คาดเลือกตั้งสหรัฐกระทบไทยระยะสั้น

กรุงเทพฯ  10 พ.ย. –  ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบีคาดเลือกตั้งสหรัฐ “Trump Shocks” จะส่งผลให้ตลาดเงินและตลาดทุนไทยผันผวนเพียงระยะสั้น ขณะที่ระยะยาวเศรษฐกิจสหรัฐมีโอกาสเจอกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจนส่งผลให้เฟดต้องปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเร็วกว่าคาด


ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบีวิเคราะห์ว่าภายหลังผลการเลือกตั้งสหรัฐครั้งล่าสุดออกมาพลิกความคาดหมายของนักวิเคราะห์ โดยไม่เพียงแต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนที่ 45  สภาครองเกรสก็ยังตกอยู่ภายใต้การควบคุมเบ็ดเสร็จของพรรครีพับลิกัน ทำให้ตลาดทุนทั่วโลกกังวลกับนโยบายสุดโต่งของนายทรัมป์ หลังจากที่เคยชินกับนโยบายเศรษฐกิจแบบเดิม ๆ ของพรรคเดโมแครตมาเกือบทศวรรษ แต่หลังจากนายทรัมป์กล่าวสุนทรพจน์ตอบรับชัยชนะ ตลาดกลับคลายกังวลอย่างรวดเร็วมาก ชี้ว่าปรากฏการณ์ “Trump Shocks” อาจส่งผลที่คาดเดาได้ยากและนักลงทุนควรระมัดระวังการลงทุนช่วงนี้เป็นพิเศษ

Trump Shocks เริ่มปั่นป่วนตลาดทันทีที่คะแนนเสียงของนายทรัมป์เริ่มนำนางคลินตันอย่างชัดเจน ทำให้นักลงทุนลดความเสี่ยงอย่างฉับพลันและเข้าถือสินทรัพย์ปลอดภัย ทำให้ดัชนีนิเคอิของญี่ปุ่นร่วงรุนแรงถึง ร้อยละ  6.63 และเงินเยนแข็งค่าร้อยละ 3.97  เวลาเดียวกันตลาดหุ้นไทยก็ปรับตัวลงร้อยละ  1.47 และบอนด์ยีลด์ลดลงทันที อย่างไรก็ตาม นักลงทุนกลับต้องช็อคอีกระลอกหลังนายทรัมป์กล่าวสุนทรพจน์ตอบรับชัยชนะและเน้นย้ำถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ไม่เลวร้ายเหมือนในช่วงหาเสียง ส่งผลให้มีแรงเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหนัก  ทำให้ดัชนี S&P500 กลับมาบวกและพันธบัตรสหรัฐเผชิญแรงขายอย่างรุนแรง และตอนเช้าตลาดเอเชียก็รับอาการช็อคด้วยการกลับมายืนที่จุดเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


จากปรากฎการณ์ Trump Shocks ศูนย์วิเคราะห์ฯ มองตลาดจะมีความผัวนผวนต่อเนื่องระยะสั้น เนื่องจากนักลงทุนส่วนมากยังสับสนกับนโยบายของนายทรัมป์และผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และความผันผวนในตลาดจะคงอยู่จนกว่านายทรัมป์จะประกาศนโยบายที่แน่ชัดออกมาในช่วงเดือนมกราคมปีหน้า ส่วนระยะยาวมองว่าสิ่งที่จะกำหนดทิศทางของตลาดทุนไทยที่แท้จริง คือ นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยมองผลลัพธ์ออกเป็น 2 กรณี คือ กรณีที่นโยบายเศรษฐกิจของนายทรัมป์ได้รับอนุมัติทั้งหมด เชื่อว่าจะก่อให้เกิด Trump Shocks อีกรอบและเงินเฟ้อดีดตัวอย่างชัดเจน เป็นผลมาจากนโยบายการค้าและผู้อพยพที่สุดโต่ง ทำให้เฟดจำต้องตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยเร็ว โดยคาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ย 1 ครั้งสิ้นปีนี้ร้อยละ 0.25 และเพียง 2-3 ครั้ง ร้อยละ 0.25 ในปีหน้า ซึ่งกรณีนี้จะส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุนโลกเร็วขึ้น ส่งผลให้เกิดแรงขายทั้งในหุ้นและบอนด์ไทยกดดันค่าเงินบาทให้อ่อนค่าอีกประมาณร้อยละ 3 จากสิ้นปีนี้ถึงปีหน้า

ส่วนกรณีที่นโยบายเศรษฐกิจของนายทรัมป์ได้รับการตอบสนองบ้าง แม้เศรษฐกิจจะเติบโตได้น้อยกว่าแต่จะไม่มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและระดับหนี้สิน ส่งผลให้เฟดมีโอกาสที่จะใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายได้ต่อ โดยคาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเพียง 1 ครั้ง ในสิ้นปีนี้และอีก 1 ครั้งในปีหน้า ส่งผลให้ค่าเงินบาทอาจอ่อนค่าเพียงเล็กน้อยร้อยละ 1.5 จากสิ้นปีนี้ถึงปีหน้า

ทั้งนี้ ปรากฎการณ์ Trump Shocks ชี้ให้เห็นว่าตลาดการเงินหลังจากนี้ยากที่จะคาดเดาทั้งผลกระทบทางเศรษฐกิจและทิศทางเงินทุนเคลื่อนย้าย   จากนี้ไปจนถึงปีหน้าคงจะยังมีเรื่องช็อคอื่นอีกนอกจาก Trump Shocks ที่เพิ่งผ่านพ้นไปไม่ว่าจะเป็นแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก การกีดกันทางการค้า การเมืองในยุโรป และปัญหาหนี้เสียในจีน ดังนั้น ผู้ประกอบการและนักลงทุนไทยจึงควรตั้งอยู่ในความไม่ประมาทและเตรียมตัวรับกับความผันผวนของตลาดที่จะยังมีมากขึ้นเรื่อย ๆ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สีสันวันมงคล ครม.

26 ก.ย. – นายกรัฐมนตรีถือฤกษ์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ในโอกาสเข้าไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการครั้งแรก ขณะที่ยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกัน แต่ละคนถือเคล็ดต่างกันไป สีสันวันมงคล ครม. -สำนักข่าวไทย

จารึกนาม “16 ทหารกล้า” แนวหน้าชายแดนไทย-กัมพูชา

26 ก.ย. – กองทัพบก จัดพิธีจารึกนาม และสดุดีกำลังพล ผู้สละชีพเพื่อชาติ จากกรณีพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชา อย่างสมเกียรติ.-สำนักข่าวไทย

รอปูนแข็งตัว 6 ชม. แล้วเทซ้ำ วนไปจนถึงวันอาทิตย์

กทม. 26 ก.ย. – ผู้รับเหมาปรับแผน การเทปูนลงหลุมยักษ์ เป็นการเทตามวงรอบ 6 ชั่วโมง เว้น 6 ชั่วโมง เพื่อให้ปูนแข็งตัว โดยปูนที่เทลงไปก่อนหน้าได้ไปอุดช่องโหว่ในจุดที่จะเสี่ยงให้เกิดดินสไลด์ได้ทั้งหมด 100% แล้ว คาดการเทปูน จะจบตามแผนภายในวันอาทิตย์นี้.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย