กลาโหม 27 มี.ค.-พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยภายหลังการประชุมสภากลาโหม ที่มีพล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ว่า พล.อ.ประวิตร ได้มอบนโยบายในการสร้างความสามัคคีปองดอง โดยมุ่งเน้นประชาชนเป็นศูนย์กลาง สร้างความรับรู้ของประชาชน เน้นประโยชน์ส่วนรวมของประเทศเป็นหลัก ส่วนการจัดซื้อจัดจ้างของกระทรวงกระโหมก็ให้เกิดความโปร่งใส ใช้งบประมาณที่มาจากภาษีประชาชนให้เกิดประโยชน์ สามารถตรวจสอบได้ ไม่ละเว้นในการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดการทุจริต นอกจากนี้ให้เหล่าทัพและหน่วยขึ้นตรงกลาโหมเตรียมความพร้อมรับมือภัยการก่อการร้าย โดยตั้งอยู่ที่ความไม่ประมาท เน้นเรื่องงานด้านการข่าวที่เชื่อมโยงกับภาคประชาชน โดยสร้างความเข้าใจให้ประชาชนให้ตื่นตัว นอกจากนี้ให้ระมัดระวังป้องกันอุบัติภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยร่วมกันรณรงค์ป้องกันและการลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ในทุกมาตรการ รวมถึงหาแนวทางป้องกันไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
พล.ต.คงชีพ ยังชี้แจงเพิ่มเติมของการใช้พระราชบัญญัติกำลังพลสำรอง 2558 ว่า การนำกฎหมายเดิมหลายฉบับ มาปรับให้ทันสมัยเข้าใจง่าย ซึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยเป็นการใช้งบประมาณในเรื่องของการปฏิรูปเกี่ยวกับกำลังพล อาทิ การเรียกกำลังพลสำรองที่มีอายุไม่เกิน 45 ปี มีสถานะเป็นนักศึกษาวิชาทหารปีที่5 นักศึกษาวิชาทหารปีที่ 3 และกำลังพลสำรองที่ปลดประจำการในแต่ละปีไม่เกิน 70,000 คนหรือ 1- 2% ไม่ใช่อายุ 60 ปีตามที่มีการส่งต่อข้อมูล
“เปิดโอกาสให้กำลังพลสำรองที่สมัครใจและเรียกเพื่อหมุนเวียนเข้ามาฝึกประมาณ 10 วัน โดยจะเน้นผู้เชี่ยวชาญและความรู้เฉพาะด้านเพื่อเข้ามาทำงานในยามที่เกิดภัยพิบัติขนาดใหญ่ โดยจะได้รับสวัสดิการเท่าเทียมกับทหารในภาพรวม อาทิ สิทธิกำลังพล เบี้ยเลี้ยง ค่าเดินทาง เครื่องแต่งกาย” โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าว.-สำนักข่าวไทย.-235 (233)