กรุงเทพฯ 30 มี.ค. – คลังยังหวังจีดีพีโตร้อยละ 4 จากเป้าหมายเดิมร้อยละ 3.6 หลังราคาสินค้าเกษตรดีขึ้น ยอดขายรถยนต์ขยายตัวสูง การลงทุนรถไฟทางคู่เดินหน้า จับตาเอกชนยื่นแผนลงทุนขอลดหย่อนภาษี 1.5 เท่า
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังเดือนกุมภาพันธ์ 2560 ขยายตัวได้ดีจากการใช้จ่ายภาคเอกชน สะท้อนจากเครื่องชี้การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวได้ดี สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่มขยายตัวร้อยละ 3.4 ต่อปี ปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวร้อยละ 14.9 ต่อปี ขยายตัวทั้งในเขตกรุงเทพมหานครและในเขตภูมิภาคที่ร้อยละ 10.6 และ 16.3 ต่อปี สำหรับยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งขยายตัวร้อยละ 49.8 ต่อปี โดยเป็นการขยายตัวต่อเนื่องจากการที่ค่ายรถยนต์แนะนำรถยนต์รุ่นใหม่เดือนมกราคม 2560 ประกอบกับปัจจัยฐานต่ำจากการชะลอการซื้อรถยนต์หลังมีการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ต้นปี 2559
ทั้งนี้ สอดคล้องกับรายได้เกษตรกรขยายตัวร้อยละ 19.8 ต่อปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นทั้งผลผลิตและราคาสินค้าเกษตร สะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรมขยายตัวร้อยละ 8.2 ต่อปี เช่น ข้าวเปลือก ข้าวโพด ปาล์มน้ำมัน ไม้ผล ราคายางพาราสูง 90 บาทต่อกิโลกรัม แนวโน้มเศรษฐกิจไตรมาสแรก จึงคาดว่าขยายต่อเนื่องจากสิ้นปี 2559 โดยกระทรวงคลังคาดว่าจีดีพีทั้งปีขยายตัวร้อยละ 3.6 ในช่วงแรก แต่หากการลงทุนภาครัฐ โดยเฉพาะรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง ผ่าน ครม.ไปแล้ว การลงทุนภาคเอกชนส่งแผนลงทุนกับกรมสรรพากร เพื่อนำเงินหักลดหย่อนภาษี 1.5 เท่า การใช้จ่ายเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านโครงการต่าง ๆ และหากการส่งออกขยายตัวเหมือนกับต้นปี จึงคาดว่าจีดีพีทั้งปีมีโอกาสขยายตัวร้อยละ 4 ตามที่ปลัดกระทรวงการคลังคาดการณ์ไว้
สำหรับผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ มียอดรวม 1.014 ล้านล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 14,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 3 กรมภาษีจัดเก็บ 901,000 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 23,000 ล้านบาท แต่ต่ำกว่าเป้าหมายร้อยละ 2.2 ขณะที่ฐวิสาหกิจจัดเก็บไว้ 50,052 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายร้อยละ 22 หน่วยงานรัฐอื่นจัดเก็บได้ 61,482 ล้านบาท คาดว่ารายได้ทั้งปีน่าจะทำได้ตามเป้าหมาย.-สำนักข่าวไทย