โรงแรมสุโกศล 29 มี.ค.-กสทช.จัดงานจิบกาแฟหารือหัวข้อ กะเทยเกณฑ์ทหารผ่านสื่อ ระดมแนวทางการเสนอข่าวที่เหมาะสมของสื่อ วอนเคารพสิทธิทางเพศ
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยสำนักคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ ร่วมกับมูลนิธิเครือข่ายเพื่อกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน และ American Jewish World Service – AJWS จัดงานจิบกาแฟนั่งคุย หัวข้อ “กะเทยเกณฑ์ทหารผ่านสื่อ” สืบเนื่องจากระหว่างวันที่ 1-12 เมษายนของทุกปี เป็นช่วงของการตรวจเลือกทหารกองประจำการ หรือเกณฑ์ทหาร ซึ่งภายในงานได้เผยแพร่การศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหาข่าวผ่านสื่อโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ย้อนหลัง 3 ปี ตั้งแต่ปี 2557-2558 ของนายรณภูมิ สามัคคีคารมย์ อาจารย์ประจำคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และประธานเครือข่ายเพื่อนกะเทยไทย ที่พบว่าในช่วงการเกณฑ์ทหารจะมีการนำเสนอข่าวกะเทยหรือคนข้ามเพศ ผ่านสื่อมวลชนต่าง ๆ ทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ ที่อาจแฝงเร้นด้วยอคติทางเพศ เช่น การระบุคำว่า “นาย” การให้แสดงบัตรประชาชนของสาวประเภทสองผ่านกล้อง การสัมภาษณ์เรื่องการทำศัลยกรรมและค่าใช้จ่าย การนำเสนอว่าหากเข้าไปจะสร้างความวุ่นวายในค่ายทหารหรือเป็นสีสันในกองทัพ รวมถึงการพาดหัวข่าวว่า “ฮือฮา…” “หนุ่มสวยแห่เกณฑ์ทหาร” “สังคมนี้อยู่ยากขึ้นทุกวัน” “ถ้าสวยขนาดนี้ยกมดลูกให้เลย” เป็นต้น
นายภักดี มะนะเวศ รองเลขาธิการ กสทช.กล่าวว่า กสทช.เล็งเห็นประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นกรณีศึกษาให้ผู้ประกอบการสื่อได้พัฒนารูปแบบและเนื้อหารายการและข่าวที่เคารพให้หลักการสิทธิมนุษยชนและสิทธิทางเพศ จึงนำมาสู่การสร้างพื้นที่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้บริโภคสื่อกลุ่มความหลากหลายทางเพศ โดยขณะนี้ทางสำนักคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ ได้ร่วมกับมูลนิธิเครือข่ายเพื่อกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน กำลังยกร่างแนวปฏิบัติการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนในประเด็นความหลากหลายทางเพศ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือสำหรับสื่อในการนำเสนอข่าวต่อไป
ทั้งนี้ ในวงจิบกาแฟ หลายฝ่ายได้ร่วมแลกเปลี่ยน พร้อมมีข้อคิดเห็นให้สื่อมวลชนมีแนวปฏิบัติในการทำข่าว ว่า จะต้องขอความยินยอมจากแหล่งข่าว การให้ข้อมูลการเผยแพร่และช่องทางการติดต่อกลับแก่แหล่งข่าว ต้องไม่ระบุคำว่า “นาย” แต่ให้ใช้คำว่า “คุณ” หรือไม่ต้องระบุคำนำหน้า ขณะเดียวกันต้องนำเสนอข่าวรอบด้าน ไม่พาดหัวข่าวหรือนำเสนอเนื้อหาที่แสดงให้เห็นถึงความแปลก ความประหลาด ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น บัตรประชาชน หรือข้อมูลอื่นใดที่จะสร้างผลกระทบให้แหล่งข่าวด้วย.-สำนักข่าวไทย
