบครัวตั้งใจจะส่งเสริมให้มีการประกวดต่อไป แต่ต้องมาเสียชีวิตด้วยเหตุดังกล่าว

ภายหลังจากที่เกิดเหตุการณ์น่าสลดใจดังกล่าวขึ้น บนโลกออนไลน์ได้เกิดกระะแสการแชร์โพสต์สุดท้ายจากเฟซบุ๊กของผู้เสียชีวิต โดยเจ้าตัวได้โพสต์ข้อความเมื่อเวลา 20.50 น. วันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า “เหนื่อยกับงานยังไม่พอ ยังต้องมาเหนื่อยกับคนอีก”

ทั้งนี้ ภายหลังที่ผู้เสียชีวิต โพสต์ข้อความดังกล่าวไปนาน ต่างมีเพื่อนๆ เข้ามาคอมเมนต์ให้กำลังใจเจ้าตัวเป็นอย่างมาก อาทิ “เหนื่อยมามากแล้ว พักผ่อนให้สบายนะเพื่อน”.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กั้นแนวถนนบ้านหนองจาน ตามประกาศเคอร์ฟิว

สระแก้ว 27 ส.ค. – มวลชนชาวไทยร่วมร้องเพลงชาติ ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เมื่อเวลา 18.00 น. จากนั้นทหารขอความร่วมมือให้ออกนอกพื้นที่ ตามประกาศเคอร์ฟิว ก่อนนำลวดหนามและเครื่องกีดขวาง กั้นแนวขอบถนนศรีเพ็ญ ห้ามผู้ใดข้ามไป เพื่อความปลอดภัย. – สำนักข่าวไทย

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6

เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

“มาริษ” แจงข้าหลวงใหญ่ UN ปมกัมพูชา

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เผยคุยรองข้าหลวงใหญ่ UN ปมไทย-กัมพูชา สัญญาณบวก เข้าใจไทยไม่ทำผิดกติการะหว่างประเทศ ไม่เห็นด้วย “ฮุน เซน” อัดเสียงคุยนายกฯ และการใช้สงครามข่าวปลอม นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือกับนางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา นายมาริษ เปิดเผยภายหลังการหารือว่า ได้เล่าให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ฟังถึงการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกัมพูชาในหลายประเด็น ซึ่งรองข้าหลวงใหญ่ฯมีความเห็นที่สนับสนุนประเทศไทยในหลายเรื่อง และมีท่าทีที่เป็นห่วงประเทศไทยมาก ซึ่งตนได้ชี้แจงข้อเท็จจริง โดยเฉพาะการที่กัมพูชาใช้โซเชียลมีเดียโจมตีไทยมานานแล้ว มีการให้ข้อมูลว่าไทยลอกเลียนแบบวัดและประวัติศาสตร์ของกัมพูชา ซึ่งไทยพยายามแก้ไขปัญหานี้ด้วยความอดทนอดกลั้น และพยายามชี้แจงให้เห็นว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่ก่อตั้งกันมาจากรากเหง้าทางวัฒนธรรมเดียวกัน ไทยต้องการแก้ไขปัญหาไม่ต้องการแสดงความร้าวฉานระหว่างชุมชนและ ประชาชนของทั้งสองประเทศ และเมื่อปัญหาคุกรุ่นมากขึ้นไทยก็พยายาม แก้ปัญหาด้วยการให้กัมพูชามาพูดคุยแบบทวิภาคี เป็นการอธิบายให้รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้เข้าใจว่าไทยปฏิบัติตามกติกา ยึดถือกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ และพยายามหาทางให้กัมพูชามาพูดคุยกับไทย ซึ่งไทยกับกัมพูชามีข้อตกลง MOU43 ที่ทั้งสองประเทศจะต้องแก้ปัญหาร่วมกันอย่างสันติวิธี และด้วยความจริงใจ นับเป็นกลไกที่องค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญ คือการเจรจาทวิภาคีโดยสันติและจริงใจ โดยไทยยึดมั่นมาโดยตลอด และเป็นเป้าหมายที่สำคัญของไทย นายมาริษ กล่าวว่าตนได้หยิบยกประเด็นที่สมเด็จฮุน เซน อัดเสียงพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีของไทย และนำมาเผยแพร่ในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง […]

“ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว

ศาลอาญาฯ 27 ส.ค. – “ทิดอลงกต-หมอบี” นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันตัว เหตุคดีมีอัตราโทษสูง และมีทรัพย์สินมูลค่าความเสียหายสูง พนักงานสอบสวน กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันปราบปราม ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ขอฝากขังครั้งแรก พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือนายอลงกต พูลมุข ผู้ต้องหาที่ 1 และนายเสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล ผู้ต้องหาที่ 2 ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยินยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าโดยทุจริต, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ความผิดกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่รักษาทรัพย์ใดฯ, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, ฟอกเงินและสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอนุญาตให้ฝากขัง 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.- 7 ก.ย.นี้ โดยผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 […]