เชียงใหม่ 30 มี.ค.- ภรรยา รอง ผบช.ภ.5 ร้องไห้ ถูกไล่ลงเครื่องบินสายการบินต้นทุนต่ำ ระหว่างขึ้นเครื่องจากดอนเมือง เพื่อจะไปลงอุดรธานี เหตุขอวีลแชร์เมื่อถึงสนามบินปลายทาง
พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ร้องกับสื่อมวลชนเชียงใหม่ว่า นางยศวดี ปานเหง้า อายุ 54 ปี ภรรยา ถูกแอร์โฮสเตสสายการบินต้นทุนต่ำแห่งหนึ่ง ไล่ลงจากเครื่องบินช่วงสายของวันนี้ (30 มี.ค.) ขณะขึ้นเครื่องจากสนามบินดอนเมือง ปลายทางจังหวัดอุดรธานี
โดย นางยศวดี เล่าว่า ช่วงเช้าวันนี้ได้เดินทางไปเช็กอิน และขึ้นเครื่องตามเวลาที่กำหนด ก่อนเครื่องออก ระหว่างนั้นสังเกตเห็นพนักงานให้บริการรถวีลแชร์กับผู้โดยสารรายอื่น จึงเข้าไปคุยกับแอร์โฮสเตส พร้อมแจ้งว่า หากถึงท่าอากาศยานอุดรธานี อาจจำเป็นต้องขอรถวีลแชร์ให้ช่วยเหลือนำรถจากเครื่องบิน ในกรณีที่ตนเกิดอาการเวียนศีรษะ แต่หลังจากเดินไปนั่งยังที่นั่งบนเครื่อง ปรากฏว่าแอร์โฮสเตส ซึ่งเดินไปแจ้งให้กัปตันทราบแล้วได้เดินมาเชิญตนลงจากเครื่องบิน
พร้อมแจ้งว่าตนไม่สามารถโดยสารไปกับเที่ยวบินนี้ได้ เพราะเป็นกฎของการบิน และเพื่อความปลอดภัย เมื่อตนพยายามชี้แจงว่า ได้สอบถามแพทย์ที่รักษาตนแล้วว่าสามารถขึ้นเครื่องบินได้หรือไม่ แพทย์ระบุว่า สามารถโดยสารเครื่องบินได้ตามปกติ แต่แอร์โฮสเตสกลับขอเอกสารหนังสือรับรองจากแพทย์ เมื่อตนยื่นเอกสารให้ตรวจสอบ เเอร์โฮสเตสกลับไม่ยอมฟัง และยังเชิญตนลงจากเครื่อง ทำให้ต้องโทรศัพท์ไปคุยกับพยาบาลที่โรงพยาบาลที่ตนรักษา ซึ่งแม้พยาบาลยืนยันเช่นเดียวกับแพทย์ที่รักษาตน เเต่แอร์โฮสเตสไม่ยินยอม และยังเรียกเจ้าหน้าที่อีก 3-4 คนมาเชิญตนลงจากเครื่อง
ครั้งแรกตนไม่ยอมลงจากเครื่อง เพราะเห็นว่าไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจน และเมื่อทวงถามเงินค่าโดยสารคืนจำนวน 1,450 บาท กลับถูกบ่ายเบี่ยงจนเกิดการโต้เถียงกันขึ้น แต่สุดท้ายตนต้องยอมลงจากเครื่อง โดยมีเจ้าหน้าที่ของสายการบินและท่าอากาศยานนำลงมา
นอกจากนี้ ผู้โดยสารในเครื่องต่างพากันถ่ายภาพตนเอง ทำให้เสียใจเป็นอย่างมาก ถึงกับร้องไห้น้ำตาซึม และยังถูกผู้โดยสารกดดัน ตะโกนเรี่ยไรเงินกัน คนละ 1 บาท เพื่อคืนเงินค่าโดยสารให้ จนต้องลงจากเครื่อง ทำให้ตนเองเสียใจเป็นอย่างมาก และได้โทรศัพท์มาเล่าเรื่องทั้งหมดให้สามีฟัง พร้อมประกาศจะไม่ใช้บริการสายการบินดังกล่าวอีก โดยหลังจากถูกเชิญลงเครื่อง ก็ได้ไปจองตั๋วโดยสารของสายการบินอื่น เพื่อเดินทางกลับ จ.อุดรธานี ในช่วงบ่ายวันนี้
ขณะที่ฝ่ายสื่อสารองค์กรสายการบินต้นทุนต่ำดังกล่าว ได้ออกชี้แจงถึงกรณีที่มีผู้โดยสารรายหนึ่งออกมาระบุว่าถูกไล่ลงจากเที่ยวบิน เส้นทางบินดอนเมือง-อุดรธานี ซึ่งมีกำหนดออกเดินทางจากดอนเมืองเวลา 10.00 น. วันที่ 30 มี.ค. ว่า ก่อนเที่ยวบินดังกล่าวจะขึ้นบินจากสนามบินดอนเมือง มีผู้โดยสารหญิงรายหนึ่งซึ่งเดินทางมาคนเดียว เดินทางขึ้นมานั่งบริเวณที่นั่งผู้โดยสาร และแจ้งกับลูกเรือว่าจะขอใช้บริการวีลแชร์ เมื่อเดินทางไปถึงยังปลายทางคือสนามบินอุดรธานี โดยให้เหตุผลว่าไม่ค่อยสบาย เนื่องจากเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน
ลูกเรือได้ปฏิบัติตามหลักมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบิน ด้วยการขอดูใบรับรองแพทย์ที่เซ็นอนุญาตให้เดินทางบนเครื่องบิน เนื่องจากโรคดังกล่าวเป็นโรคที่อันตรายต่อการโดยสารเครื่องบิน เนื่องจากภายในห้องโดยสารจะมีการปรับเปลี่ยนความดันเมื่อทำการบินในระยะที่สูงขึ้น ซึ่งอาจจะกระทบต่อความปลอดภัยของผู้โดยสารเอง ซึ่งผู้โดยสารแจ้งกับลูกเรือว่าไม่มีใบรับรองแพทย์
จากนั้นลูกเรือได้ขอให้ผู้โดยสารทำการลงชื่อในเอกสารรับรองความปลอดภัยของตนเองตามแบบฟอร์มของสายการบิน กรณีที่ผู้โดยสารประสงค์จะเดินทางแต่ไม่มีใบยินยอมการเดินทางจากแพทย์ แต่ผู้โดยสารคนดังกล่าวไม่ยอมลงชื่อ โดยไม่ได้บอกเหตุผลของการไม่ยอมลงชื่อ ทำให้นักบินตัดสินใจขอให้ผู้โดยสารคนดังกล่าวงดการเดินทางกับเที่ยวบินดังกล่าว เพราะเกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัยกับผู้โดยสาร.-สำนักข่าวไทย